3 หน่วยงานจ่ายเงินช่วยทายาทผู้เสียชีวิตแล้ว

หนองบัวลำภู 7 ต.ค.-โฆษกรัฐบาล เผยรัฐบาลเร่งช่วยเหลือ เยียวยา ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตกรณีโศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู ล่าสุด 3 หน่วยงานจ่ายเงินช่วยทายาทผู้เสียชีวิตแล้ว รวม 13,185,555 บาท


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่ จ.หนองบัวลำภู โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตรวมผู้ก่อเหตุ 37 ราย และผู้บาดเจ็บ 10 ราย ซึ่งล่าสุด 3 หน่วยงานของรัฐบาลได้เร่งให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต โดยจ่ายเงินช่วยเหลือทายาทผู้เสียชีวิตแล้ว รวม 13,185,555 บาท

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า 1. คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี มีมติให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้น เฉพาะผู้เสียหาย ไม่รวมถึงผู้ก่อเหตุและบุคคลในครอบครัว ซึ่งจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน ดังนี้ 1) กรณีเสียชีวิต (ค่าจัดการศพและเงินทุนเลี้ยงชีพ) รายละ 200,000 บาท 2) กรณีบาดเจ็บสาหัส รายละ 100,000 บาท 3) กรณีบาดเจ็บไม่สาหัส รายละ 50,000 บาท 4) กรณีทุพพลภาพ รายละ 200,000 บาท


“การช่วยเหลือจำนวนดังกล่าวเป็นความช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งคณะกรรมการกองทุนฯ จะพิจารณาข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสมเพิ่มเติมต่อไป ล่าสุดวันนี้ (7 ต.ค.65) กองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยฯ ได้โอนเงินช่วยเหลือเป็นค่าจัดการศพและเงินทุนเลี้ยงชีพให้กับทายาทผู้เสียชีวิต จำนวน 34 ราย รายละ 200,000 บาท รวมเป็นเงิน 6,800,000 บาท อย่างไรก็ตาม ยังไม่รวมถึงผู้ก่อเหตุและบุคคลในครอบครัว ซึ่งจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน” นายอนุชา กล่าว

โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า 2. กระทรวงยุติธรรมได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือแก่ผู้เสียหายอันเนื่องมาจากเหตุการณ์นี้ ตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 โดยกรณีการเสียชีวิต จำนวน 36 ราย (ไม่รวมผู้ก่อเหตุ) ทายาทมีสิทธิได้รับเงินดังนี้ (1) ค่าตอบแทนกรณีถึงแก่ความตาย จำนวน 50,000 บาท (2) ค่าจัดการศพ 20,000 บาท (3) ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท รวมเป็นเงิน 110,000 บาท/ราย โดยมีผู้มีสิทธิได้รับเงิน 36 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,960,000 บาท 

“กรณีบาดเจ็บจำนวน 10 ราย มีสิทธิได้รับเงินดังนี้ (1) ค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 40,000 บาท ตามใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล (2) ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจ เท่าที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 20,000 บาท (3) ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ ให้จ่ายในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่จังหวัดที่ไม่สามารถประกอบการงาน ไม่เกิน 1 ปี วันละ 315 บาท ในพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู (4) ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 50,000 บาท” นายอนุชา กล่าว


โฆษกรัฐบาล กล่าวว่า 3. การช่วยเหลือในส่วนของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กรณีผู้เสียชีวิต 37 ราย (เด็ก 24 ราย ผู้ใหญ่ 13 ราย) ดังนี้ ในจำนวนผู้เสียชีวิต 13 ราย เป็นผู้ประกันตน 2 ราย ได้รับการช่วยเหลือค่าทำศพ+ค่าทดแทนกรณีตาย 120 เดือน และเงินบำเหน็จชราภาพ รายที่ 1 รวมเป็นเงิน 1,163,786 บาท รายที่ 2 รวมเป็นเงิน 1,134,245 บาท รวมรายที่ 1 และ 2 เป็นเงิน 2,298,031 บาท รายที่ 3-7 เคยเป็นผู้ประกันตน แต่รายที่ 3 มีสถานะลาออก ตั้งแต่ปี 2547 มีเงินสมทบชราภาพ 2 งวด 199 บาท รายที่ 4 สถานะลาออกตั้งแต่ 1 พฤษภาคม 2562 มีเงินสมทบชราภาพ 147 งวด 64,083 บาท (ไม่รวมดอกผล)

นายอนุชา กล่าวว่า รายที่ 5 มีเงินสมทบชราภาพ 32,166 บาท (ไม่รวมดอกผล) รายที่ 6 สถานะลาออก ตั้งแต่ 28 กุมภาพันธ์ 2562 มีเงินสมทบชราภาพ 34 งวด 25,277 บาท (ไม่รวมดอกผล) รายที่ 7 มีเงินสมทบชราภาพ 5,799 บาท ส่วนลำดับที่ 8-13 ไม่เคยเป็นผู้ประกันตน โดยสรุปสำนักงานประกันสังคมได้จ่ายเงินช่วยเหลือให้กับทายาทผู้เสียชีวิตที่เป็นผู้ประกันตนและเคยเป็นผู้ประกันตน รวมเป็นจำนวนเงิน 2,425,555 บาท

“เนื่องจากมีผู้ได้รับความเสียหายจำนวนมาก รัฐบาลกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดูแล เยียวยาจ่ายเงินช่วยเหลือตามหลักเกณฑ์ฯ ทั้งนี้ ผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตจะได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จะพิจารณาดูแลเยียวยาผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ขณะปฏิบัติงานในสถานที่ทำงาน ซึ่งเป็นกรณีเสียชีวิตเนื่องจากการทำงาน ให้ได้รับสิทธิจากกองทุนเงินทดแทน นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ตั้งศูนย์เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัย เพื่อเร่งช่วยเหลือด้านประกันภัยคุ้มครองสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประสบเหตุ จ.หนองบัวลำภู ด้วย” โฆษกรัฐบาล กล่าว.-สำนักข่าวไทย    

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]

อุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 20 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือน 9 จังหวัดรับมือฝนตกหนัก เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย ชัยภูมิ นครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุโซนร้อน “มิแทก” บริเวณทะเลมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำและสลายตัวอย่างรวดเร็ว ขอให้ผู้ที่จะเดินทางไปบริเวณดังกล่าวตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางไว้ด้วย -สำนักข่าวไทย

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย