กกร.วอนรัฐต้องคุมโควิดให้อยู่

กรุงเทพฯ 3 ก.พ.-ผลประชุม กกร.วิตกโควิด-19 ระลอกใหม่ วอนรัฐเร่งควบคุมให้อยู่ พร้อมเร่งหามาตรการเยียวยาผู้ประกอบการและแรงงานให้ทั่วถึง แต่ยังมั่นใจปีนี้จีดีพีของไทยพร้อมภาคการส่งออกกลับมาเป็นบวกได้แน่


นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สอท.กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมกกร.ว่า ที่ประชุมสรุปภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงไตรมาสที่ 1 ปี 2564 ถูกกดดันจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ที่ยังไม่คลี่คลายและมีความไม่แน่นอนสูง ทั้งนี้ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะสั้นขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. ความสามารถในการควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งจำเป็นต้องเร่งตรวจเชิงรุกและแยกผู้ติดเชื้อ และ 2.มาตรการเยียวยาผู้ประกอบการและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโควิด-19 รวมไปถึงการประคับประคองกำลังซื้อในประเทศ  ความท้าทายหลักจะอยู่ที่ตลาดแรงงานซึ่งมีความเปราะบาง เนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในหลายจังหวัดได้ซ้ำเติมธุรกิจหลายประเภทที่ยังไม่ทันได้ฟื้นตัวจากการระบาดครั้งก่อน ทั้งนี้ คาดว่าแรงงานที่มีชั่วโมงการทำงานต่ำกว่าศักยภาพจะมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อรายได้และกำลังซื้อโดยรวมลดลง

อย่างไรก็ตามหลายประเทศเริ่มฉีดวัคซีน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจสามารถกลับมาดำเนินได้อย่างต่อเนื่องในปี 2564  แม้เศรษฐกิจโลกในไตรมาสแรกของปี 2564 จะมีแนวโน้มชะลอลง จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการควบคุมโรคที่เข้มข้นในหลายประเทศ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศเหล่านั้นเริ่มลดลง ประกอบกับหลายประเทศดำเนินการฉีดวัคซีนไปแล้ว และมีจำนวนผู้ที่ได้รับวัคซีนเพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ทำให้คาดการณ์ได้ว่าจะสามารถกลับมาผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคได้ในระยะถัดไป ซึ่งจะทำให้กิจกรรมเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี ยังคงต้องติดตามสถานการณ์เชื้อไวรัสกลายพันธุ์ที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนโควิด-19 ตลอดจนความสามารถในการส่งมอบวัคซีนในหลายประเทศที่อาจกดดันการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกในระยะต่อไป


ทั้งนี้  กกร. ขอให้ภาครัฐเร่งแก้ไขปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งจะเป็นอุปสรรคต่อการส่งออกสินค้า และรองรับผลิตผลทางการเกษตรที่กำลังจะทยอยออกตั้งแต่เดือนมีนาคม โดยขอให้ท่าเรือแหลมฉบังเปิดให้เรือแม่ขนาด 400 เมตร เข้ามามากที่สุด และลดค่าใช้จ่ายเพื่อจูงใจให้เร่งนำเข้าตู้คอนเทนเนอร์เปล่าเข้ามาให้มากขึ้น โดยเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามทิศทางการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคในประเทศต่างๆ ส่วนสถานการณ์ในประเทศ หากสามารถควบคุมสถานการณ์โรคระบาดให้อยู่ในวงจำกัด และผ่อนคลายมาตรการควบคุมที่จำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ภายในไตรมาสแรก ประกอบกับมีมาตรการภาครัฐที่สามารถบรรเทาผลกระทบของภาคธุรกิจและกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบอย่างตรงจุด ที่ประชุม กกร. ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2564 ที่จะขยายตัวได้ในกรอบร้อยละ 1.5-3.5 การส่งออกในปี 2564 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3-5 ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะอยู่ในกรอบร้อยละ 0.8 – 1.0

นอกจากนี้ กกร. ขอให้ภาครัฐให้ความสำคัญกับเรื่องวัคซีน โดยให้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับต่างประเทศ ทั้งในภาคเศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยว (Vaccine Passport) ทั้งนี้ อยากให้ภาครัฐจัดทำกระบวนการและวิธีการในการฉีดและกระจายวัคซีนให้ชัดเจน และทั่วถึงเพียงพอต่อจำนวนประชากรในภายภาคหน้า รวมถึงแรงงานต่างด้าว โดยภาคเอกชนยินดีให้ความร่วมมือกับภาครัฐเรื่องค่าใช้จ่าย โดยขอลดหย่อนภาษีเรื่องการฉีดวัคซีน

ส่วนสถานการณ์ทางการเมืองในสหภาพเมียนมา กกร.มีข้อกังวลว่าหากมีการแทรกแซงทางการเมืองจากต่างประเทศ อาจส่งให้การค้าระหว่างไทยกับเมียนมาได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการนำเข้าสินค้าจากไทย และขอให้การเปลี่ยนถ่ายอำนาจของรัฐบาลเมียนมาเป็นไปโดยสงบ และให้คงข้อตกลงหรือสัญญากับประชาคมต่าง ๆ


อย่างไรก็ตาม กกร. ได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินโครงการ Regional Digital Trade Connectivity (RDTC) ของ ASEAN-BAC ภายใต้ชื่อโครงการ Digital Trade Connect ที่ ASEAN-BAC ประเทศไทยเป็นผู้ผลักดัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศ ช่วยลดต้นทุนและระยะเวลา และสร้างโอกาสให้ SME เข้าถึงการค้าระหว่างประเทศและเข้าถึงสินเชื่อได้ดีขึ้น โดยดำเนินการเพื่อให้มีการปรับเปลี่ยนการทำธุรกรรมการค้าขายระหว่างประเทศจากเดิมที่เป็นการทำด้วยกระดาษที่ต้องมีการนำเข้าข้อมูลเดียวกันในระบบผู้เกี่ยวข้องหลายครั้งมาเป็นการทำที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าด้วยกันผ่านระบบดิจืทัล ผ่านการทำงานในการสร้าง Compatibility และ Connectivity ให้เกิดขึ้นในภูมิภาคที่ทำธุรกรรมการค้าแบบดิจิทัลร่วมกัน และที่ประชุมอยากให้ผลักดันให้โครงการดังกล่าวและโครงการ National Digital Trade Connectivity (NDTP) ของประเทศไทยให้สำเร็จและเกิดผลได้โดยเร็วต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. แต่งตั้งนายพล 250 ตำแหน่ง

1 ก.ย. – เปิดโผตำรวจ ประชุม ก.ตร. กว่า 8 ชม. บัญชีแต่งตั้งนายพลตำรวจ 250 ตำแหน่ง “บิ๊กเต่า” แห้ว “นพศิลป์” ได้ขึ้น พล.ต.ท. เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2568 ที่ห้องศรียานนท์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (รองประธาน ก.ตร.) เป็นประธานการประชุม ก.ตร. ครั้งที่ 8/2568 วาระแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ถึง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ประจำปี 2568 โดยแต่งตั้งเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกย้ายสับเปลี่ยน กว่า 250 ตำแหน่ง ทั้งนี้ ก.ตร.ครบองค์ประชุม ขาดเพียงนายภูมิธรรม […]

“บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ.-ตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทนอดีตพระอลงกต

กรุงเทพฯ 1 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” ยอมรับมีอดีต ผอ.พศ. ร่วมถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ส่วน “สมปอง” ยังอยู่ในข่ายถูกดำเนินคดี แม้จะอ้างว่าเป็นการยืมเงินและคืนไปบางส่วนแล้ว ขณะที่วง “พิงค์แพนเตอร์” ประสานเข้าพบตำรวจเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนคดี “อลงกตการละคร” ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปพอสมควร และมีตัวละครที่สามารถดำเนินคดีได้หลายคน แต่ตำรวจต้องการพยานหลักฐานมาประกอบข้อมูลตรงนี้ให้ชัดเจนมากขึ้นก่อน ซึ่งตอนนี้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามทยอยเรียกสอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ส่วนความคืบหน้าการตรวจสอบขยายผลเส้นทางการเงินและทรัพย์สิน โดยเฉพาะประเด็นที่มีคนใกล้ชิด อักษรย่อ นางสาว ว. ถือครองโฉนดที่ดินมูลค่ารวม 140 ล้านบาทนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่าตำรวจอยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบบุคคลเกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในจำนวนนั้นยอมรับว่ามีอดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และตลกชื่อดัง ถือครองโฉนดที่ดินแทน “อดีตพระอลงกต” ด้วย โดยทั้งคู่มีพฤติกรรมคล้ายๆ กัน คือ เข้าไปหาผลประโยชน์ และไม่ใช่เพียงผลประโยชน์จากเงินวัดก้อนเดียว แต่หาผลประโยชน์จากกลุ่มเครือข่ายด้วย ซึ่งมีมูลค่าเงินจำนวนมาก และทางอดีตพระอลงกต ก็มองว่าตนเองถูกรังแก ถูกโกงเงินไป ทั้งเรื่องคอนเสิร์ต เรื่องที่ดิน และถือครองทรัพย์สินแทน […]

พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ

พรรคกล้าธรรม 30 ส.ค.-พรรคกล้าธรรม ออกแถลงการณ์ โหวตหนุน “อนุทิน” นั่งนายกฯ ชี้ปล่อยให้ประเทศเกิดสุญญากาศไม่ได้ เผยภูมิใจไทยรับข้อเสนอ แก้ กม.ต้องไม่กระทบสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเวลา 15.55 น. พรรคกล้าธรรม (กธ.) ได้ออกแถลงการณ์ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากความเป็นนายกรัฐมนตรี จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำให้คณะรัฐมนตรีต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และจะต้องมีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 ต่อไปว่า คณะกรรมการบริหารพรรค ร่วมกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ได้ร่วมกันพิจารณารับฟังความคิดเห็นของสมาชิกพรรคทุกท่าน เพื่อกำหนดทิศทางการดำเนินการของพรรค รวมถึงพิจารณาข้อเสนอของพรรคภูมิใจไทย โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ว่า พรรคกล้าธรรม จะลงมติในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร สนับสนุนให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เนื่องด้วยสถานการณ์ของประเทศไทยขณะนี้ จำเป็นที่จะต้องมีฝ่ายบริหารมาขับเคลื่อนและแก้ปัญหาให้กับประชาชนในทุกด้าน ทั้ง ปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ปัญหาเศรษฐกิจทั้งในและนอกประเทศ ปัญหาสังคมด้านต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน โดยไม่สามารถประวิงเวลาไปได้อีก พรรคกล้าธรรม ได้แสดงจุดยืนของพรรคให้กับพรรคภูมิใจไทยทราบ คือ 1.พรรคกล้าธรรม ยึดถือ […]

“เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล

พรรคประชาธิปัตย์ 31 ส.ค.- “เดชอิศม์” ปิดประตูจับมือ “ภูมิใจไทย” ตั้งรัฐบาล กร้าว ถ้าหนุนก็ไม่เหลือความเป็นคน บอก รัฐประหาร 100 ครั้ง ก็ไม่เลวร้ายเท่าฮั้ว สว. ยกอำนาจให้คนเดียวชี้ขาดประเทศ ย้ำคดีเขากระโดง ต้องเอาผิดให้เด็ดขาด บอก 2-3 เดือน ก็ยุบสภาได้ ไม่ต้องรอ 4 เดือน นายเดชอิศม์ ขาวทอง เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัย ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ออกมาระบุภายหลังการเจรจากับพรรคประชาชน ที่พรรคร่วมรัฐบาลรับเงื่อนไขทั้งหมดของพรรคประชาชน ว่า จริงๆ เป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย กับพรรคประชาชน ตนไปเป็นเพื่อนเขา ส่วนประเด็นเป็นเรื่องของทั้งสองพรรคต้องคุยกัน เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้รับเงื่อนไขทั้งหมดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ปฏิบัติตามเงื่อนไขของพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด ส่วนจะนำข้อหารือระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาชน เข้าสู่ที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ด้วยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยอมรับว่า อาจอยู่ในวาระอื่นๆ เนื่องจากมีวาระสำคัญอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ส่วนตัวเห็นด้วยกับข้อเสนอของพรรคประชาชนและและข้อเสนอเพิ่มเติมของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายเดชอิศม์ ยืนยันว่า […]

ข่าวแนะนำ

‘เท้ง’ ยันแกนนำ ปชน. ไม่มีธงโหวตนายกฯ

1 ก.ย.- ‘เท้ง’ ยืนยันแกนนำพรรคประชาชน ไม่มีธงโหวตเลือกนายกฯ เปิดโอกาสถกเต็มที่ ย้ำได้ข้อยุติ ก่อนวันโหวตแน่นอน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน เดินทางมายังที่ทำการพรรค พร้อมเปิดเผยก่อนการประชุมร่วมกับคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อกำหนดทิศทางในการผ่าทางตันโหวตนายกรัฐมนตรี โดยแนวทางในวันนี้จะเปิดโอกาสให้สมาชิกพรรค แสดงความคิดเห็นอย่างเปิดกว้าง ส่วนจะต้องมีการลงมติหรือไม่ ถือว่าอยู่ที่การหารือของที่ประชุม เพราะหากเราสามารถหารือกันได้ข้อสรุปไปในทิศทางเดียวกันได้ อาจจะไม่จำเป็น แต่ตอนนี้ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอยู่ สำหรับเงื่อนไขที่จะทำให้ไม่สามารถเคาะทิศทางโหวตได้ในวันนี้นั้น มีหลายเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างรอบด้าน ทั้งความเสี่ยงของฉากทัศน์ต่างๆ ตนขอยังไม่ลงรายละเอียดในตอนนี้ดีกว่า เมื่อถามถึงกระแสผู้สนับสนุนพรรค ที่อยากให้ยึดจุดยืน โดยไม่เลือกพรรคไหนเลยนั้น นายณัฐพงษ์ ย้ำว่า ทุกอย่างควรพิจารณาทั้งหมด ส่วนคาดว่าจะมีการโหวตได้เมื่อไหร่ หรือจะมีการเซอร์ไพรส์ไม่โหวตเลยหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคงไปตอบแทนเพื่อน สส. รวมถึงองคาพยพของพรรคไม่ได้ เพราะในตอนนี้เป็นโอกาสที่ต้องหารือภายในกันให้รอบด้าน อาจให้คำตอบได้แค่ว่า จะพยายามหารือให้ได้ข้อสรุปโดยเร็วที่สุด รอเย็นวันนี้ก่อน น่าจะได้ความคืบหน้า อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าทุกคนคงได้รับฟังเสียงสะท้อน ทั้งความคิดเห็นในออนไลน์ และออฟไลน์ เมื่อถามว่านายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย ได้มีการติดต่อมาคุยหรือยัง เนื่องจากไม่ได้มาหารือพร้อมกับพรรคเพื่อไทย นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยังไม่มี […]

เพื่อไทย ยังไม่มีแกนนำเข้าพรรค รอลุ้นมติ ปชน.บ่ายนี้

พรรคเพื่อไทย 1 ก.ย.-เพื่อไทย ยังไม่มีแกนนำเข้าพรรค แยกปฏิบัติภารกิจแต่ละกระทรวง รอลุ้นมติ ปชน.บ่ายนี้ ด้าน “ชัยเกษม” ลั่นไม่ต้องห่วงเรื่องความพร้อม เพื่อชาติบ้านเมืองไม่มีปัญหา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเมื่อวานนี้ (31 ส.ค.) แกนนำ ซึ่งนำโดย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะปฏิบัติหน้านายกรัฐมนตรี นำคณะเจรจาแกนนำไปพูดคุยขอเสียงสนับสนุนจากพรรคประชาชน บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทยตั้งแต่ช่วงเช้าไม่พบแกนนำพรรคเดินทางเข้ามา โดยจากการสอบถามทุกคนยังคงปฏิบัติภารกิจตามงานของกระทรวง มีเพียงสื่อมวลชนที่เข้ามาเกาะติดสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม คาดว่าหลังพรรคประชาชนมีมติออกมาว่าจะสนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ ฝ่ายใดนั้น แกนนำพรรคเพื่อไทย จะมีความเคลื่อนไหวออกมาแน่นอน ด้านนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตนเองมีความพร้อมในการเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยมีมติอย่างไร ก็ว่ากันไปตามนั้น “ไม่ต้องห่วงเรื่องความพร้อม ตนพร้อมทำหน้าที่ เพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีปัญหา” นายชัยเกษม กล่าว ส่วนเรื่องการยอมรับเงื่อนไขจากพรรคประชาชน นั้น นายชัยเกษม ระบุว่า ก็เป็นไปตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วเมื่อวานนี้ และถือว่าให้เป็นไปตามมติของแกนนำพรรค.-316.-สำนักข่าวไทย

วางบึ้ม-เผายางรถยนต์ 5 อำเภอ 6 จุด จ.นราธิวาส

นราธิวาส 1 ก.ย.-ใต้ป่วนหนัก วางระเบิด-เผายางรถยนต์ 5 อำเภอ 6 จุดในพื้นที่นราธิวาส กล้องวงจรปิดจับภาพชัด เจ็บ 2 ราย รายงานข่าวจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมาตั้งแต่เวลา 19.50 น. ของคืนวันที่ 31 ส.ค.68 ถึงเวลา 00.30 น. ของคืนวันที่ 1 ก.ย.68 ได้มีกลุ่มสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรง ได้มีการประชุมวางแผนกระจายกำลังกันก่อเหตุเผายางรถยนต์ และลอบวาระเบิดในพื้นที่ 5 อำเภอ ของ จ.นราธิวาส ประกอบด้วย อ.สุไหงปาดี, จะแนะ, บาเจาะ, เจาะไอร้องและศรีสาคร ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจพบ จำนวน 6 จุด มีผู้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 2 ราย รถยนต์ได้รับความเสียหาย 1 คัน พร้อมกันพื้นที่จุดเกิดเหตุและได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อเข้าทำการตรวจสอบในช่วงสายของวันนี้ โดยจุดแรก เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.50 น. ของคืนวันที่ […]

“บิ๊กเต่า” ยันไม่น้อยใจ หลังหลุดโผแต่งตั้ง-โยกย้าย

กทม. 1 ก.ย.-“บิ๊กเต่า” ยันไม่น้อยใจ หลังหลุดโผแต่งตั้ง-โยกย้าย เผยชีวิตนี้ผ่านอะไรมาเยอะ ยันทำเพื่อส่วนรวมไม่ใช่เพื่อตนเอง หลังจากนี้จะเดินหน้าทำงานต่อไปและทำงานให้หนักขึ้น จากการประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เมื่อวานนี้ใช้เวลานานถึง 8 ชั่วโมงจัดทำบัญชีรายชื่อ ซึ่งมีตำรวจที่ได้รับการแต่งตั้งโยกย้ายครั้งนี้ 250 นาย แต่ปรากฎว่า พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไม่มีชื่อในการแต่งตั้งโยกย้าย ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาเปิดหน้ายื่นขอความเป็นธรรมกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ เปิดเผยว่า ไม่น้อยใจที่ไม่ได้รับการแต่งตั้ง ซึ่งก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าอยากให้คนทำงานมีโอกาสได้รับการแต่งตั้ง สำหรับคนที่ได้รับการแต่งตั้งก็ยินดีและดีใจด้วย อย่าง พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการประจำสำนักงานผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพราะเป็นคนเก่งและมีความสามารถ ทำงานด้านสืบสวน มองว่าหากตนเองไม่ออกมาให้สัมภาษณ์และให้มีการแก้ไขก็คงแก้ยากเพราะทุกคนไม่มีรายชื่อเข้าไป เพราะฉะนั้นตนเองก็เห็นด้วยที่ ก.ตร. เข้ามาแก้ไขปัญหา ส่วนที่ตนเองไม่ได้เลื่อนตำแหน่งก็ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าการทำเพื่อส่วนรวมและให้ระบบเดินต่อไปได้เป็นสิ่งที่ดี และอยากสร้างมาตรฐานอีกหนึ่งอย่างคือ อยากเห็นแนวทางการพิจารณาเรื่องการแต่งตั้งในหมวดความรู้ความสามารถ อยากให้คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) หาแนวทางในการให้ความเป็นธรรมกับตำรวจที่จะมีการแต่งตั้งในระดับผู้บัญชาการและรองผู้บัญชาการในปีต่อไป หลังจากนี้จะต้องปรึกษากับฝ่ายกฎหมายว่าการพิจารณาต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมคณะกรรมการชุดเล็กและชุดใหญ่ ควรนำหลักการอะไรมาพิจารณาเพื่อความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และเพื่อประโยชน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการเป็นขวัญกำลังใจ ทำให้ตำรวจและส่วนรวมได้มีความมุมานะในการทำงานเพื่อประโยชน์ของประชาชน […]