กรุงพนมเปญ 11 พ.ย.- ไทยร่วมเสนอ 3 แนวทาง ขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน “สร้างปัจจุบันให้เข้มแข็ง – ร่วมแรงสู่อนาคต – เคารพวิถีอาเซียน” เพื่อประชาคมที่เข้มแข็งและก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 และร่วมพิธีเปิดตัวนิทรรศการภาพถ่ายและหนังสือ Cambodia’s Contribution to ASEAN ณ ห้อง Ballroom I และ Ballroom II ชั้น Lobby โรงแรมสกคา
จากนั้นในเวลา 08.50 น. นายกรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 แบบเต็มคณะ โดยมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ ยกเว้นเมียนมาไม่เข้าร่วม และมีเลขาธิการอาเซียนเข้าร่วมประชุม เพื่อหารือเกี่ยวกับการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น รวมทั้งนโยบายและทิศทางในอนาคตของประชาคมอาเซียน
นายกรัฐมนตรี ขอบคุณ และชื่นชมกัมพูชาที่ได้ทำหน้าที่ประธานอาเซียนอย่างดีเยี่ยม พร้อมยินดีที่ข้อริเริ่มของกัมพูชาประสบความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งการสานต่อความพยายามในการรับมือ และฟื้นฟูจากโควิด-19 และการจัดทำวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลังปี ค.ศ. 2025 ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็งและก้าวหน้ายิ่งขึ้น ไทยภูมิใจที่เห็นอาเซียนพัฒนาจนกลายเป็นประชาคมที่เข้มแข็ง มีขนาดเศรษฐกิจอันดับ 5 ของโลก
อย่างไรก็ดี นายกรัฐมนตรีได้เสนอ 3 แนวทางในการขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน เพื่อต่อสู้กับความท้าทายหลายรูปแบบ แนวทางที่หนึ่ง คือ สร้างปัจจุบันให้เข้มแข็ง มุ่งดำเนินการตามกรอบการฟื้นฟูที่ครอบคลุมของอาเซียน โดยเฉพาะการส่งเสริมระบบสาธารณสุขและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งนายกรัฐมนตรียินดีที่การจัดตั้งศูนย์แอคฟีด (ASEAN Centre for Public Health Emergencies and Emerging Diseases : ACPHEED) มีความคืบหน้า และไทยในฐานะที่เป็นที่ตั้งของสำนักงานด้านการตอบสนองและสำนักเลขาธิการของศูนย์แอคฟีด พร้อมร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับอินโดนีเซียและเวียดนาม เพื่อให้การทำงานของศูนย์ฯ มีบูรณาการและสามารถรับมือกับเหตุฉุกเฉินทางสาธารณสุขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันควรเร่งส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาค และกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับหุ้นส่วนของเราให้แน่นแฟ้น
ทั้งนี้ ไทยเสนอให้จังหวัดภูเก็ตเป็นเจ้าภาพจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษปี ค.ศ. 2028 ภายใต้แนวคิด “ชีวิตแห่งอนาคต: แบ่งปันความรุ่งเรือง อยู่ร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว” เพื่อส่งเสริมพลวัตด้านเศรษฐกิจและสังคมให้แก่อาเซียน โดยจะนำเสนอทางออกของปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากได้รับเลือกจะถือเป็นครั้งแรกที่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้รับเกียรติและความไว้วางใจให้จัดงานเอ็กซ์โประหว่างประเทศ ประเทศไทยจึงหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนด้วยดีจากประเทศสมาชิกอาเซียน
แนวทางที่สอง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้ร่วมแรงสู่อนาคต โดยทุกฝ่ายร่วมกันขับเคลื่อนวาระความยั่งยืนให้เป็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอาเซียน เน้นส่งเสริมความยั่งยืนในทุกมิติ และหวังว่า วิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลังปี ค.ศ. 2025 จะสะท้อนเรื่องความยั่งยืนในการทำงานของอาเซียนในอนาคต รวมทั้งคำนึงถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลก ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ส่งผลกระทบ ทำให้เกิดความท้าทาย และเห็นควรส่งเสริม ต่อยอดนวัตกรรมให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่เน้นความสมดุลและยั่งยืน และแนวทางที่ 3 คือการคารพวิถีอาเซียน โดยไทยพร้อมร่วมมือเสริมสร้างความเข้มแข็งแกร่ง
ภายหลังการประชุมสุดยอดอาเซียน นายกรัฐมนตรี จะเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน + จีน และสุดยอดอาเซียน + เกาหลี และสุดยอดอาเซียนกับสหประชาชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความชื่นมื่น ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด โดยมีการตั้งจุดตรวจตราเข้มตั้งแต่ก่อนเข้าประชุม มีทหารถือปืนยืนประจำการอยู่ด้านทางเข้า-ออกทุกประตู เพื่อดูแลความเรียบร้อย – สำนักข่าวไทย