กรุงเทพฯ 6 พ.ค.- ประธานส.อ.ท. ชมรัฐบาลออกมาตรการเยียวยาโควิด-19 ได้รวดเร็วและทันเวลา พร้อมเห็นด้วยกับมาตรการต่างๆ แต่เสียดายที่เหลือเวลาดำเนินงานของบางโครงการอีกเพียงไม่นาน
นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ชมรัฐบาลออกมาตรการเยียวยาโควิด-19 ได้รวดเร็ว ทันเวลา พร้อมเห็นด้วยกับมาตรการต่างๆ ทั้งโครงการคนละครึ่ง เราชนะ-ม33เรารักกัน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการยิ่งใช้ยิ่งดี รวมถึงมาตรการช่วยเหลือค่าน้ำค่าไฟ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย ทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตามต้องดูว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยเหลือประชาชนได้นานเพียงใด เนื่องจากระยะเวลาในการช่วยเหลือบางมาตราการมีเวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้น ซึ่งเป็นระยะเวลาที่สั้นเกินไป อย่างไรก็ตามแม้จะมีมาตรการช่วยเหลือออกมา แต่แนวโน้มในภาพรวมก็ยังดูลำบาก เพราะปัญหาเรื่องการท่องเที่ยวการบริการก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ เศรษฐกิจองค์รวมในประเทศก็ยังต้องเป็นปัญหาอยู่ อีกทั้งการฉีดวัคซีนก็ยังไม่ครอบคลุม ยังกระจายไปไม่มากเท่าที่ควร รวมถึงการล็อคดาวน์ก็ยังคงต้องมีอยู่ต่อเนื่องจนกว่าการระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายลง ซึ่งตรงนี้จะเป็นตัวฉุดเศรษฐกิจของประเทศ
นายสุพันธุ์ยังเผยอีกว่า อยากให้รัฐขยายระยะเวลาช่วยเหลือเยียวยา ในบางโครงการที่มีระยะเวลาเพียง 2 เดือน เช่น เราชนะ และม33เรารักกัน เพื่อให้ประชาชนได้มีเงินมาใช้จ่ายช่วยหมุนเวียนระบบเศรษฐกิจมากขึ้น หรือหากสถานการณ์โควิด-19ดีขึ้น จนมีการคลายล็อคดาวน์ เศรษฐกิจก็จะขับเคลื่อนได้ดีขึ้น สิ่งที่เป็นห่วงคือว่า สถานการณ์อาจจะไม่ดีขึ้น ในเร็วๆนี้ ทั้งในมองว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อย่างเร็วคือไตรมาส4/2564 หรือไม่ก็ปีหน้า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 นอกจากนี้ยังเปิดเผยด้วยว่า เอกชนยังเดินหน้าจัดหาและนำเข้าวัคซีนป้องกันโควิด ให้แก่บริษัทเอกชนที่ยื่นความจำนง เพื่อนำไปฉีดให้กับพนักงานของตนเอง เพราะต้องการให้การฉีดวัคซีนกระจายไปสู่ประชาชนได้เร็วขึ้น จะได้สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
“ยืนยันภาคเอกชนจะต้องจัดหาวัคซีนมาฉีดเองให้เร็วที่สุด และมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะจะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และจะทำให้เปิดประเทศได้เร็ว แต่ถ้าฉีดไปแล้วยังเหลือก็ไม่เป็นไร เก็บไว้ใช้ปลายปีก็ยังได้ “ นายสุพันธุ์กล่าว. – สำนักข่าวไทย