ทำเนียบรัฐบาล 1 พ.ย.- “วิษณุ” ระบุ ยังไม่มีปัจจัยเสี่ยงต้องยุบสภา แต่ถ้ายุบต้องมีเวลาสังกัดพรรคใหม่ 30 วัน ย้ำรัฐบาลรักษาการเรื่อยไปไม่ได้ ยังไงก็ต้องเลือกตั้ง
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีส.ส.พยายามโยงว่า 24 ธัวาคมนี้คือวันที่จะครบวาระที่ส.ส.ต้องลาออก เพื่อหาสังกัดพรรคใหม่ให้ทันใน 90 วัน ซึ่งความจริงเส้นตายนับถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ใช่หรือไม่ ว่า ตนไม่เคยรู้ว่าเขานับกันอย่างไร แต่ต้องนับจาก 23 มีนาคม 2566 ถอยลงมาหากอยู่ครบวาระ แต่ถ้ากรณียุบสภาใช้เวลา 30 วันในการไปสังกัดพรรค ทั้งนี้ โมเดลกกต.ที่กำหนดวันเลือกตั้ง 7 พฤษภาคม 2566 จะต้องนับจากวันดังกล่าวลงมา 90 วัน ซึ่งโมเดลนี้กำหนดเผื่อไว้เท่านั้น เพราะไม่รู้ว่าสภาจะสิ้นสุดลงด้วยการยุบสภาหรือครบวาระ
เมื่อถามว่า สังคมกำลังสับสนว่า 24 ธันวาคมนี้ จะเป็นวันสุดท้าย นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่มีอะไรสับสน พอรู้แน่ชัดแล้วว่าเมื่อสภาเปิดแล้ววันนี้ ใครจะคิดอ่านอย่างไรควรจะเริ่มคิดตั้งแต่ตอนนี้ เผื่อสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้
ส่วนที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าหากยุบสภาแล้ว กฎหมายลูกเลือกตั้งยังไม่ผ่าน รัฐบาลจะรักษาการไปเรื่อย ๆ จนกว่ากฎหมายจะเสร็จจริงหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่บางคนคิด รัฐบาลไม่รู้ ว่าถ้าเกิดเหตุแบบนั้นขึ้นมาจะอยู่กันอย่างไร และใช้กฎหมายอะไร เพราะรัฐบาลไม่ใช่คนชี้เรื่องนี้ แต่เป็นกกต. และถ้าใครไม่เชื่อก็ต้องไปร้องศาลรัฐธรรมนูญ รัฐบาลไม่มีอำนาจกำหนด
ส่วนมีเงื่อนไขบังคับว่าต้องเลือกตั้ง จึงทำให้ไม่สามารถยื้อเวลารักษาการให้ยาวนานได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้ ยังไงต้องเลือกวันใดวันหนึ่ง เลือกผิดเลือกถูกก็ต้องทำไป แล้วให้ศาลชี้ เพราะถึงอย่างไรต้องมีเลือกตั้ง และหาทางร่วมกันจนได้ว่าจะใช้กฎเกณฑ์อย่างไร
นายวิษณุ กล่าวถึงกฎหมายลูกเลือกตั้งว่า วันนี้อยู่ระหว่างศาลรัฐธรรมนูญกำลังขอให้กกต.ชี้แจงภายใน 15 วัน ขณะนี้ยังไม่ครบเวลา ซึ่งเมื่อชี้แจงแล้วศาลจึงจะวินิจฉัย ตนไม่คิดว่าจะช้า เพราะเป็นปัญหาข้อกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องสืบพยาน ส่วนหากเกิดอุบัติเหตุและจังหวะนั้นวาระรัฐบาลเหลือน้อย จะทำอย่างไรนั้น ทางกกต.และรัฐบาลต้องมาคิดร่วมกัน แต่ถือว่ากกต.ได้เปรียบ เพราะออกกฎเกณฑ์อะไรได้ก่อน ถ้าใครเห็นว่าผิดก็ไปฟ้องร้องได้
ส่วนจะถึงขั้นออกเป็นพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เลยหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ถ้าถามตน ที่สุดของที่สุดก็ต้องทำอย่างนั้น แต่มันไม่สมควร เพราะการออกพ.ร.ก. เท่ากับเป็นการใช้อำนาจฝ่ายเดียว ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้เริ่มคิดถึงเรื่องนี้ เพราะยังไม่มีเหตุอะไร จะคิดเมื่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาไประยะหนึ่ง เราจะรู้ว่าจะออกมาแบบไหน ตอนนี้ยังคิดไม่ได้
“แต่รู้ว่ามีหลายทาง แต่อย่าไปคิดเลยมันจะฟุ้งซ่าน บ้า และวิกลจริต ตอนนี้ยังไม่มีเหตุหรือสถานการณ์อะไรในสภาฯ ที่จะต้องมานั่งคิดเตรียมรับสถานการณ์ว่ามันอาจจะต้องยุบสภาแล้วนะ ตอนนี้มันไม่มีอะไรที่เป็นปัจจัยเสี่ยง” นายวิษณุ กล่าว.-สำนักข่าวไทย