ทำคลิปส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าอาหารไทยปลอดภัยเชื้อโควิด

นนทบุรี 7 ก.ย.-พาณิชย์ทำคลิปส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าอาหารและผลไม้ไทยปลอดภัยเชื้อโควิด ให้ทูตพาณิชย์ไทยทั่วโลกนำไปเผยแพร่ร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ หวังสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าอาหารและผลไม้ไทยมากขึ้น ระบุได้ผลเกินคาด ทั่วโลกมั่นใจสินค้าไทยเพิ่มขึ้น

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ สร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าไทยปลอดภัยจากโควิด-19 ผ่านโครงการ Thai Select การโปรโมตข้าวไทยภายใต้โครงการ Think Rice Think Thailand รวมถึงผลไม้ ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างสรรพสินค้า การเข้าร่วมและการจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบ Mirror–Mirror การส่งเสริม SMEs การบุกเมืองรอง และสร้างพันธมิตรทางการค้าระหว่างรัฐ และการเปิดโอกาสตลาดใหม่และสร้างความมั่นใจตลาดเดิม


อย่างไรก็ตาม การสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าไทยปลอดภัยจากการปนเปื้อนโควิด–19 กรมฯ ได้จัดทำคลิปวิดีโอส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าอาหารไทย และส่งให้ทูตพาณิชย์เผยแพร่ไปยังต่างประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกผ่านงานแสดงสินค้าอาหารปลอดภัยที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว มีชาวลาวสนใจเข้าร่วมงาน 15,000 คนจะทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในอาหารทะเลของไทย ดังนั้น แนวการผลักดันสินค้าอาหารไทย โดยให้ทูตพาณิชย์ได้ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร Thai Select โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงมาช่วย และใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการโปรโมต ซึ่งได้ดำเนินการแล้วที่อินโดนีเซีย โคเปนเฮเกนและวอร์ซอ ฮ่องกง อเมริกา และแคนาดา ส่งผลให้ร้านอาหารไทยเป็นที่รู้จักเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารไทยได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ การโปรโมตสินค้าข้าว ได้เดินหน้าแคมเปญ Think Rice Think Thailand ที่ให้ทูตพาณิชย์ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายข้าวไทยและผลิตภัณฑ์จากข้าวไทยที่กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ ในรูปแบบไฮบริดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ของซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งช่วยกระตุ้นการจำหน่ายและการบริโภคข้าวไทย และได้ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ด้านอาหารของอียิปต์ จัดทำคลิปสั้นเพื่อโปรโมตการใช้ข้าวหอมมะลิไทยในการประกอบเมนูท้องถิ่น ทำให้ชาวอียิปต์รู้จักข้าวไทยมากขึ้น ส่งผลดีต่อการส่งออกข้าวไทยไปอียิปต์ได้มากขึ้นช่วง 6 เดือน มีมูลค่า 1.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ  1.91


อย่างไรก็ตาม การผลักดันการส่งออกผลไม้ กรมฯ และทูตพาณิชย์ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายผลไม้ไทย “Thai Fruit Golden Months” เพื่อกระตุ้นยอดขายผลไม้ไทย ในตลาดจีน เช่น เมืองคุนหมิง เมืองเซี่ยเหมิน เมืองชิงต่าว ซึ่งผลไม้ไทยได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย ส้มโอ กล้วยไข่ มะพร้าว มะม่วง โดยมีสถิติการส่งออกช่วง 6 เดือนเป็นการยืนยัน มีมูลค่าถึง 74,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 64.89 และยังได้จัด Instore Promotion ร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ตริมปิง ซึ่งเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตของนักลงทุนไทยใน สปป.ลาว โดยเน้นสินค้า ข้าว อาหาร และผลไม้ไทย ได้แก่ ทุเรียน มังคุด ลำไย ส้มโอ อินทผาลัม ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน

ส่วนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างสรรพสินค้าในต่างประเทศ ทูตพาณิชย์ได้ร่วมมือกับซุปเปอร์มาร์เก็ตอันดับหนึ่งของสิงคโปร์ NTUC FairPrice จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทย เช่น ผลไม้ ข้าวสาร ไข่ไก่ ขนมขบเคี้ยว ผลไม้อบแห้ง ซอสปรุงรส ได้รับความนิยมและได้รับการโปรโมตของสื่อท้องถิ่น ที่โตเกียว ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยผ่านช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์ม Rakuten ส่งเสริมการขายสินค้าไทยกว่า 500 รายการ เช่น ข้าว ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป เครื่องปรุงรส เครื่องดื่ม ไก่แปรรูป อาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว แมลงอบกรอบ สินค้าเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์สปา และเครื่องสำอาง เป็นต้น และที่โอซากา ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าไลฟสไตล์ที่มีการออกแบบที่ดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ BCG N.E.W.S. 2021 โดยร่วมกับบริษัท Marukinkagu ผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าไลฟสไตล์ระดับบน ในรูปแบบ Hybrid Pop-up Store นำสินค้ารวมกว่า 60 รายการจากผู้ประกอบการไทย 13 ราย จำหน่าย ณ Select Shop เมืองโอซากา รวมทั้งบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ  และการเข้าร่วมการจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบ Mirror–Mirror กรมฯ และทูตพาณิชย์ได้ร่วมมือนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Seoul Food 2021 ที่เกาหลีใต้ มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ 53 คู่ สินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ เครื่องดื่มใส่บุก ผลไม้แปรรูป ข้าวเหนียวมะม่วงฟรีซดราย ซอสพริก เครื่องปรุงรส และที่อินเดีย ได้จัดงาน Top Thai Brands 2021 India Edition ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ที่ห้างสรรพสินค้า Ambience Mall Gurgaon โดยเน้นสินค้าที่ตลาดต้องการ เช่น แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องใช้ภายในบ้าน ของประดับตกแต่งบ้าน และเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ มีการเจรจาธุรกิจออนไลน์ 46 ราย เกิดการนัดหมาย 100 นัดหมาย

สำหรับการส่งเสริม SMEs การบุกเมืองรอง และสร้างพันธมิตรทางการค้าระหว่างรัฐ ได้จัดงาน Thailand Week Online ที่เมืองปูเน่ รัฐมหาราชฏระ มีการเจรจาออนไลน์ 399 นัดภายใน 3 วัน เพื่อให้ผู้ส่งออกไทย 35 ราย ได้พบปะกับผู้นำเข้าอินเดียกว่า 110 ราย พร้อมส่งสินค้าตัวอย่างให้ผู้นำเข้าอินเดียได้ทดลองล่วงหน้าก่อนการเจรจา คาดว่ากิจกรรมครั้งนี้สามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และที่มุมไบ ได้จัดกิจกรรมสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยและกิจการชุมชน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดอินเดียในอนาคต รวมทั้งได้ลงนามใน MOU เพื่อร่วมมือทางการค้ากับเมืองโคฟุ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น กับมณฑลไห่หนาน ของจีน และมีแผนจะลงนามกับรัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย และจังหวัดคยองกี เกาหลีใต้ 


ส่วนการเปิดโอกาสตลาดใหม่และสร้างความมั่นใจตลาดเดิม กรมฯ ได้ร่วมมือกับทูตพาณิชย์จัดสัมมนาเพื่อเพิ่มโอกาสในการเจาะตลาดใหม่ ได้แก่ ภูมิภาคอเมริกา ลาตินอเมริกา ภูมิภาคยุโรปและ CIS ภูมิภาคแอฟริกาและตะวันออกกลาง ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก มีผู้ประกอบการสินค้าไทย ได้แก่ สินค้าอาหาร สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าสัตว์เลี้ยง สินค้าเฟอร์นิเจอร์และตกแต่ง เข้าร่วมการสัมมนา ดังนั้น ในช่วงที่เหลือของปีนี้ กรมฯ ยังมีกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการส่งออกอีกประมาณ 130 กิจกรรม โดยเน้นการจัดกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ การจัดงานแสดงสินค้าแบบไฮบริด การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าไทยในช่วงวิกฤตโควิด-19 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย

“ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – “ชัชชาติ” ยืนยันไม่ลาออกผู้ว่าฯ กทม. ก่อนครบวาระ งบปี 69 เน้นเส้นเลือดฝอยคู่เส้นเลือดใหญ่ สถานการณ์น้ำตอนนี้ เตรียมรับน้ำเหนือ-พายุ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุมสภากรุงเทพมหานคร สมัยประชุมวิสามัญ สมัยแรก (ครั้งที่ 1) ประจำปีพุทธศักราช 2568 ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ดินแดง ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่สองและวาระที่สาม ซึ่งจะมีการพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น เนื่องจากกว่า 30 วันที่ผ่านมา น่าจะได้ข้อสรุปว่าจะเพิ่มหรือลดงบประมาณอย่างไร ในจุดไหนบ้าง โดยผ่านกระบวนการพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อประโยชน์สูงสุดกับพี่น้องประชาชน สำหรับงบประมาณส่วนใหญ่ได้ตามที่ตั้งเสนอของบฯ ไว้ โดยจะเน้นงบประมาณลงพื้นที่เขตมากขึ้น เช่น การก่อสร้างและปรับปรุงถนน การก่อสร้างฝายถนน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายเส้นเลือดฝอย รวมถึงงบประมาณที่จะพัฒนาเส้นเลือดใหญ่ เช่น ก่อสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ การติดตั้งเซ็นเซอร์วัดการสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่จะติดตั้งบนอาคารสูงของโรงพยาบาลแห่งใหม่ ก็ได้ตามที่เสนอของบประมาณไว้ […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

เขื่อนเจ้าพระยาระบายแตะ 2,000 ลบ.ม./วินาที หน่วงน้ำเขื่อนป่าสักฯ

กรุงเทพฯ 12 ก.ย. – กรมชลประทานจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา 2,000 ลบ.ม./วินาที ช่วงบ่ายวันนี้ ห่วงผลกระทบพื้นที่ด้านท้าย จึงปรับลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อให้น้ำเหนือระบายสู่อ่าวไทยได้มีประสิทธิภาพขึ้น ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ กรมชลประทาน ระบุว่า เช้าวันนี้ที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,101 ลบ.ม./วินาที และยังคงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมากรมชลประทานได้ปรับเพิ่มการระบายจากเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จาก 1,900 ลบ.ม./วินาที เป็น 1,950 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้บริหารจัดการน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำไว้ด้านเหนือ พร้อมรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งตามศักยภาพของคลอง แต่เนื่องจากปริมาณน้ำที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นดังกล่าว จะทำให้มีพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ กรมชลประทานจำเป็นต้องทยอยปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาตั้งแต่ 10.00 น. เป็นต้นไป จากอัตรา 1,950 ลบ.ม./วินาที ให้เป็น 2,000 ลบ.ม./วินาที ภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้ (12 ก.ย.) และคงอัตราดังกล่าวต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในระยะนี้ […]