รัฐสภา 14 ธ.ค.-ประชุมสภาฯ ป่วนหลังสมาชิกอภิปรายร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ก่อนลงมติตัดมาตรา 3 แต่กมธ.ไม่ได้มีมติให้ตัดแต่แรก ปธ.ที่ประชุมต้องพักประชุม ส่งกลับไปลงมติให้ถูกต้องตามขั้นตอนก่อน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้(14 ธ.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม โดยประธานได้แจ้งต่อที่ประชุมกรณีน.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ และนายเดชทวี ศรีวิชัย ส.ส.จังหวัดลำปาง พรรคเสรีรวมไทยยื่นใบลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทำให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคือ 471 คน และองค์ประชุมกึ่งหนึ่งต้องมีจำนวน 236 คนขึ้นไป
จากนั้น ที่ประชุมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. …. ซึ่งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยสมาชิกให้ความสนใจอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในคำปรารภที่มีผู้ขอสงวนคำแปรญัตติจำนวนมาก โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ เห็นว่ากฎหมายฉบับนี้ประชาชนให้ความสนใจอย่างมาก อีกทั้งสภาฯ พิจารณาผ่านวาระรับหลักการ ไปแล้ว แต่เชื่อว่าสภาฯ รับหลักการอย่างมีเงื่อนไข ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์และอีกหลายพรรคการเมืองแสดงเจตจำนงไว้แล้วว่าต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ใช้ประโยชน์จากกัญชาในทางการแพทย์เท่านั้น
“แม้ก่อนหน้านี้จะนำกลับไปทบทวนใหม่ ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในตัวกฎหมาย โดยเฉพาะในคำปรารภที่กรรมาธิการแก้ไข แต่ยังไม่มีความรอบคอบ เพราะไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 77 ที่ไม่เป็นกฎหมายของรัฐบาล แต่เป็นกฎหมายของสมาชิกที่เสนอเข้าสู่สภาฯ เพราะอาจจะเร่งรีบในบางประการ ดังนั้น การเพิ่มเติมข้อความในคำปรารภยังไม่ชัดเจนเท่าที่ควร อาทิ การที่กฎหมายย้ำถึงประโยชน์ทางเศรษฐกิจของประชาชน แต่ยังไม่ระบุว่าประโยชน์ทางเศรษฐกิจนั้นเพื่ออุตสาหกรรมทางการแพทย์เท่านั้น” นายสาทิตย์ กล่าว
น.ส.พิมพ์รพี พันธุ์วิชาติกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า. จากการลงพื้นที่ที่ดูแลอยู่ทั้งอ.คลองท่อม อ.ลำทับและอ.เกาะลันตา จ.กระบี่ มีประชาชนที่นับถือทั้งศาสนาพุทธและมุสลิมกว่า 30 แห่ง ทั้งมัสยิด โรงเรียน โรงพยาบาล ร้านอาหาร ทุกคนมีปัญหาอยู่ 2 ประการ ความกังวลทางด้านเศรษฐกิจที่มีผลต่อชีวิตตัวเองและความกังวลต่อสิ่งเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งเสพติดที่มีผลต่อเยาวชน สตรีมีครรภ์ และผู้เปราะบาง
น.ส.พิมพ์รพี กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่ตัดคำว่าบุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปี และกลุ่มบุคคลเสี่ยงอื่นออกไป ซึ่งอาจจะให้ความหมายได้ว่าเป็นการครอบคลุมถึงทุกคนแต่ประชาชนทุกคนไม่ได้เกิดมาเท่าเทียมกัน จึงอาจจะต้องเพิ่มเติมคำ เช่น เยาวชน เพื่อให้เยาวชนได้รับการปกป้องจากกัญชา ต้องยอมรับในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลว่าเราปลดล็อกกัญชา ทุกคนจึงต้องรับผิดชอบความผิดร่วมกันว่าการปลดล็อกกัญชาก่อนจะมีพ.ร.บ.ทำให้เกิดสุญญากาศและเกิดปัญหาตามมา
“ยืนยันว่ากัญชาสำหรับดิฉันคือยาเสพติด ขอขีดเส้นใต้ว่า ประชาธิปัตย์ยืนยันว่าเรา สนับสนุน สนับสนุน และสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์และเศรษฐกิจการแพทย์ เราไม่สนับสนุนกัญชาเพื่อการเสรี ร่างใด ๆ ที่ทำให้เกิดความเสรีนี้ต้องลบออกและแก้ไขเปลี่ยนแปลง ยืนยันจะปกป้องสตรีและเยาวชน” น.ส.พิมพ์ระพี กล่าว
ด้านนายสุทิน คลังแสง ส.ส.จังหวัดมหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ท้วงติงเกี่ยวกับหลักการและเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวว่าสภาผู้แทนราษฎรแก้ไขประมวลกฎหมายยาเสพติดให้โทษ โดยปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติดแล้ว ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะความเป็นจริงแล้วกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ออกประกาศปลดล็อก ทำให้สภาผู้แทนราษฎรจำเป็นต้องรับหลักการร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไว้พิจารณา เพราะยังไม่มีกฎหมายควบคุมการใช้กัญชาอย่างจริงจัง แต่ท้ายที่สุดกรรมาธิการกลับปรับปรุงให้กัญชาสามารถใช้ในทางสันทนาการได้ ซึ่งไม่เห็นด้วยและต้องปรับปรุงไม่ให้ใช้ในทางสันทนาการ
ขณะที่นายศุภชัย ยืนยันว่ากรรมาธิการได้ประชุมหารือเกี่ยวกับประด็นดังกล่าวแล้วว่าจะตัดมาตรา 3 ออก จึงไม่จำเป็นต้องพักการประชุม เพราะจะทำให้เสียเวลาการพิจารณากฎหมาย เนื่องจากขณะนี้ พิจารณาได้เพียง 3 มาตราจากทั้งหมด 95 มาตรา ทั้งนี้ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผ็แทนราษฎร ซึ่งทำหน้าที่ประธานการประชุมเห็นพ้องตามที่ประธานกรรมาธิการเสนอ ทำให้นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทยลุกขึ้นประท้วงการทำหน้าที่ประธานของนายศุภชัย โดยมองว่าประธานทำหน้าที่ลำเอียง เนื่องจากเป็นพรรคเดียวกัน
ในที่สุดกรรมาธิการต้องยอมถอย เสนอให้ประธานที่ประชุมสั่งพักการประชุม เพื่อให้กรรมาธิการกลับไปดำเนินการให้เป็นไปตามข้อบังคับ โดยลงมติตัดมาตรา 3 ในชั้นกรรมาธิการให้แล้วเสร็จก่อน ประธานที่ประชุมจึงสั่งพักการประชุม 15 นาที.-สำนักข่าวไทย