รัฐสภา 20 ธ.ค. – วุฒิสภาผ่านร่างกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น นักการเมือง-ส.ส. ช่วยหาเสียงได้ หลัง กมธ. พยายามแก้ไขแต่ไม่สำเร็จ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่…) พ.ศ. … หลังจากที่กรรมาธิการฯ ที่มี พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช ส.ว. เป็นประธาน กมธ. ซึ่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวมีข้อเสนอให้แก้ไขเพียงมาตราเดียว คือ การเปิดช่องให้ข้าราชการการเมือง ส.ส. สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่นหรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ช่วยหาเสียงเลือกตั้งได้ ซึ่ง กมธ.ของวุฒิสภาได้แก้ไข โดยตัดวรรคแรกที่บัญญัติให้ช่วยหาเสียงเลือกตั้งได้ และแก้ไข ขยายให้สิทธิ ส.ว. ช่วยหาเสียงเลือกตั้งได้ด้วย นอกจากข้าราชการการเมือง ส.ส. สมาชิกสภาท้องถิ่น ผู้บริหารท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ สามารถช่วยหาเสียงเลือกตั้งได้
ทั้งนี้ ในการอภิปรายของ ส.ว. พบว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะประเด็นการขยายสิทธิให้ ส.ว. ร่วมหาเสียงเลือกตั้งได้ เพราะอาจจะขัดต่อเจตนารมณ์ที่ให้ ส.ว. เป็นกลางทางการเมือง และอาจทำให้มีปัญหาต่อการผู้บังคับใช้กฎหมาย นอกจากนั้นยังท้วงติงต่อการตัดวรรคแรกออกไป ซึ่ง กมธ. ให้เหตุผลว่าเมื่อไม่เขียนห้ามย่อมทำได้ แต่ในลักษณะของกฎหมายอาจทำให้เกิดการตีความและเป็นปัญหา ทำให้ พล.อ.เลิศรัตน์ ชี้แจงต่อที่ประชุมโดยเห็นถึงข้อกังวลของ ส.ว. ที่ท้วงติง จึงขอหารือกับ กมธ. เพื่อแก้ไข ทำให้นายพรเพชรสั่งพักการประชุม 10 นาที และได้แจ้งกับที่ประชุม ว่าขอกลับไปใช้เนื้อหาเดิมที่ผ่านการเห็นชอบของสภาผู้แทนราษฎร
พล.อ.เลิศรัตน์ ชี้แจงว่ากรณีที่มี ส.ว. สงวนคำแปรญัตติให้นำถ้อยคำว่าหากพบการกระทำที่กลั่นแกล้งผู้สมัครหรือดำเนินการใดๆ เป็นคุณหรือโทษกับผู้สมัคร คืนมา กมธ. ไม่เห็นด้วย เพราะในเนื้อหาบัญญัติข้อห้ามการกระทำที่อาจเป็นการกลั่นแกล้งกัน
จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติ โดยเสียงข้างมาก 145 เสียง เห็นด้วยกับ กมธ. จากนั้นได้ผ่านวาระ 2 และได้ลงมติในวาระ 3 ผลปรากฎว่าเสียงข้างมาก 157 เสียง เห็นชอบ 12 เสียง ไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง 18 เสียง จึงถือว่าร่าง พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น (ฉบับที่…) พ.ศ. … ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภา โดยไม่มีการแก้ไขไปจากร่างที่สภาฯ เห็นชอบ ทำให้ในขั้นตอนต่อไปจะดำเนินการแจ้งให้สภาฯ ทราบ และดำเนินการประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย