สวนดุสิต 5 ต.ค.- “จาตุรนต์” ดักคอนายกรัฐมนตรี อย่าปากว่าตาขยิบ ส่งซิก ส.ว. ไม่แก้ รธน. พาประเทศสู่วิกฤติ ชี้ ทางออกรับหลักการวาระแรก 2-3 ญัตติ ผ่อนสถานการณ์ เชื่อ การเมืองวันนี้ไม่ย้อนรอยเหตุการณ์ตุลาคมในอดีต เพราะต่างเงื่อนไขกัน
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตแกนนำพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวถึง สถานการณ์ทางการเมืองในช่วงเดือนตุลาคม นี้ ว่า ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ บทบาทสำคัญในการแก้ไขรัฐธรรมนูญอยู่ที่ ส.ว. เพราะวิกฤตคือรัฐธรรมนูญที่สร้างรัฐบาลที่มีปัญหา แล้วรัฐธรรมนูญยังป้องกันตัวเองไม่ให้ใครมาแก้ หรือแก้ได้ยาก ตรงนี้ก็เลยเป็นวิกฤตสำคัญ และยังมายื้อต่อด้วยการตั้งคณะกรรมาธิการฯ ของรัฐสภา เพื่อพิจารณา 6 ญัตติ และบังเอิญมาเข้าสู่ช่วงจังหวะในเดือนตุลาคม
“ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ว่าฝ่ายต่างๆ จะมีความคิดเห็นอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา และฝ่ายรัฐบาลจะใช้สันติวิธีได้มากน้อยแค่ไหน ดังนั้น จึงขอเรียกร้องไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล ว่าจะสวนกระแสเหล่านี้หรือไม่ เพราะการเมืองมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ถ้าพรรคร่วมรัฐบาลคิดอะไรได้ก็จะได้ช่วยกันลดความตึงเครียด” นายจาตุรนต์ กล่าว
เมื่อถามว่า ปัญหาเรื่องรัฐธรรมนูญจะซ้ำรอยเหตุการณ์เดือนตุลาคมในอดีดหรือไม่ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า เหตุการณ์ต่างกันมาก จึงต้องดูว่าเหตุการณ์ต่อจากนี้ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์จะซ้ำรอยหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจเพียงฝ่ายเดียว ไม่ใช่ขึ้นอยู่กับนักศึกษา
ต่อข้อถามว่า ประเมินการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างไร เมื่อเปิดสมัยประชุม วันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ก็ขึ้นอยู่กับหลายฝ่าย ที่จะต้องหารือร่วมกัน แต่ที่สำคัญคือต้องขึ้นอยู่กับผู้มีอำนาจ คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ถ้าปล่อยปละหรือปากว่าตาขยิบ แล้วส่งเสริมให้ ส.ว.คัดค้านการแก้รัฐธรรมนูญ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะไม่เกิดขึ้น และจะกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง
“ทางที่ดี ผมเห็นว่า เมื่อเปิดสภาแล้ว ควรรีบประชุมร่วมรัฐสภา และควรรีบรับหลักการในวาระแรก อย่างน้อย 2-3 ญัตติ ในการแก้ไข มาตรา 256 และควรจะแก้มาตรา 272 เป็นบางส่วน เชื่อว่าก็จะทำให้ปลดล็อคในส่วนที่เป็นปัญหามากๆ ทางการเมืองไปได้ แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย มันก็จะเกิดการเมืองในโซเชียลมีเดีย การเมืองในท้องถนน และการเมืองระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาที่ประชาชนต้องดูว่า จะทำอย่างไรกับรัฐบาลที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้” นายจาตุรนต์ กล่าว .- สำนักข่าวไทย