เกษตรฯ ติดตามสถานการณ์น้ำจากพายุโคนีตลอด 24 ชั่วโมง

กรุงเทพฯ 4 พ.ย. – รมว. เฉลิมชัยสั่งเข้มให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์ฝนและน้ำจากอิทธิพลของพายุโคนีอย่างใกล้ชิด พร้อมเข้าช่วยเหลือและบรรเทาภัยตลอด 24 ชั่วโมง ปลัดเกษตรฯ มอบสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรระดับพื้นที่ เพื่อให้การตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ ทำได้รวดเร็วที่สุด


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์น้ำจากอิทธิพลของพายุโคนีต่อเนื่อง จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า พายุจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 5 พ.ย. จากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แต่ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางกับมีลมแรงระหว่างวันที่ 5 – 7 พ.ย.

ทั้งนี้ ห่วงใยประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาและปราจีนบุรีซึ่งมีฝนตกจากอิทธิพลของพายุและหย่อมความกดอากาศต่ำก่อนหน้ามาหลายระลอก จึงต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมซ้ำในพื้นที่ที่ยังมีน้ำขังอยู่ รวมทั้งห่วงผลผลิตของเกษตรกรทั้งข้าวที่กำลังออกรวง ปศุสัตว์ และแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าไปดูแลและให้คำแนะนำเพื่อบรรเทาความเสียหาย


นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ย้ำให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำในเขื่อนต่างๆ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สำหรับอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ต้องคำนวณอย่างแม่นยำว่า สามารถรับน้ำเพิ่มได้อีกเท่าไรเพื่อเก็บกักไว้ใช้ในฤดูแล้ง แต่หากฝนที่ตกลงมาเพิ่มจะทำให้น้ำเกินเกณฑ์ จำเป็นต้องระบายน้ำออก ต้องให้กระทบพื้นที่ท้ายน้ำน้อยที่สุด

นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดเกษตรฯ กล่าวว่า ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร รายงานว่า วันนี้ (4 พ.ย.) ยังมีอุทกภัยใน 5 จังหวัดได้แก่ นครราชสีมา อุบลราชธานี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และสุราษฎร์ธานี

สำหรับที่จ.นครราชสีมา ย้ำให้กรมชลประทานติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคองที่มีน้ำคิดเป็นร้อยละ 117 ของความจุ เขื่อนลำพระเพลิงน้ำคิดเป็นร้อยละ 108 ของความจุ และเขื่อนลำแซะคิดเป็นร้อยละ 110ของความจุ ซึ่งหากฝนตกลงมาอีกระลอกต้องประเมินเรื่องการระบายน้ำออกจากอ่าง โดยให้อยู่ในเกณฑ์ที่ลำน้ำด้านท้ายสามารถรองรับได้ รวมทั้งสั่งให้ระบายน้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงที่จ.อุบลราชธานีให้มากที่สุด เมื่อน้ำที่ไหลจากจ.นครราชสีมาไหลลงไปถึงจ.อุบลราชธานี ระยะเวลาเดินทาง 20 วันจะได้ไม่ทำให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งท่วมอ.วารินชำราบ ขณะนี้จ.นครราชสีมายังคงมีน้ำท่วมขังใน 6 อำเภ ได้แก่ ปักธงชัย วังน้ำเขียว โชคชัย เฉลิมพระเกียรติ เมือง และพิมาย สำนักเครื่องจักรกลและสำนักงานชลประทานที่ 8 ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 53 เครื่องและเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง (สำรอง 13 เครื่อง) พร้อมสนับสนุนรถแบคโฮ 9 คัน โดยนำรถแบคโฮ 5 คัน ขุดลอกคลองสาบใหญ่ฝั่งขวา-ปตร.โพธิ์เตี้ย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลงสู่ลำน้ำบริบูรณ์ พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่ ปตร.ข่อยงาม และ ปตร. จอหอ 9 เครื่อง รวมทั้งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 6 ตัว เพื่อเร่งระบายน้ำท้ายเขื่อนพิมาย พร้อมกำจัดวัชพืช สิ่งกีดขวางทางน้ำในลำน้ำมูลและลำน้ำจักราช



ที่ จ.อุบลราชธานีในลำน้ำมูลเเอ่อเข้าท่วมพื้นที่เขตเทศบาลเมือง ระดับน้ำสูง 30 – 50 ซม. สำนักงานชลประทานที่ 7 นำกระสอบทราย 500 ใบวางแนวกั้นน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณโรงเรียนเบญจะมะมหาราช 1 (ชุมชนวังแดง) นอกจากนี้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำถึง 50 เครื่องบริเวณสะพานพิบูลมังสาหารเร่งระบายน้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขง

จ.สุราษฎร์ธานีน้ำจากแม่น้ำตาปีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำตาปีรวม 4 อำเภอ ได้แก่ เคียนซา พุนพิน บ้านนาสาร และบ้านนาเดิม หากฝนไม่ตกเพิ่มเติม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1 วัน แต่โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานียังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จัดเตรียมศูนย์อพยพไว้หากเกิดกรณีฉุกเฉินแล้ว ส่วนจังหวัดอื่นๆ คาดว่า สถานการณ์น้ำท่วมขังจะกลับสู่ภาวะปกติใน 2 – 3 วัน

นายทองเปลว กล่าวว่า สั่งการให้ตั้งศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรระดับพื้นที่ที่สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ หากพื้นที่ใดประสบภัย จะต้องเข้าช่วยเหลือภายใน 24 ชั่วโมง อีกท้งสามารถรายงานมายังกระทรวงฯ ได้ตลอดเวลาเพื่อที่ผู้บริหารจะได้ตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ ทันท่วงที สำหรับผลความเสียหายด้านการเกษตรที่สำรวจแล้วพบว่า ได้รับผลกระทบ 21 จังหวัดได้แก่ อุทัยธานี เพชรบูรณ์ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สระแก้ว ปราจีนบุรี ชลบุรี จันทบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุพรรณบุรี ชัยนาท ฉะเชิงเทรา นครปฐม สตูล สุราษฎร์ธานี กระบี่ และตรัง เกษตรกร 108,366 ราย พื้นที่ 794,034 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 370,979 ไร่ พืชไร่ 360,438 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 62,617 ไร่


สำรวจความเสียหายแล้ว เกษตรกร 1,133 ราย พื้นที่เสียหาย 11,288 ไร่ คิดเป็นวงเงิน 13.60 ล้านบาท ด้านประมง เกษตรกร 2,587 ราย พื้นที่ (บ่อปลา) 2,385 ไร่ บ่อกุ้ง 43 ไร่ กระชัง 4,535 ตรม. สำรวจความเสียหายแล้ว เกษตรกร 1 ราย พื้นที่ 1 ไร่ คิดเป็นเงิน 0.02 ล้านบาท ช่วยเหลือแล้ว เกษตรกร 1 ราย พื้นที่ 1 ไร่ วงเงิน 21,125 บาท และด้านปศุสัตว์ เกษตรกร 7,154 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 266,588 ตัว แบ่งเป็น โค – กระบือ 34,578 ตัว สุกร 6,332 ตัว แพะ – แกะ 1,686 ตัว สัตว์ปีก 223,990 ตัว แปลงหญ้า 958 ไร่ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย ขณะนี้ทางกระทรวงฯ เตรียมแผนการช่วยเหลือและฟื้นฟูอาชีพ 7 โครงการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีซึ่งคาดว่า จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]

ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2

กทม. 18 มิ.ย.- ทบ.ติดแฮชแท็กเซฟ มทภ.2 ส่วนหน้าสโมสรกองทัพบก ถ.วิภาวดีรังสิต ขึ้นข้อความให้กำลังใจผ่านจอแอลอีดี ขณะที่เพจโซเชียลกองทัพ แห่โพสต์ข้อความ #ศักดิ์ศรีของทหาร 18 มิ.ย.68 ภายหลังจากที่มีคลิปเสียงการพูดคุยระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา หลุดออกมา และมีการพูดถึง พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่ฝั่งตรงข้าม ล่าสุดเพจเฟซบุ๊กของหน่วยทหารต่างๆ อาทิ กรมกิจการพลเรือนทหารบก ได้โพสต์ข้อความว่า พระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เรื่อง #ศักดิ์ศรีของทหาร 1. ทหาร คือ ผู้ที่ได้รับเกียรติอย่างสูงจากประชาชนทั้งชาติ ให้เป็นสุภาพบุรุษ ถืออาวุธเพื่อป้องกันประเทศ 2. ทหาร เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชนและความอยู่รอดของชาติ 3. ทหาร คือ ผู้ที่รักและบูชาเกียรติยศมากกว่าเงิน นอกจากนี้ เพจ Smart Soldiers Strong […]

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

ข่าวแนะนำ

รัฐบาลออกแถลงการณ์โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน“ ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ

ทำเนียบ 19 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชา โต้คลิปเสียง “ฮุนเซน” ยันมีเจตนาบริสุทธิ์ จริงใจ แต่ได้รับผลตรงข้าม ชี้ 26 ปี JBC ไร้ผล เป็นเหตุตัดสินใจใช้การทูตโทรหาผู้นำกัมพูชา ย้ำแก้ปัญหายึดสันติวิธี รักษาอธิปไตยไทย นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์เมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (19 มิ.ย.) “กรณีสถานการณ์ความสัมพันธ์ ไทย-กัมพูชา” โดยมีเนื้อหาว่า “พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ขออภัยต่อพี่น้องประชาชนด้วยความจริงใจ จากกรณีคลิปเสียงสนทนาทางโทรศัพท์กับผู้นำกัมพูชาที่เกิดขึ้น ทุกการดำเนินการเป็นไปภายใต้เจตจำนงที่จะปกป้องอธิปไตยของชาติ รักษาผลประโยชน์และความปลอดภัยของประชาชนไทย ทั้งที่อยู่ในประเทศไทยและพักอาศัยอยู่ในกัมพูชา ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ดังกล่าว ไม่นึกว่าจะเกิดเหตุไม่พึงประสงค์ น่าเสียใจอย่างยิ่งที่ความจริงใจของเรา กลับมีผลตอบรับตรงกันข้าม รัฐบาลไทยยึดหลักสันติวิธี ใช้กลไกทวิภาคีเรื่องเขตแดนที่มีอยู่ โดยเฉพาะการทำงานของ JBC ที่รัฐบาลไทยและกัมพูชาร่วมมือกันมาตลอด 26 ปี เพื่อคลี่คลายปัญหา แต่ในระหว่างนั้นได้ปรากฏเหตุการณ์สื่อสารโต้ตอบที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดยิ่งขึ้น หากรัฐบาลนิ่งเฉย และไม่แก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า ย่อมเกิดความเสี่ยงที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรงและความสูญเสียต่อชีวิตและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนชาวไทยได้ นายกรัฐมนตรีจึงตัดสินใจใช้วิธีทางการทูต ผ่านการโทรศัพท์พูดคุยโดยตรงกับผู้นำกัมพูชา […]

กต. ทำหนังสือประท้วงกัมพูชากรณีปล่อยคลิปเสียงหลุด

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – กระทรวงการต่างประเทศ ส่งหนังสือประท้วงกรณีคลิปเสียงบทสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ฮุน เซน ย้ำผิดมารยาทและผิดหลักปฏิบัติสากล และทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงพัฒนาการความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชา หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยบทสนทนาส่วนตัวระหว่าง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฯ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภา ของกัมพูชา ต่อสาธารณชนวานนี้ (18 มิ.ย.68) ว่า การกระทำดังกล่าวขัดต่อจรรยาบรรณ และมารยาทพื้นฐานของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐที่ไม่อาจยอมรับได้ ถือเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และความพยายามที่จะใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหาของทั้งสองฝ่ายตามแนวปฏิบัติสากล และการเป็นเพื่อนบ้านที่ดี พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ว่าผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นใคร ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคือหัวหน้ารัฐบาลของประเทศ ที่ควรได้รับการเคารพ และให้เกียรติ ตามแนวปฏิบัติสากลในการเจริญสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศจึงได้ออกหนังสือประท้วงกรณีดังกล่าว ผ่านช่องทางทางการทูต โดยได้เชิญให้เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย มารับหนังสือดังกล่าว เพื่อแจ้งว่าการกระทำข้างต้นของทางกัมพูชาเป็นการกระทำที่ไม่สามารถยอมรับได้ ถือว่าผิดมารยาทพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ เป็นการทำลายความไว้ใจระหว่างประเทศเพื่อนบ้านอย่างร้ายแรง ซึ่งการออกหนังสือดังกล่าวเป็นไปตามแนวปฏิบัติทางการทูต มีความรอบคอบ โปร่งใส มีวุฒิภาวะ ใช้สันติวิธี และดำเนินการอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและการดูแลคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาแล้ว พร้อมยืนยันว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการดำเนินการทางการทูต […]

นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยปมคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน”

กรุงเทพฯ 19 มิ.ย. – นายกฯ แถลงขอโทษคนไทยทุกคน กรณีคลิปเสียงหลุดคุย “ฮุน เซน” เป็นเรื่องไม่น่าเกิดขึ้น ได้คุย มทภ.2 และทำความเข้าใจกับกองทัพ โดยได้อธิบายถึงเจตนาที่แท้จริง ยอมรับไม่ทราบจริงๆ ว่ามีการอัดคลิปเผยแพร่ ย้ำวันนี้ไทยต้องร่วมมือผนึกกำลัง ปกป้องอธิปไตย ทุกภาคส่วนสรุปว่า “เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าพบ เพื่อรายงานผลการประชุมของศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) รวมถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ภายหลังเกิดกรณีคลิปเสียงการโทรศัพท์เจรจาระหว่าง น.ส.แพทองธาร กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ว่าได้เชิญหน่วยงานด้านความมั่นคงมาพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ก่อนอื่นต้องขออภัยพี่น้องประชาชนและคนไทยทุกคนในเรื่องกรณีที่มีคลิปเสียงหลุดออกมาระหว่างที่ตนคุยกับผู้นำกัมพูชา ความจริงเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ต้องขออภัยพี่น้องประชาชนที่ทำให้เกิดความไม่สบายใจ ได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่และกองทัพ อธิบายถึงเหตุผลว่าเป็นเพียงแท็กติกของการสื่อสารที่จะเจรจาต่อไปว่าเราจะต้องแสดงความเข้าใจก่อน เพื่อจะคุยถึงต่อไป เป็นการต่อรองเพื่อให้การปะทะนั้นหยุดลง ด้วยความตั้งใจที่แท้จริงว่าต้องการจะให้สถานการณ์สงบสุขเท่านั้นเอง และไม่ทราบจริงๆ ว่าจะมีการอัดคลิปและเผยแพร่เช่นนี้ ก็ได้ทำความเข้าใจกับทางกองทัพเรียบร้อยแล้ว และรับฟังว่าวันนี้เราต้องร่วมมือกันผนึกกำลังเอาไว้ คนไทยทุกคนต้องผนึกกำลังเอาไว้ วันนี้ทุกภาคส่วนได้สรุปว่ากรณีดังกล่าวเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของชาติ ไม่ใช่ภัยคุกคามเล็กๆ ของประชาชนหรือของอะไร ที่จะพูดถึงว่ารัฐบาลหรือกองทัพต้องมาสู้กัน วันนี้เราไม่มีเวลาที่จะมาทะเลาะกันเองแบบนี้ เราต้องปกปกอธิปไตย ยินดีสนับสนุนกองทัพทุกรูปแบบ และวันนี้การที่เราจะทำอะไรหรือตัดสินใจในเรื่องต่างๆ เราต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยที่อยู่ในกัมพูชาด้วย รวมทั้งประชาชนตรงชายแดน […]

ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่น ปชต. ย้ำเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี”

กองทัพบก 19 มิ.ย. – ผบ.ทบ. แสดงจุดยืนยึดมั่นระบอบประชาธิปไตย พร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ย้ำสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ “คนไทยต้องสามัคคี” พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์ในปัจจุบันที่ปรากฏข้อมูลหรือการแสดงความคิดเห็นต่างๆ ที่หลากหลายและส่งผลกระทบต่อสังคมเป็นบริเวณกว้าง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในประเทศที่เกิดขึ้นโดยขอให้คนไทยได้เชื่อมั่นในกองทัพบก ที่มีจุดยืนในการยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และพร้อมทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติอย่างสุดความสามารถ ภายใต้กลไกที่มีอยู่ ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารบกได้เน้นย้ำว่า หากพิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในห้วงเวลานี้คือ “คนไทยต้องสามัคคี” ร่วมกันปกป้องอธิปไตยจากผู้ไม่หวังดี โดยยึดถือผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ-313 .-สำนักข่าวไทย