พรรคเพื่อไทย 7 ต.ค. -เพื่อไทย ประกาศนโยบายสงครามกับยาเสพติด หลังเป็นต้นตอเหตุกราดยิงที่หนองบัวลำภู จี้รัฐเร่งบำบัด ฟื้นฟู ผู้ติดยา ทบทวนมาตรการครอบครองอาวุธ
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงนโยบายและมาตรการในการป้องกันและแก้ปัญหากรณีเหตุกราดยิงหนองบัวลำภู โดยก่อนเริ่มแถลงข่าว นพ.ชลน่านพร้อมด้วยผู้สื่อข่าวยืนไว้อาลัยต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวผู้สูญเสียชีวิต และประณามการกระทำดังกล่าว และเรียกร้องผู้ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบเยียวยาปัญหาที่เกิดขึ้น
หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เหตุการณ์นี้ทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่าจะต้องถอดบทเรียน เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งวันนี้(7 ต.ค.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค และนางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการเด็ก สตรี เยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และ ผู้มีความหลากหลายทางเพศ รวมถึง ส.ส. จังหวัดหนองบัวลำภูของพรรค ได้ลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์ รับฟัง และช่วยเหลือเบื้องต้น แล้วนำมาประมวลเพื่อนำไปสู่การช่วยเหลือและแก้ปัญหาระยะสั้นและระยะยาว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พฤติกรรมพฤติการณ์ของคนร้ายชัดเจนว่าจงใจก่อเหตุ เพราะเลือกใช้สถานที่คือศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรง สร้างแรงกระเพื่อมระดับโลก และมีลักษณะเตรียมการ หลบหนี และทำร้ายครอบครัวตัวเอง ซึ่งเรื่องแรกที่มีความเกี่ยวข้องคือยาเสพติดที่แพร่หลาย ราคาถูก แข่งกันผลิต 7 บริษัท รอบๆ ขอบประเทศไทย ต้นทุนตก 4 บาทต่อเม็ด
“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับยาเสพติด สะท้อนให้เห็นความบกพร่อง หละหลวมในการแก้ปัญหาของรัฐบาล ขณะเดียวกันยังปล่อยปละละเลยการบำบัดและ ฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด การที่รัฐบาลประกาศว่าผู้เสพคือผู้ป่วยที่ต้องรักษาฟื้นฟู แต่สิ่งสำคัญคือการรักษาด้านจิตใจ จึงเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญเรื่องการบำบัดฟื้นฟูเรื่องยาเสพติดอย่างเร่งด่วน แต่กลับนำเสนอนโยบายกัญชาเสรี ทำให้คนเข้าใจว่าเป็นพืชพิเศษ ทั้งที่ความเป็นจริงกัญชาเป็นพืชที่ต้องควบคุม” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ขอให้ทบทวนการควบคุมอาวุธปืน ที่ต้องกำหนดให้ชัดว่าใครครอบครองปืนได้บ้าง และมีมาตรการรองรับอย่างเข้มข้น พร้อมหยิบยกกรณีการครอบครองปืนจนเกิดเหตุที่จังหวัดนครราชสีมา ขณะเดียวกันขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความั่นคงที่ถืออาวุธ ต้องไปดูเหตุของปัญหา เช่น ที่ จ.นครราชสีมาก็มีปัญหาหนี้สิน ถูกเอาเปรียบ
“เหตุการณ์ที่หนองบัวลำภูก็เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถูกไล่ออกและหนี้สิน ซึ่งต้องหาต้นตอของปัญหาและแก้ไข ส่วนการคัดเลือกคน ต้องไม่มีความเสี่ยงต่อการก่อเหตุความรุนแรง และต้องมีกระบวนการประเมินสภาพจิตใจผู้ใช้ กรณีแสดงให้เห็นว่าสังคมมีภาวะกดดัน กดทับ สมาธิสั้น อารมณ์ร้อน ตัดสินปัญหาด้วยอาวุธ ขณะที่สภาพแวดล้อมการทำงานทำให้เป็นเหตุจูงใจ เสริมเอื้อให้เกิดเหตุการณ์ และมาตรการที่จะระงับยับยั้งเหตุการณ์ที่ต้องมีวิธิการ แจ้งเหตุเตือนภัยทันที” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ทุกนโยบายของพรรคต้องตอบโจทย์ เน้นย้ำนโยบายปราบปราม ประกาศสงครามกับยาเสพติดอย่างจริงจังเพื่อขจัดยาเสพติดให้สิ้น โดยจะขับเคลื่อนเป็นนโยบายของพรรค ซึ่งพรรคเคยทำสำเร็จมาแล้ว และขอให้กระทรวงยุติธรรมเร่งให้การเยียวยารายละ 110,000 บาทโดยเร็ว เช่นเดียวกับสภาพจิตใจที่หน่วยงานที่เกี่ยงข้องต้องเร่งดำเนินการ
ด้านน.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย นำนโยบาย 3 รัฐบาล มาเปรียบเทียบ ระหว่างรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พบสถิติเกี่ยวกับยาเสพติดเพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงโควิดที่คนหันไปพึ่งพายาเพราะมีความเครียด อีกทั้งสัดส่วนผู้ต้องขังคดียาเสพติด มีเพิ่มขึ้นในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา และมีอัตราสูงถึงกว่าร้อยละ 80
“ควรมีกฎหมายเข้มงวดเพิ่มการตรวจสอบอาวุธปืน และต้องปราบปรามการซื้อขายปืนเถื่อน ที่ไทยมีอัตราการผู้เสียชีวิตจากปืนอันดับที่15 ของโลกพล.อ.ประยุทธ์ ต้องไม่ละเลยข้อเท็จจริงและต้องมองปัญหาเชิงโครงสร้าง และปัญหายาเสพติดกำลังกระทบต่อประเทศในช่วงราคายาบ้าเท่ากับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย