เกษตรฯ ติดตามสถานการณ์น้ำจากพายุโคนีตลอด 24 ชั่วโมง

กรุงเทพฯ 4 พ.ย. – รมว. เฉลิมชัยสั่งเข้มให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์ฝนและน้ำจากอิทธิพลของพายุโคนีอย่างใกล้ชิด พร้อมเข้าช่วยเหลือและบรรเทาภัยตลอด 24 ชั่วโมง ปลัดเกษตรฯ มอบสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรระดับพื้นที่ เพื่อให้การตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ ทำได้รวดเร็วที่สุด


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า สั่งการให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์น้ำจากอิทธิพลของพายุโคนีต่อเนื่อง จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า พายุจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนกลางในวันที่ 5 พ.ย. จากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แต่ส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนเล็กน้อยถึงปานกลางกับมีลมแรงระหว่างวันที่ 5 – 7 พ.ย.

ทั้งนี้ ห่วงใยประชาชนในจังหวัดนครราชสีมาและปราจีนบุรีซึ่งมีฝนตกจากอิทธิพลของพายุและหย่อมความกดอากาศต่ำก่อนหน้ามาหลายระลอก จึงต้องเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมซ้ำในพื้นที่ที่ยังมีน้ำขังอยู่ รวมทั้งห่วงผลผลิตของเกษตรกรทั้งข้าวที่กำลังออกรวง ปศุสัตว์ และแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเข้าไปดูแลและให้คำแนะนำเพื่อบรรเทาความเสียหาย


นายเฉลิมชัย กล่าวต่อว่า ย้ำให้กรมชลประทานบริหารจัดการน้ำในเขื่อนต่างๆ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม สำหรับอ่างเก็บน้ำที่มีน้ำมากกว่าร้อยละ 80 ต้องคำนวณอย่างแม่นยำว่า สามารถรับน้ำเพิ่มได้อีกเท่าไรเพื่อเก็บกักไว้ใช้ในฤดูแล้ง แต่หากฝนที่ตกลงมาเพิ่มจะทำให้น้ำเกินเกณฑ์ จำเป็นต้องระบายน้ำออก ต้องให้กระทบพื้นที่ท้ายน้ำน้อยที่สุด

นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดเกษตรฯ กล่าวว่า ศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร รายงานว่า วันนี้ (4 พ.ย.) ยังมีอุทกภัยใน 5 จังหวัดได้แก่ นครราชสีมา อุบลราชธานี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี และสุราษฎร์ธานี

สำหรับที่จ.นครราชสีมา ย้ำให้กรมชลประทานติดตามสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนลำตะคองที่มีน้ำคิดเป็นร้อยละ 117 ของความจุ เขื่อนลำพระเพลิงน้ำคิดเป็นร้อยละ 108 ของความจุ และเขื่อนลำแซะคิดเป็นร้อยละ 110ของความจุ ซึ่งหากฝนตกลงมาอีกระลอกต้องประเมินเรื่องการระบายน้ำออกจากอ่าง โดยให้อยู่ในเกณฑ์ที่ลำน้ำด้านท้ายสามารถรองรับได้ รวมทั้งสั่งให้ระบายน้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขงที่จ.อุบลราชธานีให้มากที่สุด เมื่อน้ำที่ไหลจากจ.นครราชสีมาไหลลงไปถึงจ.อุบลราชธานี ระยะเวลาเดินทาง 20 วันจะได้ไม่ทำให้เกิดภาวะน้ำล้นตลิ่งท่วมอ.วารินชำราบ ขณะนี้จ.นครราชสีมายังคงมีน้ำท่วมขังใน 6 อำเภ ได้แก่ ปักธงชัย วังน้ำเขียว โชคชัย เฉลิมพระเกียรติ เมือง และพิมาย สำนักเครื่องจักรกลและสำนักงานชลประทานที่ 8 ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 53 เครื่องและเครื่องสูบน้ำ 1 เครื่อง (สำรอง 13 เครื่อง) พร้อมสนับสนุนรถแบคโฮ 9 คัน โดยนำรถแบคโฮ 5 คัน ขุดลอกคลองสาบใหญ่ฝั่งขวา-ปตร.โพธิ์เตี้ย เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ลงสู่ลำน้ำบริบูรณ์ พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำที่ ปตร.ข่อยงาม และ ปตร. จอหอ 9 เครื่อง รวมทั้งติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 6 ตัว เพื่อเร่งระบายน้ำท้ายเขื่อนพิมาย พร้อมกำจัดวัชพืช สิ่งกีดขวางทางน้ำในลำน้ำมูลและลำน้ำจักราช



ที่ จ.อุบลราชธานีในลำน้ำมูลเเอ่อเข้าท่วมพื้นที่เขตเทศบาลเมือง ระดับน้ำสูง 30 – 50 ซม. สำนักงานชลประทานที่ 7 นำกระสอบทราย 500 ใบวางแนวกั้นน้ำและติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณโรงเรียนเบญจะมะมหาราช 1 (ชุมชนวังแดง) นอกจากนี้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำถึง 50 เครื่องบริเวณสะพานพิบูลมังสาหารเร่งระบายน้ำมูลลงสู่แม่น้ำโขง

จ.สุราษฎร์ธานีน้ำจากแม่น้ำตาปีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำตาปีรวม 4 อำเภอ ได้แก่ เคียนซา พุนพิน บ้านนาสาร และบ้านนาเดิม หากฝนไม่ตกเพิ่มเติม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1 วัน แต่โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานียังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จัดเตรียมศูนย์อพยพไว้หากเกิดกรณีฉุกเฉินแล้ว ส่วนจังหวัดอื่นๆ คาดว่า สถานการณ์น้ำท่วมขังจะกลับสู่ภาวะปกติใน 2 – 3 วัน

นายทองเปลว กล่าวว่า สั่งการให้ตั้งศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตรระดับพื้นที่ที่สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดทั่วประเทศ หากพื้นที่ใดประสบภัย จะต้องเข้าช่วยเหลือภายใน 24 ชั่วโมง อีกท้งสามารถรายงานมายังกระทรวงฯ ได้ตลอดเวลาเพื่อที่ผู้บริหารจะได้ตัดสินใจแก้ปัญหาต่างๆ ทันท่วงที สำหรับผลความเสียหายด้านการเกษตรที่สำรวจแล้วพบว่า ได้รับผลกระทบ 21 จังหวัดได้แก่ อุทัยธานี เพชรบูรณ์ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ สุรินทร์ สระแก้ว ปราจีนบุรี ชลบุรี จันทบุรี ราชบุรี กาญจนบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สุพรรณบุรี ชัยนาท ฉะเชิงเทรา นครปฐม สตูล สุราษฎร์ธานี กระบี่ และตรัง เกษตรกร 108,366 ราย พื้นที่ 794,034 ไร่ แบ่งเป็น ข้าว 370,979 ไร่ พืชไร่ 360,438 ไร่ พืชสวนและอื่นๆ 62,617 ไร่


สำรวจความเสียหายแล้ว เกษตรกร 1,133 ราย พื้นที่เสียหาย 11,288 ไร่ คิดเป็นวงเงิน 13.60 ล้านบาท ด้านประมง เกษตรกร 2,587 ราย พื้นที่ (บ่อปลา) 2,385 ไร่ บ่อกุ้ง 43 ไร่ กระชัง 4,535 ตรม. สำรวจความเสียหายแล้ว เกษตรกร 1 ราย พื้นที่ 1 ไร่ คิดเป็นเงิน 0.02 ล้านบาท ช่วยเหลือแล้ว เกษตรกร 1 ราย พื้นที่ 1 ไร่ วงเงิน 21,125 บาท และด้านปศุสัตว์ เกษตรกร 7,154 ราย สัตว์ได้รับผลกระทบ 266,588 ตัว แบ่งเป็น โค – กระบือ 34,578 ตัว สุกร 6,332 ตัว แพะ – แกะ 1,686 ตัว สัตว์ปีก 223,990 ตัว แปลงหญ้า 958 ไร่ อยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย ขณะนี้ทางกระทรวงฯ เตรียมแผนการช่วยเหลือและฟื้นฟูอาชีพ 7 โครงการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีซึ่งคาดว่า จะเสนอเข้าสู่ที่ประชุม ครม. พิจารณาได้ในสัปดาห์หน้า . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย