เชิญชวนผู้ปกครองพาบุตรหลานอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี รับวัคซีนโควิด

กทม. 16 ต.ค.-รัฐบาลเชิญชวนผู้ปกครอง พาบุตรหลานอายุตั้งแต่ 6 เดือนถึง 4 ปี รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้แล้วในโรงพยาบาลทั่วประเทศ เพิ่มภูมิคุ้มกันเด็กเล็ก ลดเสี่ยงจากแนวโน้มการแพร่ระบาดในต่างประเทศมากขึ้น

วันที่ 16 ต.ค.65 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายจัดหาวัคซีนป้องกันโควิด19 เพื่อฉีดให้กับประชาชนทุกกลุ่มให้ครอบคลุมมากที่สุดนั้น ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขได้รับการส่งมอบวัคซีนสำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี จากผู้ผลิตแล้ว และเริ่มฉีดให้เด็กกลุ่มเป้าหมายแล้วตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค.65 เป็นต้นมา


ดังนี้ รัฐบาลเชิญชวนผู้ปกครองพาบุตรหลาน ที่มีอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโรควิด-19 โดยกระทรวงสาธารณสุข ได้กระจายวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีแดงเข้ม จำนวน 5 แสนโดส ไปยังโรงพยาบาลทั่วประเทศ เรียบร้อยแล้ว โดยมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน และความปลอดภัย ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เมื่อวันที่ 24 ส.ค.65 ผู้ปกครองสามารถลงทะเบียนหรือพาบุตรหลาน เข้ารับบริการฉีดวัคซีนได้ตามความสมัครใจ

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า เด็กเล็กมีโอกาสสูงในการติดเชื้อโควิด-19 จากกิจกรรมต่างๆ โดยที่ผ่านมาเด็ก 6 เดือน ถึง 4 ปี เป็นกลุ่มที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ทำให้ในช่วงการระบาดของโอมิครอนพบว่าเด็กกลุ่มนี้มีการอัตราการป่วยสูงกว่าเด็กโต 3 เท่า และในช่วงปลายปีต่อเนื่องถึงต้นปีกระทรวงสาธารณสุขได้ประเมินว่าอาจจะมีการระบาดในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เห็นจากข้อมูลในยุโรป สิงคโปร์ ที่พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และขณะนี้ประเทศไทยได้เปิดประเทศเต็มที่แล้ว ดังนั้นจึงอยากให้พ่อแม่ผู้ปกครองให้ความสำคัญกับการนำบุตรหลานเข้ารับวัคซีนเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ


สำหรับข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียงนั้น กรมควบคุมโรคระบุว่าตั้งแต่เริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. 65 เป็นต้นมา จำนวนหลายร้อยโดสนั้นยังไม่พบเด็กมีอาการแพ้วัคซีนแต่อย่างใด ในส่วนของต่างประเทศเอง ในสหรัฐฯ มีการฉีดวัคซีนในเด็กเล็กและติดตามล้านกว่าโดส พบว่ามีผลข้างเคียงน้อยกว่าเด็กโต ไม่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรงถึงเสียชีวิต

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า วัคซีนโควิด 19 สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ปี มีขนาด 3 ไมโครกรัม ปริมาณ 0.2 มิลลิลิตร ฉีดจำนวน 3 เข็ม ระยะห่างเข็มแรกกับเข็มสอง 4 สัปดาห์ และระยะห่างเข็มสามอีก 8 สัปดาห์ สามารถให้พร้อมกับวัคซีนชนิดอื่นได้ในวันเดียวกัน หรือห่างกันเท่าใดก็ได้ โดยสถานที่ฉีดได้จัดจุดบริการแยกจากกลุ่มวัยอื่น เพื่อป้องกันความสับสนในการใช้วัคซีน ผู้ปกครองสามารถติดต่อพาบุตรหลานไปรับวัคซีนได้ที่สถานพยาบาลทุกระดับ รวมทั้ง รพ.สต. ตามที่คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกำหนด สอบถามข้อมูลได้ที่ 1422 สายด่วนกรมควบคุมโรค.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก