เชื่อได้ข้อสรุปสร้างความมั่นคงทางอาหารเป็นรูปธรรม

ทำเนียบรัฐบาล 14 ส.ค.-รองโฆษกรัฐบาล เผย นายกฯ เชื่อมั่นการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค 21 เขตเศรษฐกิจ 26 ส.ค.นี้ ได้ข้อสรุปสร้างความมั่นคงทางอาหารเป็นรูปธรรม นำไปสู่เศรษฐกิจ BCG


น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เชื่อมั่นว่าการประชุมรัฐมนตรีความมั่นคงอาหารเอเปค ประกอบด้วย 21 เขตเศรษฐกิจ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพ ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จะได้ข้อสรุปที่เป็นรูปธรรมในการสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยทางกระทรวงเกษตรฯ จะผลักดันประเด็นหลักที่จะช่วยสนับสนุนโยบายความมั่นคงด้านอาหารและครัวไทยสู่ครัวโลก รวมถึงใช้เวทีนี้แสดงศักยภาพของประเทศในการสร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่าเศรษฐกิจ BCG

“ในการประชุมจะมีการลงนามในเอกสารเพื่อเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมในการสร้างความมั่นคงอาหาร ประกอบด้วยประเด็นหลักๆ อาทิ ความปลอดภัยอาหารและการอำนวยความสะดวกทางการค้า การส่งเสริมชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของกลุ่มเปราะบาง การส่งเสริมความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติ การส่งเสริมนวัตกรรมและเทคโนโลยีในภาคการเกษตร-อาหาร การสร้างสมดุลย์ทางเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม เป็นต้น” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


น.ส.รัชดา กล่าวว่า ในโอกาสนี้จะจัดทำแผนปฏิบัติการความมั่นคงอาหารมุ่งสู่ปี 2573 ให้ครอบคลุมกิจกรรม อาทิ ส่งเสริมการออกมาตรการเพื่อให้เกิดการเข้าถึงเทคโนโลยีและสินค้าที่เป็นนวัตกรรม สร้างโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ดิจิตอลให้เพิ่มขึ้นในพื้นที่ทุรกันดาร ออกนโยบายลดอุปสรรคต่อการยุติปัญหาความหิวโหย เพิ่มอำนาจให้สตรีสามารถเข้าถึงตลาดและแหล่งเงินทุน  มีส่วนร่วมในตลาดแรงงานเข้าถึงการศึกษาเข้าถึงตำแหน่งผู้นำที่มีอำนาจในการตัดสินใจ จัดทำแนวปฏิบัติที่ดีเพื่อบริหารจัดเก็บความหลากหลายทางชีวภาพและการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้ MSMEs ในภาคการเกษตรมีผลิตภาพเพิ่มมากขึ้น

“นายกรัฐมนตรีย้ำเจตนารมณ์ของไทยด้านการพลิกโฉมระบบอาหารสู่ความยั่งยืนและสมดุล มุ่งเน้นทั้งความมั่นคงด้านอาหารภายในประเทศ สร้างมาตรฐานคุณภาพอาหารและโภชนาการ และเร่งดำเนินการขยายการส่งออกสินค้าเกษตร ภายใต้แนวทาง “การตลาดนำการผลิต” พร้อมเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมกันสร้างความมั่นคงทางอาหาร และส่งเสริมให้ทุกคนสามารถเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ ยืนยันรัฐบาลพร้อมที่จะร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งภายในและระหว่างประเทศอย่างใกล้ชิด โดยน้อมรับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเข็มทิศนำทางสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง