นักวิชาการ ชี้ กสทช.สวนทางกฎหมาย

กทม. 19 ต.ค.- นักวิชาการด้านโทรคมนาคม ชี้ กสทช.ฝืนกฏหมายได้ไม่คุ้มเสีย กรณีรวมทรู-ดีแทค นักวิชาการด้านโทรคมนาคมเตือน กสทช.ต้องทำหน้าที่ตามอำนาจที่กฎหมายกำหนด หากสวนทางกฏหมาย อาจเกิดความผิด


นายสืบศักดิ์ สืบภักดี อาจารย์และนักวิชาการด้านโทรคมนาคม กล่าวถึงกรณีการควบรวมกิจการระหว่างทรูและดีแทคที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ซึ่งมีกำหนดพิจารณาลงมติในวันพรุ่งนี้ (20 ต.ค.65) โดยระบุว่า อำนาจหน้าที่ของ กสทช.ในการพิจารณาเรื่องการควบรวมที่เกิดขึ้น กสทช.มีบทบาทที่จะต้องพิจารณาในหลายมิติ ทั้งด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ค่าบริการ และการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยเมื่อพิจารณาตามกรอบกฎหมายจะพบว่ากรณีการควบรวมในลักษณะนี้ ระบุไว้ชัดเจนในประกาศ กสทช.ปี 2561 ซึ่งให้ กสทช.มีอำนาจใจการพิจารณารายงานของผู้ประกอบการที่ได้รับใบอนุญาต ในกรณีที่มีประสงค์จะควบรวม ซึ่งรายงานนี้ยังมีการกำหนดว่าต้องทำได้ทั้งก่อนควบรวมและหลังควบรวม โดย กสทช.มีอำนาจเต็มในการออกมาตรการเสริมเพิ่มเติม ถ้าสังคมมีความกังวลเรื่องของค่าบริการ คุณภาพการให้บริการ และการดูแลลูกค้า

“เรื่องนี้ตามกฎหมายจะพิจารณาโดยให้มติหรือไม่อนุมัติไม่ได้ แต่ กสทช. มีอำนาจเต็มที่ในการออกประกาศเพิ่มเติมได้หากเห็นว่าสังคมมีความกังวลเรื่องค่าบริการ คุณภาพการให้บริการ และการดูแลลูกค้า เพื่อให้เกิดความสมดุลในอุตสาหกรรมและการคุ้มครองผู้บริโภค” นายสืบศักดิ์ กล่าว


นายสืบศักดิ์ กล่าวว่า ทราบดีว่า กสทช. ต้องพิจารณาเรื่องนี้โดยรอบคอบเพราะอยู่ในความสนใจของประชาชนและผู้ใช้บริการ จึงมีการตั้งคณะทำงานและอนุกรรมการเพื่อศึกษาหลายด้าน แม้ว่าอนุกรรมการบางชุดมีผลการศึกษาที่เห็นแล้วเกิดข้อคำถาม เช่น ค่าบริการที่จะขึ้นไป 200% โดยความเป็นจริงเป็นกลไกจากการคำนวณ แต่ในชีวิตจริง หากค่าบริการขึ้นไป 200% นั่นแสดงว่าจะต้องไม่มีกสทช. อยู่ เพราะกสทช. มีกลไกที่จะกำกับและควบคุมเพดานราคา แม้อนุกรรมการเป็นผู้ทำข้อมูล แต่ผู้ตัดสินใจก็เป็นกรรมการ และยังมีการว่าจ้างบริษัทภายนอกหรือแม้แต่สถาบันการศึกษา อย่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ดำเนินการศึกษา และในส่วนของอำนาจของ กสทช. นั้น กสทช. ยังมีหนังสือไปถามคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย เพื่อให้ได้รับความชัดเจนในการตีความกรอบอำนาจตามกฎหมาย

เมื่อถามถึงข้อกังวลของผู้บริโภคเกี่ยวกับเรื่องราคา หรือผลกระทบด้านอื่นๆ หลังจากการควบรวม นายสืบศักดิ์ กล่าวว่า ถือเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ในเรื่องกลไกการกำกับกิจการโทรคมนาคม เป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้การควบคุมหลายด้าน ทั้งในด้านใบอนุญาต เรื่องคลื่น และเรื่องค่าบริการ ซึ่งกสทช. มีประกาศในการกำกับเพดานค่าบริการอยู่แล้ว ทุกวันนี้ก็ใช้อยู่ และราคายังต่ำกว่าที่กสทช. กำหนด ดังนั้นในเรื่องข้อกังวลต่างๆ กสทช. สามารถใช้ประกาศที่มีอยู่แล้วมากำกับดูแล แต่หากกังวลว่าดีลเรื่องนี้ไม่เคยมีมาก่อน และจะต้องให้ผ่านตามประกาศ กสทช. ปี 2561 ก็สามารถออกมาตรการหรือออกประกาศเสริมได้ ซึ่งกสทช.มีอำนาจเต็มที่ เพื่อให้มั่นใจว่าควบคุมราคาได้ ไม่มีการผูกขาด เป็นกลาง ไม่มีลักษณะของการเป็นผู้นำตลาดจนทำให้รายอื่นแข่งขันไม่ได้

“ดีลนี้เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2564 แต่กสทช.เริ่มปฎิบัติหน้าที่เดือนเมษายน 2565 ตอนนี้ผ่านมา 10 เดือน ใกล้จะครบปีเต็มที ณ วันนี้ กสทช. มีข้อมูลจากการศึกษาวิจัยครบถ้วนหมดแล้ว จึงเชื่อว่าถึงจุดที่ กสทช.ต้องตัดสินใจสำหรับดีลนี้แล้วว่าจะทำอย่างไร เพราะการไม่ตัดสินใจจะเกิดผลกระทบ ไม่ใช่แค่เรื่องผู้บริโภค แต่จะเป็นบรรทัดฐานต่อไปสำหรับการทำงาน ทั้งนี้ประชาชนกำลังจับจ้องว่า กสทช. ได้ปฏิบัติหน้าที่โดยใช้ความรู้ความสามารถหรือยัง ประเด็นจึงอยู่ที่ กสทช. ต้องทำหน้าที่ของตนเอง แต่หาก กสทช. มีเหตุผลว่าจะยังรอการพิจารณา ก็ต้องมีข้อมูลที่เชื่อถือได้จริงๆ รวมถึงการนำข้อมูลเข้าก็ต้องเป็นมติของกรรมการด้วย ไม่เช่นนั้นก็จะประวิงเวลาได้หมด เชื่อว่าการตัดสินใจของ กสทช. เป็นความสง่างามแน่นอน การลงมติไม่ได้ต้องเป็นเอกฉันท์ทั้งหมด แต่ละท่านมีเอกสิทธิ์ในการโหวตและสามารถชี้แจงเหตุผลของการตัดสินใจได้” นายสืบศักดิ์ กล่าว


ส่วนประเด็นจำนวนคณะกรรมการกสทช.ที่มีปัจจุบันมีเพียง 5 นายสืบศักดิ์ มองว่า ตั้งแต่ได้รับการโปรดเกล้าฯ ให้ปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา มี 5 คนก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ มีหลายเรื่องที่ดำเนินการ มีมติ และเรื่องนี้ก็เช่นกัน ซึ่งก็ต้องเป็นไปตามอำนาจในการปฏิบัติหน้าที่ว่าทำอะไรได้หรือทำไม่ได้ กสทช. ต้องตัดสินใจ และการตัดสินใจก็อยู่ในวาระ และข้อมูลก็มีครบแล้ว กรรมการหลายคนรู้งานอยู่แล้ว เพราะบางคนเคยปฏิบัติงานอยู่ใน กสทช. บางคนเป็นนักวิชาการที่ได้รับการยอมรับจากสังคม แต่ละคนก็มาจากหลายสาขา ซึ่งการสรรหากรรมการ กสทช. จากหลากหลายสาขา ก็เพื่อให้ใช้ความรู้ความสามารถด้านกฎหมาย ด้านวิชาการ หรือด้านมุมมองสังคม เพื่อมาตัดสินใจในเรื่องต่างๆ อีกหลายเรื่องในธุรกิจโทรคมนาคม จึงอยากให้สมดุลทั้งด้านการสนับสนุนอุตสาหกรรมและการคุ้มครองผู้บริโภคต้องไปได้ แต่จะหยุดชะงักไม่ได้ ขอให้กสทช. มั่นใจว่าปฏิบัติตามกรอบตามอำนาจหน้าที่ ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร เชื่อว่า ถ้ามีเหตุผลที่ดี สังคมสามารถรับฟังได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย

“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก จะทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์

พรรคภูมิใจไทย 10 ก.ย.-“ศุภจี” เปิดใจครั้งแรก ขอนำประสบการณ์ที่มีทั้งหมด ทุ่มเททำงานระยะสั้นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ขอบคุณเสียงชื่นชม-ความคาดหวัง เป็นกำลังใจทำงาน รับทำไม่ได้ทุกเรื่อง แต่จะเลือกทำสิ่งที่เกิดผลอย่างดีที่สุด นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเปิดใจถึงความมุ่งมั่นที่เข้ามารับตำแหน่งในครั้งนี้ว่า ตนมีความตั้งใจเหมือนนายกฯ พูดไปแล้วว่า ระยะเวลาสั้นๆ นี้ เป็นระยะเวลาที่มีความท้าทาย และมีความสำคัญมาก ประเทศเราต้องเดินไปข้างหน้า ไม่ว่าจะระยะเวลาสั้นแค่ไหน “ดิฉันในฐานะที่มีโอกาสได้ทำงานมาหลากหลาย รวมถึงงานระหว่างประเทศด้วย ตั้งใจจะนำเอาประสบการณ์ ความสามารถที่มีอยู่ทั้งหมด มาทุ่มเทให้ในระยะเวลาสั้นๆ นี้ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งมีธงเดียวกับนายกฯ คือ ทำประโยชน์สูงสุดให้กับประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้ได้อย่างเต็มที่ เต็มความสามารถ” นางศุภจี กล่าว เมื่อถามว่า สังคมชื่นชมและคาดหวังผลงานต่อจากนี้ นางศุภจี กล่าวว่า ขอบคุณที่ได้รับการชื่นชม และได้รับการคาดหวัง ถือเป็นกำลังใจที่ดีอย่างยิ่ง และจะยิ่งเป็นกำลังใจที่ทำให้ทุกคนไม่ผิดหวัง ดังนั้นก็จะประสานมือกับทีมงานทุกคนภายใต้นโยบายของนายกฯ และนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ ทำเรื่องเศรษฐกิจของประเทศไทยให้กลับมาให้ได้ ภายในระยะเวลาอันสั้น เมื่อถามว่า ถือเป็นการบ้านที่หนักหรือไม่ เพราะเข้ามาในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศเป็นแบบนี้ นางศุภจี กล่าวว่า […]