ทำคลิปส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าอาหารไทยปลอดภัยเชื้อโควิด

นนทบุรี 7 ก.ย.-พาณิชย์ทำคลิปส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าอาหารและผลไม้ไทยปลอดภัยเชื้อโควิด ให้ทูตพาณิชย์ไทยทั่วโลกนำไปเผยแพร่ร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ หวังสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าอาหารและผลไม้ไทยมากขึ้น ระบุได้ผลเกินคาด ทั่วโลกมั่นใจสินค้าไทยเพิ่มขึ้น

นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่าง ๆ สร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าไทยปลอดภัยจากโควิด-19 ผ่านโครงการ Thai Select การโปรโมตข้าวไทยภายใต้โครงการ Think Rice Think Thailand รวมถึงผลไม้ ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างสรรพสินค้า การเข้าร่วมและการจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบ Mirror–Mirror การส่งเสริม SMEs การบุกเมืองรอง และสร้างพันธมิตรทางการค้าระหว่างรัฐ และการเปิดโอกาสตลาดใหม่และสร้างความมั่นใจตลาดเดิม


อย่างไรก็ตาม การสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าไทยปลอดภัยจากการปนเปื้อนโควิด–19 กรมฯ ได้จัดทำคลิปวิดีโอส่งเสริมภาพลักษณ์สินค้าอาหารไทย และส่งให้ทูตพาณิชย์เผยแพร่ไปยังต่างประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกผ่านงานแสดงสินค้าอาหารปลอดภัยที่นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว มีชาวลาวสนใจเข้าร่วมงาน 15,000 คนจะทำให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในอาหารทะเลของไทย ดังนั้น แนวการผลักดันสินค้าอาหารไทย โดยให้ทูตพาณิชย์ได้ประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร Thai Select โดยใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่มีชื่อเสียงมาช่วย และใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการโปรโมต ซึ่งได้ดำเนินการแล้วที่อินโดนีเซีย โคเปนเฮเกนและวอร์ซอ ฮ่องกง อเมริกา และแคนาดา ส่งผลให้ร้านอาหารไทยเป็นที่รู้จักเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารไทยได้เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ การโปรโมตสินค้าข้าว ได้เดินหน้าแคมเปญ Think Rice Think Thailand ที่ให้ทูตพาณิชย์ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายข้าวไทยและผลิตภัณฑ์จากข้าวไทยที่กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ ในรูปแบบไฮบริดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ของซุปเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งช่วยกระตุ้นการจำหน่ายและการบริโภคข้าวไทย และได้ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ด้านอาหารของอียิปต์ จัดทำคลิปสั้นเพื่อโปรโมตการใช้ข้าวหอมมะลิไทยในการประกอบเมนูท้องถิ่น ทำให้ชาวอียิปต์รู้จักข้าวไทยมากขึ้น ส่งผลดีต่อการส่งออกข้าวไทยไปอียิปต์ได้มากขึ้นช่วง 6 เดือน มีมูลค่า 1.64 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ  1.91


อย่างไรก็ตาม การผลักดันการส่งออกผลไม้ กรมฯ และทูตพาณิชย์ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายผลไม้ไทย “Thai Fruit Golden Months” เพื่อกระตุ้นยอดขายผลไม้ไทย ในตลาดจีน เช่น เมืองคุนหมิง เมืองเซี่ยเหมิน เมืองชิงต่าว ซึ่งผลไม้ไทยได้รับความนิยมอย่างมาก เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย ส้มโอ กล้วยไข่ มะพร้าว มะม่วง โดยมีสถิติการส่งออกช่วง 6 เดือนเป็นการยืนยัน มีมูลค่าถึง 74,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 64.89 และยังได้จัด Instore Promotion ร่วมกับซุปเปอร์มาร์เก็ตริมปิง ซึ่งเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตของนักลงทุนไทยใน สปป.ลาว โดยเน้นสินค้า ข้าว อาหาร และผลไม้ไทย ได้แก่ ทุเรียน มังคุด ลำไย ส้มโอ อินทผาลัม ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเช่นเดียวกัน

ส่วนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายร่วมกับห้างสรรพสินค้าในต่างประเทศ ทูตพาณิชย์ได้ร่วมมือกับซุปเปอร์มาร์เก็ตอันดับหนึ่งของสิงคโปร์ NTUC FairPrice จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทย เช่น ผลไม้ ข้าวสาร ไข่ไก่ ขนมขบเคี้ยว ผลไม้อบแห้ง ซอสปรุงรส ได้รับความนิยมและได้รับการโปรโมตของสื่อท้องถิ่น ที่โตเกียว ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการขายสินค้าไทยผ่านช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์ม Rakuten ส่งเสริมการขายสินค้าไทยกว่า 500 รายการ เช่น ข้าว ผลไม้สด ผลไม้แปรรูป เครื่องปรุงรส เครื่องดื่ม ไก่แปรรูป อาหารสำเร็จรูป ขนมขบเคี้ยว แมลงอบกรอบ สินค้าเพื่อสุขภาพ ผลิตภัณฑ์สปา และเครื่องสำอาง เป็นต้น และที่โอซากา ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าไลฟสไตล์ที่มีการออกแบบที่ดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ภายใต้โครงการ BCG N.E.W.S. 2021 โดยร่วมกับบริษัท Marukinkagu ผู้นำเข้าและจำหน่ายสินค้าไลฟสไตล์ระดับบน ในรูปแบบ Hybrid Pop-up Store นำสินค้ารวมกว่า 60 รายการจากผู้ประกอบการไทย 13 ราย จำหน่าย ณ Select Shop เมืองโอซากา รวมทั้งบนแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ  และการเข้าร่วมการจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบ Mirror–Mirror กรมฯ และทูตพาณิชย์ได้ร่วมมือนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Seoul Food 2021 ที่เกาหลีใต้ มีการเจรจาจับคู่ธุรกิจ 53 คู่ สินค้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ เครื่องดื่มใส่บุก ผลไม้แปรรูป ข้าวเหนียวมะม่วงฟรีซดราย ซอสพริก เครื่องปรุงรส และที่อินเดีย ได้จัดงาน Top Thai Brands 2021 India Edition ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ที่ห้างสรรพสินค้า Ambience Mall Gurgaon โดยเน้นสินค้าที่ตลาดต้องการ เช่น แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ อาหารและเครื่องดื่ม เครื่องใช้ภายในบ้าน ของประดับตกแต่งบ้าน และเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ มีการเจรจาธุรกิจออนไลน์ 46 ราย เกิดการนัดหมาย 100 นัดหมาย

สำหรับการส่งเสริม SMEs การบุกเมืองรอง และสร้างพันธมิตรทางการค้าระหว่างรัฐ ได้จัดงาน Thailand Week Online ที่เมืองปูเน่ รัฐมหาราชฏระ มีการเจรจาออนไลน์ 399 นัดภายใน 3 วัน เพื่อให้ผู้ส่งออกไทย 35 ราย ได้พบปะกับผู้นำเข้าอินเดียกว่า 110 ราย พร้อมส่งสินค้าตัวอย่างให้ผู้นำเข้าอินเดียได้ทดลองล่วงหน้าก่อนการเจรจา คาดว่ากิจกรรมครั้งนี้สามารถสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท และที่มุมไบ ได้จัดกิจกรรมสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยและกิจการชุมชน เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดอินเดียในอนาคต รวมทั้งได้ลงนามใน MOU เพื่อร่วมมือทางการค้ากับเมืองโคฟุ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น กับมณฑลไห่หนาน ของจีน และมีแผนจะลงนามกับรัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย และจังหวัดคยองกี เกาหลีใต้ 


ส่วนการเปิดโอกาสตลาดใหม่และสร้างความมั่นใจตลาดเดิม กรมฯ ได้ร่วมมือกับทูตพาณิชย์จัดสัมมนาเพื่อเพิ่มโอกาสในการเจาะตลาดใหม่ ได้แก่ ภูมิภาคอเมริกา ลาตินอเมริกา ภูมิภาคยุโรปและ CIS ภูมิภาคแอฟริกาและตะวันออกกลาง ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีมาก มีผู้ประกอบการสินค้าไทย ได้แก่ สินค้าอาหาร สินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าอุตสาหกรรม สินค้าสัตว์เลี้ยง สินค้าเฟอร์นิเจอร์และตกแต่ง เข้าร่วมการสัมมนา ดังนั้น ในช่วงที่เหลือของปีนี้ กรมฯ ยังมีกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการส่งออกอีกประมาณ 130 กิจกรรม โดยเน้นการจัดกิจกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์ การจัดงานแสดงสินค้าแบบไฮบริด การเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อผลักดันการส่งออกสินค้าไทยในช่วงวิกฤตโควิด-19 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

“วัดพระบาทน้ำพุ” แจงเงินวัด เข้าแล้วออกไปไหน

ลพบุรี 8 ส.ค. – หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ก็มีเสียงสะท้อนออกมาหลายแง่มุม ขณะที่บางส่วนตั้งคำถามเกี่ยวกับเงินวัดที่มีการเปิดรับบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอชไอวี ว่ายังมีความจำเป็นหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

บุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.-กำนัน ทุจริตที่ดินเอื้อนายทุน

สระบุรี 8 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” นำกำลังบุกจับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.สระบุรี-กำนัน ร่วมกันทุจริตออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 600-700 ไร่ เอื้อประโยชน์นายทุนสร้างบ้านพักหรู พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พร้อมด้วย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายฯ รมว.เกษตรและสหกรณ์ นำกำลังเข้าจับกุมนายวิชยุตม์ อายุ 42 ปี นายช่างสำรวจชำนาญงาน ขณะกำลังนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในห้องทำงาน ที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระบุรี และนายสิปปกร อายุ 57 ปี กำนัน ต.หนองย่างเสือ อ.หมวกเหล็ก ตามหมายจับศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 1 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐร่วมกันปฏิบัติหรือเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เป็นเจ้าพนักงานแต่กลับร่วมกันกระทำการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ หลังพบใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้าบุกรุกหรือครอบครองที่ป่าไม้ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีการตรวจสอบพบคาเฟ่ รีสอร์ตหรูแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อสร้างบุกรุกผืนป่า จึงเร่งขยายตรวจสอบที่ไปที่มาของการเข้าครอบครองที่ดินดังกล่าว กระทั่งพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐบางส่วนใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับนายทุน ด้วยการออกเอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 เพื่อใช้อ้างสิทธิเข้าครอบครอง […]

ยิงกำนันเล้น

ออกหมายจับ “ไอ้ ด.” มือปืนขาเป๋ ยิงถล่มกำนันเล้น ตร.ไล่ล่ากระชั้นชิด

ตรัง 8 ส.ค. – ออกหมายจับ ไอ้ ด. มือปืนขาเป๋ ยิง M16 ถล่มดับกำนันเล้น จ.ตรัง เผยปมสังหารจากคนเคยช่วยเหลือกลับขัดแย้ง-ขู่ฆ่า ผู้การตรังเผยแกะรอยเบาะแสไล่ล่าเป็นประโยชน์ ติดตามตัวแบบหายใจรดต้นคอ ลั่นต้องจับให้ได้ ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568 ว่า จากกรณีคนร้ายชายในชุดดำสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธสงคราม M16 ยิงถล่มนายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนันตำบลนาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด จนเสียชีวิต กระสุนเจาะประตูรถฝั่งคนขับพรุน 15 นัด ปลอกกระสุนขนาด 5.56 ตกกระจายเกลื่อน เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 01.00 น. วันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าบ้านของนายบัณฑิต พื้นที่หมู่ 9 ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นช่วงระหว่างที่นายบัณฑิตเดินทางกลับจากงานเลี้ยงงานแต่งงาน […]

“บุ๋ม ปนัดดา” พร้อมชน “มาลี”

กรุงเทพฯ 8 ส.ค. – ฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมาก สำหรับการแต่งตั้ง “ดร.บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี” นั่งโฆษก ศบ.ทก.จิตอาสา ด้าน “บุ๋ม” เปิดใจ เป็นคนชัดเจน ตรงไปตรงมา พร้อมชน “มาลี” ลั่นไม่กลัวเฟคนิวส์.-สำนักข่าวไทย