ทีมกรุ๊ป ชี้ไทยเผชิญวิกฤตแล้งหนัก

กรุงเทพฯ 2 เม.ย.-“ทีมกรุ๊ป” เตือนไทยเผชิญภัยแล้งหนัก-น้ำเค็มรุก-ฝนทิ้งช่วง วอนเกษตรกรลุ่มน้ำเจ้าพระยางดทำนาปรัง ลดความเสียหายต่อผลผลิต รณรงค์การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าสู้วิกฤตภัยแล้ง 64


นายชวลิต จันทรรัตน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ หรือ TEAMG ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำของประเทศ กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้ง 2564 หลังกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ เมื่อช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า ความแห้งแล้งของปีนี้ จะเท่าๆกับปีที่แล้ว และเป็นแล้งปีที่ 3 ติดต่อกัน จากปรากฏการณ์เอลนีโญ ที่ต่อเนื่องมาถึงกลางฤดูฝนปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้มีฝนตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศ โดยปริมาณฝนสิ้นสุดเมื่อเมื่อเดือนธันวาคม ภาคเหนือมีฝนตก 1,020 มิลลิเมตร (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 1,200 มิลลิเมตร) ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนตกเฉลี่ย 1,300 มิลลิเมตร (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 1,400) ภาคกลางมีฝนตกเฉลี่ยเพียง 1,100 มิลลิเมตร ภาคตะวันตกมีฝนตกเฉลี่ย 1,700 มีฝนตกเฉลี่ย ส่วนภาคใต้ ฝนตกอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยเพียงภาคเดียว ฝนที่ตกน้อยกว่าค่าเฉลี่ย รวมทั้งฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่างๆ ลดลง บางพื้นที่แห้งแล้งรุนแรง และส่งสัญญาณการขาดแคลนน้ำปรากฏให้เห็นชัดเจน ตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา

ขณะที่ หน่วยงานบริหารการแห่งมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (สหรัฐอเมริกา) หรือ National Oceanic and Atmospheric Administration (NOAA) ได้รายงานผลตรวจวัดอุณหภูมิของผิวน้ำทะเลรวม 200 จุด และคาดการณ์ล่วงหน้าระยะเวลา 6 เดือน พบว่า ประเทศไทยในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน จะเกิดพายุฤดูร้อน มีลมกรรโชกแรง มีฝนตกแต่ปริมาณไม่มาก และเกิดลูกเห็บตกในบางพื้นที่ ก่อนจะเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการกลางเดือนพฤษภาคม และมีฝนทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายนและกรกฏาคม  โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงปลายฤดูฝน จะมีฝนตกมากกว่าเกณฑ์ปกติโดยทั่วไป โดยในเดือนตุลาคมถึงธันวาคม จะมีฝนตกมากในพื้นที่ภาคกลาง ภาคอิสานตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันออก


ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านทรัพยากรน้ำของประเทศไทย  เช่น กรมชลประทาน และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เปิดเผยข้อมูลน้ำใช้การในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 35 อ่าง จนถึงวันที่ 23 มีนาคม 2564 พบมีปริมาณน้ำรวม 36,256 ล้านลูกบาศก์เมตร และเป็นน้ำใช้การ 12,713 ล้านลูกบาศก์เมตร

สำหรับ 4 เขื่อนหลัก ได้แก่ เขื่อนภูมิพล, เขื่อนสิริกิติ์, เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์  เมื่อสิ้นหน้าฝนในปีปกติจะมีน้ำใน 4 อ่าง รวมกันมากกว่าหมื่นล้านลูกบาศก์เมตร แต่ปีที่แล้วและปีนี้ มีเพียงแค่ 5,000 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือครึ่งหนึ่งของที่ควรจะมี ซึ่งอยู่ในเกณฑ์น่าเป็นห่วง โดยพื้นที่ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพราะเป็นพื้นที่การเกษตรที่ต้องการใช้น้ำปริมาณมาก และต่างคาดหวังจะใช้น้ำจาก 4 เขื่อนหลัก ภาครัฐจึงกำหนดมาตรการและแผนการบริหารจัดการน้ำฤดูแล้ง ปี 2563/64 ให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำต้นทุน โดยแบ่งจัดสรรเป็นน้ำใช้การ 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร จะสามารถใช้ได้ตามแผนไปจนถึงสิ้นเดือนเมษายน และเก็บกักสำรอง 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร หากฝนตกต้องตามฤดูกาลในเดือนพฤษภาคมก็ไม่เป็นปัญหา แต่ถ้าฝนล่าช้าก็จะเกิดผลกระทบ เกษตรกรที่ต้องการปลูกช่วงต้นฤดูไม่สามารถทำได้ ต้องปลูกข้าวและตามฝนเท่านั้นเพื่อปองกันพืชผลทางการเกษตรเสียหาย โดยที่น้ำที่เก็บกักสำรองไว้ 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตรดังกล่าว จะนำมาใช้เพื่อการอุปโภค บริโภค อุตสาหกรรม และรักษาระบบนิเวศในช่วงที่ฝนทิ้งช่วงได้ถึงเดือนกรกฎาคม 2565

ทั้งนี้ กรมชลประทาน จะเป็นผู้ควบคุมการใช้น้ำให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ในแต่ละพื้นที่ และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เป็นไปตามแผนการบริหารจัดการน้ำที่คณะรัฐมนตรีมีมติ เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2563 โดยงดส่งน้ำเข้าระบบสำหรับการเกษตร เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในการอุปโภคและบริโภค ไม่ให้ประชาชนเดือดร้อนช่วงฤดูแล้ง แม้ว่าภาครัฐ จะแจ้งให้เกษตรกรงดปลูกข้าวนาปรังตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2563 เพราะหากปลูกแล้วผลผลิตเสียหาย รัฐบาลจะไม่เข้าไปช่วยเหลือ และกรมชลประทาน ก็จะไม่ส่งน้ำให้ ยกเว้นกรณีที่ต้องการรักษาระดับน้ำนอนลำคลอง เพื่อไม่ให้คลองแตกหักเสียหาย หรือคันคลองพังทลายหากไม่มีน้ำไปเลี้ยง ซึ่งก็พบว่ามีเกษตรกรจำนวนไม่น้อย ในเขตพื้นที่ที่มีระบบส่งน้ำจากแม่น้ำปิง วัง ยม และน่าน โดยเฉพาะจังหวัดลำปาง แพร่ สุโขทัย  น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก นครสวรรค์  สิงบุรี อ่างทอง ปทุมธานี และเขตหนองจอก กรุงเทพมหานคร มีเกษตรกรเสี่ยงปลูกข้าวรวมเนื้อที่ประมาณ 5 ล้านไร่  โดยข้อมูลล่าสุดวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 พบการปลูกข้าวอายุระหว่าง 1 ถึง 8 สัปดาห์ อยู่อีกกว่า 1 ล้านไร่ (ดังภาพจากภาพถ่ายดาวเทียมของ GISTDA) ซึ่งอยู่ในช่วงที่ต้องการใช้น้ำมากนั้น เกษตรกรจะต้องดิ้นรนหาน้ำใกล้เคียงและสูบน้ำจากพื้นที่ต้นน้ำไปใช้เพื่อการเกษตร ทำให้คนพื้นที่ปลายน้ำมีน้ำอุปโภคบริโภคไม่พอใช้ รวมทั้งไม่มีน้ำเพียงพอที่จะผลักดันน้ำเค็มจากน้ำทะเลหนุนสูง เพื่อควบคุมความเค็มไม่ให้เกินเกณฑ์มาตรฐานสำหรับการผลิตน้ำประปา และรักษาระบบนิเวศ โดยช่วง 23 ถึง 26 มีนาคม และ 7 ถึง 9 เมษายน 2564 จะเกิดภาวะน้ำเค็มจากปากอ่าวไทยหนุนสูงเข้าสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำแม่กลอง ส่งผลต่อการผลิตน้ำประปา และพื้นที่การเกษตรบางแห่ง อีกด้วย


“ขอฝากให้ทุกภาคส่วน ร่วมใจกันใช้น้ำอย่างประหยัด ภาคการเกษตร ให้งดทำนาปรัง ไม่สูบน้ำจากแม่น้ำ ส่วนชาวเมือง ขอให้เลิกพฤติกรรมการใช้น้ำฟุ่มเฟือย เปลี่ยนมาใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และภาคอุตสาหกรรม ลดปริมาณการใช้น้ำ นำน้ำกลับมาใช้ซ้ำ และใช้หมุนเวียน เพื่อให้มีน้ำใช้เพียงพอไปจนถึงต้นฤดูฝน” นายชวลิต กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

มวลชนไม่ท้อ! ฝนถล่มกางร่มฟังปราศรัย

28 มิ.ย.- ไม่ท้อ! อนุสาวรีย์ชัยฯ ฝนตกหนัก มวลชนกางร่มฟังปราศรัย ปักหลักชุมนุมต่อเนื่อง เตรียมร่วมกิจกรรมร้องเพลงชาติไทย เวลา 18.00 น. วันนี้ (28 มิ.ย. 68) เวลาประมาณ 16.30 น. ฝนตกหนักบางช่วงในพื้นที่ชุมนุมของกลุ่ม “รวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย” บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขณะที่ แกนนำสลับกันขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมประกาศ 3 ข้อเรียกร้องหลัก คือ ให้นายกรัฐมนตรีลาออก พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และประชาชนลุกขึ้นปกป้องอธิปไตย สำหรับไฮไลท์ช่วงเย็นวันนี้ หลังร้องเพลงชาติ เวลา 18.00 น.​ จะมีการอ่านแถลงการณ์และมีแกนนำขึ้นปราศรัยใหญ่ ก่อนยุติการชุมนุมในเวลา 21.00 น. -สำนักข่าวไทย

แนวร่วมเริ่มปราศรัย! จนท.เข้มปลอดภัย-จราจรหนึบ

กทม. 28 มิ.ย.- กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปักหลักชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยฯ จับตาไฮไลท์ช่วงเย็นแกนนำขึ้นปราศรัย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด กิจกรรมเวทีชุมนุมกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย​ เริ่มตั้งแต่ 10.00 น.​ เป็นพิธีทางศาสนาอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรบุรุษชาติทหาร​ ก่อนที่ในช่วงเที่ยงจะมีการปราศรัยจากแนวร่วมผู้ชุมนุม ขึ้นสลับสับเปลี่ยนกัน​ แต่ไฮไลท์ของกิจกรรมจะอยู่ช่วงเย็น​ หลังร้องเพลงชาติ 18.00 น.​ จะมีการอ่านแถลงการณ์ จากนั้นระดับแกนนำจะสลับกันขึ้นปราศรัย อาทิ นายสนธิ​ ลิ้มทองกุล​ นายปานเทพ​ พัวพงษ์พันธ์ นายสมชาย​ แสวงการ นายเจษ โทณวณิก​ นายนิธร​ ล้ำเหลือ และปิดท้ายด้วยนายจตุพร​ พรหมพันธุ์ โดยจะปิดเวทีเวลา 21.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. นำคณะเดินทางจากสะพานชมัยมารุเชฐ แถวทำเนียบรัฐบาล มาสมทบที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมกล่าวถึงภาพรวมการชุมนุม โดยยอมรับว่าได้รับรายงานเรื่องการตั้งด่านสกัด เพื่อไม่ให้เดินทางเข้ามาร่วม พร้อมย้ำการชุมนุมครั้งนี้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง แต่เป็นการชุมนุมของบ้านเมือง รักประเทศ และย้ำว่าการชุมนุมไม่มีท่อน้ำเลี้ยงจากกลุ่มองค์กรใด แต่เป็นท่อน้ำเลี้ยงที่มาจากเงินบริจาคของประชาชน ขณะเดียวกันไม่กังวลกลุ่มที่จะมาป่วน ด้าน […]

น้ำท่วมพญาเม็งรายเริ่มลด แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน

เชียงราย 28 มิ.ย.- เริ่มคลี่คลาย! สถานการณ์น้ำท่วมพญาเม็งราย จ.เชียงราย เช้านี้ระดับน้ำลดลงแล้วกว่า 80% แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้ เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงไปแล้วกว่า 80% เหลือเพียงคราบโคลนจำนวนมากที่ยังปกคลุมที่อยู่อาศัยและถนนหลายสาย เช้านี้มีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่อง  ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ยังคงเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ เนื่องจากขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น น้ำสะอาด อุปกรณ์ทำครัว และแหล่งพลังงาน จึงขอรับการสนับสนุนอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงฟื้นฟูพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้มณฑลทหารบกที่ 37 ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นแล้ว ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดฝนตกหนักอีกครั้ง -สำนักข่าวไทย

นายกฯ บินเชียงรายตรวจน้ำท่วม ไม่กังวลม็อบขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ

บน.6 ดอนเมือง 28 มิ.ย.- นายกฯ นำคณะตรวจน้ำท่วมเชียงราย ไม่กังวลม็อบชุมนุมขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ ยินดีคุยด้วยสันติวิธี เช้านี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หลังฝนตกหนัก ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน นัดชุมนุมใหญ่ วันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เรียกร้องให้ตนเองลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ขอให้หน่วยงานความมั่นคงช่วยดูแลให้สงบเรียบร้อย ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ยังไม่มีอะไรนะคะ” ก่อนย้อนถามว่า “มีอะไรแล้วหรือคะ” เป็นปกติ ก็เป็นสิทธิอยู่แล้ว ซึ่งได้บอกให้ดูให้เรียบร้อย ไม่อยากให้มีความรุนแรง ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคิดว่าการชุมนุมนี้จะบานปลายหรือไม่ เพราะเป็นการรวมพลังกันของหลายกลุ่ม นายกฯ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะไม่มี ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ธงของการชุมนุมครั้งนี้คือต้องการให้นายกรัฐมนตรี ลาออก […]