นายกฯ ชื่นชมทุกฝ่ายรับมือความท้าทายโควิด-19

กัมพูชา 10 พ.ย.-นายกรัฐมนตรี แสดงข้อคิดเห็นระหว่างการหารือผู้นำอาเซียนกับสมัชชารัฐสภาอาเซียน ชื่นชมทุกฝ่ายร่วมรับมือความท้าทายแก้ปัญหาโควิด-19 พร้อมส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจ

“บุษยา อุ้ยเจริญ” ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ติดตามการร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 40 และ 41 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่กัมพูชา ระหว่างวันที่ 10-13 พฤศจิกายนนี้ รายงานว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวแสดงข้อคิดเห็นในการหารือระหว่างผู้นำอาเซียนกับผู้แทนสมัชชารัฐสภาอาเซียน (ASEAN Inter-Parliamentary Assembly: AIPA)ในระหว่างการเดินทางมาร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 40 และ41 โดยมีสมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาและประธานอาเซียน เป็นประธานการประชุม และมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียน 9 ประเทศ ยกเว้นเมียนมาไม่เข้าร่วม และยังมี เลขาธิการอาเซียน และเลขาธิการ AIPA ซึ่งนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาเป็นผู้แทนรัฐสภาไทยเข้าร่วมด้วย


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยินดีที่ได้พบกับสมาชิก AIPA  การควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างมีประสิทธิภาพแสดงถึงความสำเร็จของรัฐบาล ฝ่ายนิติบัญญัติ และประชาชนที่ร่วมมือเพื่อรับมือกับความท้าทายนี้ อย่างไรก็ดี ต้องร่วมมือกันต่อไปเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ แก้ไขประเด็นด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมตามคำกล่าวของประธาน AIPA

นายกรัฐมนตรี เชื่อว่า AIPA สนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลสมาชิกในอาเซียนได้ 3 ประการ คือ


1. ตอบสนองต่อการรับมือและบรรเทาผลกระทบจากความท้าทายต่าง ๆ อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ฝ่ายนิติบัญญัติและฝ่ายบริหารต้องร่วมมือกันต่อไปเพื่อพิจารณาผ่านร่างกฎหมายที่จำเป็นและงบประมาณของประเทศเพื่อส่งเสริมความมั่นคงด้านสาธารณสุข 

2. ขับเคลื่อนวาระของประชาชน หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถ่ายทอดความเห็นของประชาชนมายังรัฐบาล  โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับประชาชนเพื่อขยายผลไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และเพื่อความผาสุกของประชาชน

3. แก้ไขหรือออกกฎหมายภายในให้สอดคล้องกับพันธกรณี และความตกลงของอาเซียน ส่งเสริมการรวมตัวทางเศรษฐกิจ โดยนายกรัฐมนตรียินดีที่ RCEP มีผลบังคับใช้แล้ว และหวังว่าประเทศที่เหลือจะเร่งดำเนินการให้สัตยาบันโดยเร็ว เพื่อใช้ผลประโยชน์จากความตกลงฯ ร่วมกัน ในตอนท้าย นายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นว่า รัฐสภาอาเซียนจะช่วยส่งเสริมความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วน นำประชาคมอาเซียนสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนเป็นประชาคมเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง