“เกียรติชัย”หนุนควบรวมทรู-ดีแทค

กทม. 27 ต.ค.- “เกียรติชัย” สนับสนุนควบรวมทรู-ดีแทค เชื่อเกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคและประเทศชาติ ช่วยลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา คาดทรูและดีแทคต้องปรับยุทธศาสตร์รองรับเงื่อนไข กสทช. แต่มั่นใจเป็นโอกาสในการสร้างความเปลี่ยนแปลงแก่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยให้ก้าวไกล


นายเกียรติชัย โสภาเสถียรพงศ์ นักการเงินการคลัง และอดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลังและอดีตบอร์ดสภาการศึกษาฯ กล่าวถึงการควบรวมกิจการระหว่าง ทรู คอร์ปอเรชั่นและโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค)  และการกำหนดเงื่อนไขหรือมาตรการเฉพาะเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและการพัฒนากิจการโทรคมนาคม ตามประกาศ ปี 2561  ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ว่า ตนเชื่อมั่นว่าการควบรวมดังกล่าวจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภคและประเทศชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเทคโนโลยีมาพัฒนามาตรฐานการศึกษาของประเทศไทย จะสามารถลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา 

“การออกเงื่อนไขของกสทช.นั้นผมมองว่าเป็นทั้ง  “ยาขม” และ “ความท้าทาย” ต่อการปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของทรูและดีแทค แต่มั่นใจว่าทรูและดีแทคจะสามารถปรับยุทธศาสตร์เพื่อรองรับเงื่อนไขของ กสทช. ได้ในที่สุด ซึ่งจะเป็นโอกาสในการสร้างความเปลี่ยนแปลงแก่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยให้ก้าวไกล” นายเกียรติชัย กล่าว


นายเกียรติชัย กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกบอร์ดสภาการศึกษามา 5 ปี ตนได้ประจักษ์ถึงบทบาทอันสำคัญของเทคโนโลยีที่จะมาช่วยพัฒนามาตรฐานการศึกษาของประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา  และยังคงยืนยันสนับสนุนการควบรวมครั้งนี้ ดังเช่นที่เคยเขียนเสนอความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับแผนการควบรวมระหว่างทรูและดีแทค ถึงกสทช. ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.2565 ที่ผ่านมา ตนเชื่ออย่างแรงกล้าว่าแผนการควบรวมระหว่าง 2 บริษัทโทรคมนาคมครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ให้แก่ประเทศไทย และที่สำคัญด้วยสินค้าและบริการที่หลากหลายมากกว่าเดิมของทั้ง 2 บริษัทเทคโนโลยีนี้ ส่งผลให้ภาคธุรกิจโทรคมนาคมจะสามารถนำเสนอโซลูชันที่รวดเร็วในราคาที่ย่อมเยาว์ให้แก่ภาคการศึกษาไทยที่ยังมีความเหลื่อมล้ำและยังเกิดช่องว่างระหว่างกลุ่มคนในสังคมในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลการศึกษา เช่น ครูที่มีประสบการณ์และมีคุณสมบัติที่เหมาะสม หนังสือเรียน เทคโนโลยี ตลอดจนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ แก่โรงเรียน  การควบรวมบริษัทโทรคมนาคมครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิด “นวัตกรรมเทคโนโลยีด้านการศึกษา”  ได้แก่ (1) หนังสือดิจิทัลและแท็บเล็ต  (2) การพิมพ์ 3 มิติ  (3) เทคโนโลยีโลกเสมือน  (4) เกมมิฟิเคชั่น (5) เทคโนโลยีคลาวด์ (6) ปัญญาประดิษฐ์ และ (7) เทคโนโลยีโมบายล์

อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าจากเงื่อนไขที่กสทช. กำหนดขึ้นมาสำหรับการควบรวมทรู-ดีแทคถือว่าสร้างความท้าทายให้แก่โอเปอร์เรเตอร์เครือข่ายโมบายล์ที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 และ 3 ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้ ให้ความสำคัญแก่ประโยชน์ของผู้บริโภคเป็นสำคัญนั้น ทั้งยังเป็นการสร้างความเปลี่ยนแปลง (Disrupt) กลยุทธ์ของทรูและดีแทคในอนาคตอีกด้วย เพราะการระบุเงื่อนไขที่ยังคงแบรนด์การให้บริการแยกจากกัน เป็นระยะเวลา 3 ปีนั้น จะส่งผลกระทบต่อแผนของทรูและดีแทคในการผนึกความแข็งแกร่งที่จะดึงดูดผู้ใช้งานที่มากขึ้น ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์หลักของการควบรวม กลยุทธ์หลังการควบรวมกิจการอาจล่าช้าถึง 3 ปี ซึ่งจะทำให้ผู้แข่งขันใช้แคมเปญการตลาดใหม่มาแย่งชิงลูกค้าที่มีอยู่ ถือเป็นการการสกัดกั้นการสร้างแบรนด์ใหม่ เงื่อนไขข้อนี้ทำให้ ทรูและดีแทคยังไม่ได้อยู่ในตำแหน่งผู้นำตลาดหลังการควบรวมในทันที

ขณะเดียวกัน ข้อห้ามของกสทช. ที่ไม่ให้บริษัทควบรวมปฏิเสธการจัดให้มีผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบโครงข่ายเสมือน (MVNO) เพื่อให้มั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับบริการโมบายล์อย่างราบรื่นนั้น จะเป็นภาระให้กับทั้งทรูและดีแทคที่ยังคงต้องจัดสรรบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบโครงข่ายเสมือน เงื่อนไขและมาตรการเฉพาะของกสทช.ส่งผลให้ทรูและดีแทคต้องเผชิญกับความท้าทาย และจำเป็นต้องปรับปรุงกลยุทธ์ทางธุรกิจ รวมถึงแผนการตลาดในปี 3 ปีข้างหน้าเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกสทช.


นายเกียรติชัย เชื่อมั่นด้วยว่าการควบรวมทรูและดีแทคครั้งนี้ จะก่อให้เกิดการขับเคลื่อนที่นำไปสู่การขยายขนาดธุรกิจ เพราะเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการขนาดเล็กที่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายการลงทุนที่สูง โดยปราศจากผลตอบแทนในการลงทุนที่ได้คืนกลับมาในทันที ซึ่งคล้ายกับแผนการควบรวมของบริษัท Celcom Axiata และ Digi ในมาเลเซีย ทั้งนี้จากข้อมูลของบริษัทGSMA Intelligent พบว่าฐานลูกค้าของดีแทค มีจำนวนลดลงในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา จาก 28.4 ล้าน เหลือเพียง 19.3 ล้านคนในปลายเดือนกันยายน และส่วนแบ่งทางการตลาดก็ลดลงเช่นเดียวกันจาก 34 %มาเป็นเพียง 20 % เช่นเดียวกันกับกำไรที่ลดลงต่อเนื่องถึง 5 ไตรมาส โดยจากรายงานของฟิทช์ เรทติ้งส์ คาดว่าการควบรวมในประเทศไทยจะส่งผลให้สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุน (CAPEX ) และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) รวมถึงเสถียรภาพทางการเงินและกำไรในระยะยาว ส่งผลให้บริษัทใหม่ สามารถแข่งขันกับเอไอเอสซึ่งมีการเงินที่แข็งแกร่งเพื่อลงทุน 5G ทั้งนี้ในรายงานผลวิจัยระดับโลก HSBC คาดการว่าการผนึกกำลังครั้งนี้ มีความเป็นไปได้ที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุน (CAPEX) และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX) ได้ 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ถึง 5.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลอดจนเพิ่มรายได้ ในมุมของกฎระเบียบ สถาบันการเงินเชื่อว่า การควบรวมครั้งนี้ จะเกิดสิ่งดี ๆ เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทไม่มีใครสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างเพียงพอเพื่อลงทุนด้านเครือข่าย

“ผมเชื่อว่า การที่กสทช. ได้ออกมาตรการเฉพาะจำนวนมากเหล่านี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมและดูแลการควบรวมกิจการ โดยเฉพาะประเด็นการคุ้มครองผู้บริโภคตามที่สังคมวิตกกังวล ” นายเกียรติชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]