ทำเนียบรัฐบาล 29 พ.ย.-‘วิษณุ’ ยอมรับหาก ส.ส.ทยอยลาออก ทำเสียงในสภาฯ ปริ่มน้ำ ไม่สามารถเป็นองค์ประชุมต้องยุบสภาฯ ชี้ ‘พล.อ.ประวิตร’ พูดเล่น แค่อุปมา พรรค พปชร.-รทสช. เป็นพรรคพี่น้องกัน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่มีส.ส.ทยอยลาออก ซึ่งจะกระทบต่อองค์ประชุม ทำให้ต้องยุบสภาหรือไม่ ว่า ถ้าลาออกจนกระทั่งเสียงส.ส.ไม่สามารถเป็นองค์ประชุมได้ก็จะต้องยุบสภาฯ ซึ่งเสียงจะต้องมีไม่ต่ำกว่า 250 เสียง ซึ่งตอนนี้องค์ประชุมแทบจะไม่ถึงเหลือประมาณ 237 เสียง ซึ่งเป็นวิธีที่เคยคิดกันและใช้กันในบางประเทศลาออกจนเหลือส.ส.ไม่เกินกึ่งหนึ่ง สภาจึงไม่รู้จะอยู่ไปทำไม
สำหรับกรณีที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ระบุว่าพรรคพปชร.และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) คือพรรคเดียวกันในทางกฎหมายจะมีปัญหาหรือไม่นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า น่าจะเป็นการพูดเล่น เมื่อนักข่าวไปพูดแหย่ จึงพูดเช่นนั้น ทำนองที่ให้เห็นว่าเป็นหน่อเนื้อ เชื้อไข ซึ่งมองว่าเป็นการพูดเล่นไม่น่าจะถือเป็นการครอบงำทางกฏหมายได้
อย่างไรก็ตามหากมีคนติดใจประเด็นนี้ก็สามารถร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)ได้ และคงนำไปสู่การไต่สวน แต่ไม่สามารถจะจับประเด็นเอาคำพูดนั้นไปเอาผิดได้ เพราะเป็นการพูดหยอกย้อนเล่นคำเท่านั้นเอง ซึ่งตนก็ฟังอยู่ด้วย หากมีการครอบงำการทางกฏหมายถือว่าผิดต้องมีพฤติกรรมอื่นๆประกอบด้วย ย้ำว่าแต่ครั้งนี้เป็นการพูดเล่นก็เหมือนกับว่า “โอ้ เราพี่น้องกัน” พูดเหมือนอุปมาเปรียบเทียบ
ส่วนในทางการเมืองแต่ละพรรคเป็นพันธมิตรกันได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นได้ทุกพรรค ตอนก่อนเลือกตั้งส่วนใหญ่สู้กันในสนาม แต่พอถึงเวลาเลือกตั้งก็จับมือกันได้
เมื่อถามต่อถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ยังคงเป็นนายกฯ แต่ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครทสช.จะมีปัญหาอะไรหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า สมัครได้ และหากพล.อ.ประยุทธ์ไปจริง คนที่จะต้องเดือดร้อนในเรื่องนี้คือพรรคพลังประชารัฐ ไม่ใช่ประชาชน
ส่วนเจตนารมณ์ของประชาชนเลือกพรรคพปชร.เพราะพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ นายวิษณุกล่าวว่า ตอนที่ลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี หลายพรรคลงมติให้พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย ดังนั้นการที่ไปสมัครสมาชิกพรรครทสช.โดยยังไม่ลาออกถือว่าไม่ย้อนแย้ง และการเป็นแคนดิเดตนายกฯไม่มีข้อผูกมัดอะไร ได้ทั้งนั้น ยกตัวอย่าง สมมติในวันนี้จะเสนอชื่อหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย หรือนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่ากทม.ก็ได้ทั้งนั้น ซึ่งหากใครสงสัยก็ไปยื่นให้ตีความได้ เนื่องจากในทางกฎหมายไม่มีปัญหาอะไร เพราะเริ่มต้นเขาไม่ได้บอกว่าคนที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯต้องเป็นสมาชิกพรรค ในเมื่อพรรคไปเสนอเองโดยที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกันตั้งแต่ต้น วันนี้เค้าตัดสินใจที่จะเลือกบ้านอยู่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ ( 30 พ.ย)ว่าเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมาศาลก็ตัดสินว่าร่างพรป.พรรคการเมืองไม่ขัด ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ดังนั้นพรุ่งนี้รัฐบาลไม่มีอะไรจะต้องวิตกกังวล เพราะมีทางออกไว้หลายทาง แต่เราไม่รู้ว่าจะลงท้ายอย่างไร คิดคนเดียวไม่ได้ต้องคิดหลายคน เช่นคิดกับกกต.หากจะชวนกกต.มาคิดเขาก็จะหาว่าเราตีตนไปก่อนไข้ หรือหาว่าเราบ้า
เมื่อถามอีกว่าทุกทางออกจะมีการเลือกตั้งทันต่อเวลาตามกรอบรัฐธรรมนูญ หากมีการยุบสภา นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องพยายามทำให้ทัน ให้อยู่ในกรอบเวลาอยู่แล้ว และหากจะออกเป็นพระราชกำหนด เชื่อว่าฝ่ายค้านไม่ขัดข้อง แต่ต้องมีหน่วยงาน หรือองค์กรมารับรองว่าทำได้ ซึ่งหากรับรองในเชิงวิชาการ คือ นักวิชาการ แต่หากรับรองในเชิงกฎหมาย คือศาลรัฐธรรมนูญ และหากรับรองในเชิงปฏิบัติ คือ กกต. สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ต้องคิดด้วยกัน และกกต.จะต้องปรึกษารัฐบาล เพราะเป็นกฎหมายของกกต.
สำหรับกรณีที่นายกฯระบุว่าจะปรับครม.ก่อนเวลานั้น นายวิษณุ กล่าวว่า วานนี้(28พ.ย.)นายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เช่นนั้น ส่วนในการปรับครม.ครั้งนี้ตนจะยังคงอยู่หรือไม่นั้น ไม่ขอตอบ. สำนักข่าวไทย