ระบบขนส่งอ่วม! โควิดระลอกใหม่ทำขาดทุนถ้วนหน้า


กรุงเทพฯ 11 ม.ค. – ผู้ให้บริการระบบขนส่ง ทั้งรถโดยสาร ระบบราง เรือโดยสาร ยอมรับสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำอ่วม ทำผู้โดยสาร-รายได้ลดลงถ้วนหน้าแล้ว


นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ยอมรับว่าผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บขส.คนใหม่นั้น ต้องเข้ามาทำงานในช่วงที่ธุรกิจมีความท้าทาย เนื่องจากพฤติกรรมการเดินทางของผู้โดยสารได้เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด- 19 ทำให้ปริมาณการเดินทางของผู้โดยสารลดลงอย่างมาก หากเปรียบเทียบการเดินทางตั้งแต่เดือน มี.ค.63 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันมีผู้โดยสารหายไปกว่า 60-70% โดยพบว่ามีปริมาณผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยที่ 30,000 คน/วัน จากเดิมมีปริมาณเดินทางเฉลี่ยอยู่ที่ 80,000 คน/วัน ส่วนยอดคืนตั๋วการเดินทางก็มีมาต่อเนื่อง

นายสรพงศ์ กล่าวว่า ปัจจุบัน บขส. ประสบปัญหาขาดทุนกว่า 43 ล้านบาท/เดือน หรือ รวมจากที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานขาดทุนรวมกว่า 500 ล้านบาท ดังนั้น บขส.จึงต้องปรับลดรายจ่ายทั้งองค์กร ชะลอการรับพนักงานใหม่ หรือ เปิดโครงการหยุดทำงานโดยไม่รับค่าตอบแทน รวมถึงให้เน้นเพิ่มรายได้ ต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้บริการขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์อย่างเต็มตัว เพิ่มจากเดิมที่ขนส่งผู้โดยสารอย่างเดียว เนื่องจากปัจจุบันได้มีการขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ใต้ท้องรถ และ มาเสริมวางบนที่นั่งที่ไม่มีผู้โดยสารพบว่า ทำรายได้ให้ บขส. กว่า 170 ล้านบาท/ปี ซึ่งล่าสุดทาง บขส.ได้เตรียมเสนอมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อเสนอ ครม.มีมติอนุมัติในการเปลี่ยนมติ ครม.ให้ บขส. สามารถดำเนินธุรกิจ ขนส่งสินค้าและพัสดุภัณฑ์ได้ จากเดิม มติ ครม.ได้ให้ บขส. ทำธุรกิจขนส่งผู้โดยสารอย่างเดียว


นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด กล่าวยอมรับว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ทำให้นครชัยแอร์ประสบปัญหามีผู้โดยสารลดลงและขณะนี้สามารถวิ่งเที่ยวรถเพื่อให้บริการไม่ถึง 15 % ของในช่วงปกติเท่านั้น โดยเป็นการลดเที่ยววิ่งในทุกเส้นทางทั่วประเทศ ขณะเดียวกันยอมรับว่า ปัจจุบันบริษัทยังมีภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆเหมือนปกติทั้งในเรื่องของค่าขา ค่าเข้าใช้พื้นที่จอดสถานีในส่วนภูมิภาค และแม้ว่าจะให้บริการเที่ยววิ่งน้อยลง แต่นครชัยแอร์ก็ไม่สามารถลดจำนวนพนักงานได้เนื่องจาก ปัจจุบันทั้งพนักงานขับรถและพนักงานประจำรถก็ถือว่าเป็นแรงงานฝีมือ พี่ไม่สามารถหาทดแทนได้ง่ายหากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ

นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งแห่งประเทศไทย (รฟม.) ยอมรับว่า ผลกระทบของการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ทำให้ผู้ใช้บริการระบบรถไฟฟ้าในกำกับดูแลของ รฟม. ลดลงประมาณ 50% เช่นในส่วนของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินซึ่งปกติมีผู้ใช้บริการต่อวันประมาณ 400,000 คนขณะนี้เหลือเพียงเกือบ 200,000 คนเท่านั้น ส่วนรถไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งปกติมีผู้โดยสารใช้บริการต่อวัน 40,000 ถึง 50,000 คน ปัจจุบัน มีผู้โดยสารเดินทางเฉลี่ยวันละ 20,000 คนเท่านั้น

โดยสาเหตุสำคัญที่จำนวนผู้โดยสารลดลงก็มาจากส่วนหนึ่ง ที่มีการพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลและมีการแจ้งไทม์ไลน์ การเดินทางของผู้ติดเชื้อ ส่งผลให้ผู้โดยสารที่เคยใช้บริการก็มีการหลีกเลี่ยงการเดินทาง รวมถึงนโยบายในการ Work from home ก็ทำให้มีผู้ใช้บริการเดินทางลดลงอยู่แล้วส่วนหนึ่ง


อย่างไรก็ตามยืนยันว่า แม้จำนวนผู้โดยสารปัจจุบันจะลดลงแต่ รฟม. ยังคงเข้มเรื่องมาตรการเฝ้าระวังการระบาดของไวรัสโควิด โดยขณะนี้มีการนำมาตรการเว้นระยะห่างบนรถ รวมถึงการคัดกรองผู้โดยสารที่ลงมาในพื้นที่ส่วนชานชาลา ไม่ให้มีการกระจุกตัวอยู่แล้ว

นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี ยอมรับว่า ในส่วนของรถไฟฟ้าบีทีเอสผู้โดยสารก็ลดลงในสัดส่วนเท่ากันคือ 50% โดยขณะนี้บีทีเอส มีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละประมาณ 300,000 คนจากช่วงก่อนที่จะมีการระบาดของโควิดระลอก 2 ซึ่งบีทีเอสมีผู้โดยสารใช้บริการเฉลี่ยวันละ 600,000 -700,000 คน และต้องยอมรับว่าหากไม่มีการระบาดของไวรัสโควิด ทั้ง 2 ครั้งนี้ บีทีเอสจะมีผู้โดยสารใช้บริการแตะ 1,000,000 คนไปแล้ว

นายเชาวลิต เมธยะประภาส หรือลุงถั่ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ครอบครัวขนส่ง (2002) ผู้ให้บริการเรือด่วนคลองแสนแสบ บอกว่า การระบาดของไวรัสโควิดระลอกใหม่ ทำให้ผู้โดยสารลดลงประมาณ 30% โดยขณะนี้เรือด่วนคลองแสนแสบมีผู้ใช้บริการประมาณ 20,000 คนจากช่วงก่อนหน้า ที่มีผู้ใช้บริการประมาณกว่า 30,000 คน/วัน โดยต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเรือคลองแสนแสบไม่เคยมีปัญหาขาดทุนแต่ในขณะนี้ก็ประสบภาวะขาดทุนแล้ว

โดยปัจจัยที่ทำให้การลดลงของผู้โดยสารรอบนี้มากกว่าการระบาดในรอบแรก เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันต้องยอมรับว่าประชาชนผู้เดินทางมีการปรับตัวในเรื่องของการเดินทางและการทำงานได้แล้ว โดยใช้แนวทางของการ work from home ในขณะเดียวกันก็ยอมรับว่ามีสถานการณ์น่าเป็นห่วง ในส่วนของผู้ประกอบการค้าขาย ธุรกิจขนาดเล็กที่ขณะนี้ ประสบปัญหาขาดทุนต้องเลิกกิจการ ก็ทำให้ทั้งพนักงานลูกจ้างต่างๆต้องลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางวัน ต่อวันลงไปด้วย

ส่วนผลกระทบต่อบริการสายการบินนั้น นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กำกับดูแลงานด้านขนส่งอากาศ กล่าวว่า ได้รับรายงานจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) จำนวนเที่ยวบินในแต่ละเส้นทางมีการปรับลดลงจากเดิมประมาณร้อยละ 40 แต่รายละเอียดของการยกเลิกเที่ยวบินจะต้องรอข้อมูลสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย สรุปตัวเลขที่เป็นทางการ

ด้านการติดต่อขอมาตรการเยียวยาของผู้ประกอบการสายการบินต่างๆ ยังไม่ทราบ เนื่องจาก กพท. เป็นผู้รวบรวมข้อมูลทั้งหมด แต่ในส่วนของสนามบินภูมิภาคที่ ทย.กำกับ ขณะนี้ยังไม่มีผู้ประกอบการสายการบินรายใดติดต่อผ่านเข้ามา

ทั้งนี้มีรายงานข่าวจากกรมท่าอากาศยาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันทั้ง 6 สายการบิน ที่ใช้บริการสนมาบิน 28 แห่งของกรม ประกอบด้วย ไทยสมายล์ บางกอกแอร์เวย์ส นกแอร์ ไทยเวียทเจ็ท แอร์เอเชีย ไลออนแอร์ ได้ยกเลิกเส้นทางบินอย่างต่อเนื่องทุกวัน

เบื้องต้น กรมฯ ได้เสนอมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการสายการบินไปยัง กพท. เพื่อเสนอให้รัฐบาลพิจารณาแล้ว จะลดค่าธรรมเนียมขึ้น – ลงอากาศยานร้อยละ 50 ค่าจอดอากาศยานร้อยละ 90 และลดค่าเช่าให้ผู้ประกอบการร้านค้าในสนามบินร้อยละ 50 ไปถึงวันที่ 31 ธันวาคมนี้ คาดว่า จะทำให้รายได้หายไปประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งกรมจะต้องขอรับการเยียวยาจากรัฐต่อไป

สำหรับผลกระทบที่มีต่อภาพการเดินทางนั้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ ขสมก. ได้ออกเอกสารแจ้งสื่อมวลชนว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ใช้บริการรถโดยสารของ ขสมก.มีจำนวนลดลง ประมาณ 40 % ขสมก.จึงได้มีการประชุมผู้บริหารเขตการเดินรถที่ 1- 8 และบริษัทเหมาซ่อม เพื่อวางแผนในการบริหารจัดการเดินรถให้สอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้บริการ โดยลดจำนวนรถออกวิ่งลงให้มีความสอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้บริการในปัจจุบัน (เฉพาะเส้นทางที่มีผู้ใช้บริการลดลง )

ขณะที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท. ) ก็ได้ออกประกาศงดเดินขบวนรถท่องเที่ยว และขบวนรถเชิงพาณิชย์ รวด 42 ขบวน โดยเป็นขบวนรถท่องเที่ยว จำนวน 12 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2564 และขบวนรถเชิงพาณิชย์ จำนวน 30 ขบวน ตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 โดยผู้โดยสารสามารถคืนเงินตั๋วโดยสารเต็มราคา ซึ่งแน่นอนว่าการงดขบวนรถทั้ง 42 ขบวนก็จะทำให้ รฟท.มีรายได้ลดลงเช่นกัน . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน”​ เข้า ก.มหาดไทย วันแรก​ มอบนโยบาย​ข้าราชการ

ก.มหาดไทย 26 ก.ย.-“อนุทิน”​ เข้ากระทรวงมหาดไทย วันแรก​ มอบนโยบาย​ข้าราชการ บอก​พักร้อนไป 2 เดือน มีความพยายามใช้อำนาจการเมืองโยกย้ายข้าราชการ ย้ำ​ถ้าวันนั้นไม่จากไป​ คงไม่มีวันนี้ที่กลับมา​ ขอ​ยึดหลักซื่อสัตย์-สุจริต ไม่เกรงกลัวอำนาจใด พร้อมรักษาความสัมพั​นธ์ ​สนับสนุนงานกัน​ ก่อนทิ้งท้ายเนื้อเพลง​ “บอกที่แล้วก็แล้วไป” เมื่อเวลา 14.50 น. นายอนุทิน​ ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย​ นายทรงศักดิ์ ทองศรี นายศักดิ์ดา​ วิเชียรศิลป์​ และนางสาวศศิธร​ กิตติธรกุล​ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ากระทรวงมหาดไทยวันแรก หลังเปลี่ยนรัฐบาลนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ​ เพื่อมอบนโยบาย​ โดยมีนายอรรถษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการระดับสูงให้การต้อนรับ ​นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบายว่า​ ในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งให้ ตนดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้เรารู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้​ และตั้งใจไว้ว่าจะทำงานสนองพระเดช​ พระคุณอย่างสุดความสามารถร่วมกับพวกท่าน เหนือสิ่งอื่นใดตนมีความยินดี​ ดีใจที่ได้กลับมาพบกับทุกท่านอีกครั้งในกระทรวงมหาดไทยแห่งนี้ “ในขณะที่ตนพักร้อนไป 2 เดือนกว่า ได้ทราบว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการ […]

เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล-สน.สามเสน

กรุงเทพฯ 26 ก.ย. – เร่งเทปูนลงหลุมยักษ์ หน้า รพ.วชิรพยาบาล และ สน.สามเสน คาดวันนี้ต้องเทอีกประมาณ 200 คันรถโม่ปูน จึงจะได้ความสูงของปูนในหลุมตามแผนที่วางไว้ .-สำนักข่าวไทย

จับตาหนองหญ้าแก้ว หวั่นเขมรปลุกปั่นม็อบซ้ำรอย

สระแก้ว 26 ก.ย.- จับตาความเคลื่อนไหวชายแดนไทย-กัมพูชา “บ้านหนองหญ้าแก้ว” หวั่นม็อบเขมรปลุกปั่นสร้างความวุ่นวายซ้ำรอย ชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เช้าวันนี้ กัมพูชาพาคณะทำงานประสานงานชายแดน หรือ IOT ลงพื้นที่ใกล้จุดผ่านแดน โดยมีเจ้าหน้าที่และผู้ติดตาม 50–60 คน เข้ามาสำรวจและสังเกตการณ์ในรัศมีไม่ไกลจากแนวเขตสแลนตรงจุดพื้นที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ฝ่ายความมั่นคงประเมินว่าหลังจากคณะผู้แทนกลับไปแล้ว อาจมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มมวลชนเกิดขึ้นอีก เนื่องจากมีความพยายามปลุกปั่นให้เกิดการรวมตัวในหลายครั้งที่ผ่านมา ส่วนสถานการณ์ขณะนี้ค่อนข้างสงบ แต่บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด เพราะต่างมีการขยับกำลังในพื้นที่ชายแดนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงที่คณะ IOT ลงพื้นที่ ซึ่งถือเป็นอีกจุดที่ต้องจับตาว่าจะมีความเคลื่อนไหวตามมาหรือไม่ในช่วงค่ำและวันถัดไป -สำนักข่าวไทย

“ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง”

ทำเนียบ 26 ก.ย.- “รมต.ศุภมาศ” ดีใจได้ดูแลกำกับสื่อฯ บอก “กลองดีไม่ตีก็ไม่ดัง” เผยหลังแถลงนโยบาย เตรียมคุยผู้บริหาร “อสมท-กรมประชาสัมพันธ์-องค์กรสื่อ” ผลักดันงานรัฐบาลให้เข้าถึงประชาชนตั้งแต่ครัวเรือนถึงรากหญ้า ในช่วงเวลา 4 เดือน ยังไม่ชัดมีรายการนายกฯ พบประชาชนหรือไม่ นางศุภมาศ อิสรภักดี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถือฤกษ์ 09:09 น. เข้าห้องทำงานบนตึกบัญชาการ 1 ก่อนจะถือฤกษ์ 09:45 น. ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนางศุภมาศ ได้ให้สัมภาษณ์หลังจากเข้ารับตำแหน่งแล้วจะมีนโยบายผลักดันในเรื่องใดบ้างในฐานะที่เข้ามากำกับดูแลด้านสื่อสารมวลชน ว่า เพิ่งจะได้รับทราบการแบ่งงาน ดีใจที่มีโอกาสได้เข้ามาดูแลงานประชาสัมพันธ์ให้กับรัฐบาล “ถือว่ากลองดี แต่ไม่ตีก็ไม่ดัง” เพราะรัฐบาลก็ทำดีอยู่แล้ว เพียงแต่ขาดการประชาสัมพันธ์ที่ทั่วถึงที่ข่าวสารที่จะไปถึงพี่น้องประชาชน โดยเราต้องทำให้นโยบายต่างๆ ทั้ง 4 ด้านที่ได้ประกาศออกไปถึงประชาชน และให้ได้รับประโยชน์จากนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลตั้งใจทำให้ นางศุภมาศ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ยังต้องรอการแต่งตั้งโฆษกรัฐบาล หากมีบุคคลเข้ามารับตำแหน่งแล้วก็จะมีการพูดคุยกับโฆษกรัฐบาลอีกครั้ง และมีโอกาสจะได้พบปะกับพี่น้องสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล และสื่อมวลชนทั้งหมด เพื่อที่เราจะช่วยกันวางแผน รวมถึงยังต้องขอความรู้ ความร่วมมือ และความช่วยเหลือจากสื่อมวลชนที่จะทำอย่างไรให้นโยบายต่างๆ ที่เตรียมไว้ประชาสัมพันธ์ให้ถึงกลุ่มรากหญ้า และทุกครัวเรือน […]