“ชลน่าน” แนะนายกฯ ประกาศหมดวาระเที่ยงคืน 23 ส.ค.

ดอนเมือง 21 ส.ค.- “ชลน่าน” ระบุหาก “พล.อ.ประยุทธ์” พ้นตำแหน่ง “อุ๊งอิ๊ง” ยังไม่เหมาะชื่อนายกฯ คนนอก บอกไม่ใช่หน้าที่เพื่อไทยเสนอชื่อ “พล.อ.ประวิตร” ย้ำยุบสภาฯ ช่วงนี้ไม่เหมาะ เว้นแต่เสียงข้างมากคว่ำงบฯ 66 แนะนายกฯ ประกาศหมดวาระเที่ยงคืน 23 ส.ค.


นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีวาระการดำรงตำแหน่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ครบ 8 ปี หากท้ายที่สุด พล.อ.ประยุทธ์ พ้นจากตำแหน่งจะเสนอใครเป็นแคนดิเดตของพรรคเพื่อไทยเพิ่มเติมหรือไม่ว่า หากนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งโดยหลักแล้วพรรคเพื่อไทยต้องส่งแคนดิเดตนายกฯในบัญชีของพรรคไปสู้ และแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยตอนนี้มี 3 รายชื่อ แต่มี 2 คนที่มีภารกิจอื่นไปแล้ว แคนดิเดตจึงเหลือเพียงแค่นายชัยเกษม นิติสิริ ส่วนการเสนอชื่อนายกฯคนนอกนั้น จะเป็นใครก็ได้ รวมทั้ง ส.ส. ก็ได้ เมื่อเสียงที่เลือกนายกฯในบัญชีไม่ถึง 365 เสียง ซึ่งเป็นการเปิดช่องให้เสนอชื่อคนนอกบัญชีตาม ม.272 หากเลือกได้ก็จบ แต่หากเลือกไม่ได้ก็เข้าสู่กระบวนการเลือกใหม่จนหมดวาระในวันที่ 23 มี.ค.2566 อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทยยังไม่ได้ปรึกษาหารือชื่อนายกฯคนนอก เพราะว่ายังมีคนในบัญชี ทั้งนี้ ส่วนตัวมองว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย ยังไม่เหมาะในสถานการณ์ตอนนี้ รวมถึงการเสนอชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ก็ไม่ใช่หน้าที่ของพรรคเพื่อไทยในการเสนอ

นพ.ชลน่าน กล่าวอีกว่า คำร้องที่ฝ่ายค้านได้ส่งให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาเพื่อให้ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความการเป็นนายกรัฐมนตรี ครบรอบ 8 ปีนั้น มี 2 เรื่อง คือ ขอให้ศาลวินิจฉัยความเป็นนายกของ พล.อ.ประยุทธ์ และขอให้ศาลมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ ยุติการปฎิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากในวันพรุ่งนี้ (22 ส.ค.) ถ้ามีหนังสือออกจากสภาฯ เข้าสู่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยปกติศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมทุกวันพุธ ก็คือ วันที่ 24 สิงหาคม ก็อาจจะมีการตั้งองค์คณะที่จะมาช่วยพิจารณารับคำร้องหรือไม่ แต่คำร้องของฝ่ายค้านมีคำร้องที่ให้พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย ก็อาจจะประชุมทั้งองค์คณะ ซึ่งก็จะรู้วันนั้น


เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านยังเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่ยุบสภาใช่หรือไม่ นพ.ชลน่าน ระบุว่า การยุบสภาช่วงนี้มีแต่โทษ ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับประเทศ ส่วนตัวมองว่า ข้ออ้างในการยุบสภาก็ไม่สมเหตุสมผล เพราะสาเหตุที่อ้างได้คือจะต้องมีความขัดแย้งระหว่างฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ เช่น การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 ในวันที่ 23 สิงหาคมไม่ผ่าน ก็เหมาะสมเลย

เมื่อถามว่า แล้วมีสิทธิที่จะไม่ผ่านหรือไม่ นพ.ชลน่าน หัวเราะก่อนจะตอบคำถามผู้สื่อข่าวว่า ในประเทศไทยอะไรก็เกิดขึ้นได้ เพราะหากเสียงข้างมากถูกบัญชาการให้ใช้ช่องทางนี้ อะไรก็เป็นไปได้ทั้งหมด เป็นเหตุผลที่สมเหตุสมผลที่สุด ส่วนเหตุผลอื่นที่ต้องการให้ตัวเองอยู่ในอำนาจได้ยาวนั้น เป็นเหตุผลอันตราย เพราะสิ่งที่เราเป็นห่วงคือ การอยู่ในตำแหน่งของนายกฯ เกิน 8 ปี จะไปสอดรับกับจุดมุ่งหมายและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญที่เขียนไว้ชัดเจนว่า อยู่ยาวเกิน 8 ปี จะเกิดการผูกขาดอำนาจทางการเมือง และจะเกิดวิกฤติทางการเมือง เราไม่อยากให้เกิดแบบนั้น ดังนั้นการยุบสภาช่วงนี้ หากเพื่อให้ตัวเองรักษาอำนาจและรักษาการได้ ข้อถกเถียงก็คือ จะมีกฎหมายเลือกตั้งมาใช้ในการเลือกตั้งหรือไม่เพราะกฎหมายยังไม่ออก อีกทั้งการออก พ.ร.ก.เลือกตั้งนั้น การบังคับใช้ก็จะเหมือน พ.ร.บ. ไม่เหมือน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญอย่างกฎหมายเลือกตั้ง

เมื่อถามว่า หากเวลาจวนเจียน และศาลรัฐธรรมนูญยังไม่สั่งให้นายกฯหยุดปฎิบัติหน้าที่ ฝ่ายค้านจะดำเนินอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นอำนาจศาล เพราะการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ เป็นหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญให้กรณีมีเหตุสงสัย ทั้งนี้ หากศาลไม่สั่งหยุดให้ปฏิบัติหน้าที่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ทำหน้าที่ต่อ ในช่วงที่รอคำวินิจฉัย สมมติว่า ไปมีคำวินิจฉัยอีกเดือนครึ่ง คือ สิ้นเดือนกันยายน ว่า ความเป็นนายกฯของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องสิ้นสุดในวันที่ 24 สิงหาคมนี้ แม้จะวินิจฉัยอีก 2 เดือน การสิ้นสุดก็ต้องสิ้นสุดตามกฎหมาย สังเกตว่าตั้งแต่ 24 สิงหาคมถึงสิ้นเดือนกันยายน รัฐธรรมนูญก็คุ้มครองอยู่ ว่า การกระทำใดๆที่เกิดในช่วงนี้ ถือว่ากระทำได้ ไม่มีผลไปลบล้างการกระทำนั้น ก็เป็นไปได้ที่ศาลจะไม่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่เหตุการณ์ที่เรากลัวคือ ข้อขัดแย้งทางการเมือง กระแสต่อต้านที่แรงขึ้น ถ้าหากตนเป็น พล.อ.ประยุทธ์ จะออกมาประกาศเย็นวันที่ 23 สิงหาคมว่า ตนเองจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งในเวลา 24.00 น.ของวันนี้ ขอให้รัฐสภาดำเนินการเลือกนายกฯ คนต่อไป ทุกคนจะปรบมือ นี่คือความรับผิดชอบ และ พล.อ.ประยุทธ์จะอยู่ในใจประชาชน นี่คือลงจากตำแหน่งที่ดีที่สุด ไม่ใช่การลาออก แต่เป็นบทบัญญัติตามกฎหมาย


เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านคาดหวังหรือไม่ว่า นายกรัฐมนตรีจะออกอย่างสง่างาม นพ.ชลน่าน ยอมรับว่า ตนฝันว่าจะเป็นทางลงที่ดีที่สุด สิ่งที่ห่วงที่สุดคือ ประชาชนจะลุกฮือขึ้นมา เพราะจะเกิดวิกฤติ อย่าว่าแต่อยู่ในประเทศไทย พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่มีที่อยู่เลย .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือน “อีสาน กลาง ใต้” รับมือฝนถล่ม

6 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ รับมือฝนถล่ม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และภาคตะวันออกบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 8 – 9 ก.ย. โดยพายุนี้ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอกฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว-เร่งเดินหน้าแก้ปัญหา

พรรคภูมิใจไทย 5 ก.ย.-“อนุทิน” ขอบคุณเสียงโหวตนั่งนายกฯ คนที่ 32 เร่งเดินหน้าแก้ปัญหาทดแทนโอกาสที่เสียไป เผย วินาทีกราบพ่อ เป็นสิ่งแรกที่อยากทำ ฟอร์มทีม ครม.เรียบร้อยแล้ว บอกผมโอเค พรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องโอเค นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภายหลังร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร พร้อมเปิดใจเป็นครั้งแรก หลังจากได้รับการโหวตเห็นชอบให้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยนายอนุทินได้กล่าวขอบคุณประชาชน ในโอกาสที่ได้รับเสียงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรี เพราะถือเป็นเสียงของประชาชนที่ได้ใช้สิทธิ์ ผ่านสส. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สส.พรรคประชาชน และพรรคการเมืองที่ได้ลงคะแนนให้กับตน หรือพรรคที่ไม่ได้ลงคะแนนให้กับตน โดยการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่มีนายชัยเกษม นิติสิริ ได้รับการเสนอชื่อโหวตชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่เมื่อการโหวตผ่านพ้นไปแล้ว ก็อยากให้ทุกอย่างมันจบไปด้วยดี และอยากให้เราหันหน้าเข้าหากัน เพื่อทำงานให้กับประชาชน ให้กับประเทศ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวไปข้างหน้า ด้วยความรวดเร็ว เพื่อทดแทนโอกาสที่เสียไป ซึ่งตนเชื่อว่าหากเราหันหน้าทำงานด้วยกัน ก็จะทำให้ทะลุเป้าหมายต่างๆ ได้ ส่วนจะผลักดันนโยบายอะไรต่อขอยังไม่ลงรายละเอียด เมื่อถามถึงการเข้าพบนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล ผู้เป็นบิดา หลังจากได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทินเล่าว่า นายชวรัตน์ ไม่ค่อยสบาย รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งตนก็คิดว่านายชวรัตน์ ก็อยากให้ไปหา จึงเร่งไปกราบเป็นอันดับแรก เมื่อถามว่านายชวรัตน์ให้พรอะไรบ้าง […]

อดีตนายกฯ โพสต์พร้อมทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน-ตรวจสอบรัฐบาล

กรุงเทพ 5 ก.ย.- “แพทองธาร” ระบุ จากวันนี้เพื่อไทยทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานรัฐบาล บอก ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่ พร้อมขอบคุณผู้สนับสนุน จะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการทำงานของพรรคเพื่อไทย เราผ่านสถานการณ์ทุกรูปแบบ ทั้งช่วงเวลาแห่งความสุข และช่วงเวลาที่ต้องแบกรับความยากลำบากร่วมกัน แต่สิ่งที่เราไม่เคยละวาง คือความหวัง โอกาส และอนาคตที่ดีกว่าของประชาชน จากวันนี้ เราจะทุ่มเททำหน้าที่ฝ่ายค้าน ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล รักษาระบบรัฐสภาให้เดินหน้าตามวิถีทางประชาธิปไตย เราไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากรัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เราจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน ด้วยความมุ่งมั่นและจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ขอบคุณกำลังใจและการสนับสนุนจากทุกท่าน เราทราบดีว่า การเดินทางร่วมกับพรรคเพื่อไทยจนถึงวันนี้ ต้องใช้ความเข้มแข็งและอดทนถึงเพียงไหน เราจะผ่านวันนี้ไปด้วยกัน และจะกลับมาด้วยหัวใจเพื่อประชาชน .-316 -สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกฯ

รัฐสภา 5 ก.ย.- “อนุทิน” ก้มกราบพ่อ หลังได้รับโหวตนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี คนที่ 32 เดินทางไปเยี่ยม นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล บิดา ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ภายหลังได้รับการโหวตจากสภาผู้แทนราษฎรให้เป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ด้วยคะแนน 311 เสียง ทันทีที่ถึงโรงพยาบาล นายอนุทินได้ก้มกราบที่ตักพ่อ พร้อมสวมกอดระหว่างที่พ่อกำลังรับประทานอาหารเย็น ทั้งคู่มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใส ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายอนุทินจะเดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ในเวลา 20.00 น. ของวันนี้.-315 -สำนักข่าวไทย