ประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิดปี 2

กรุงเทพฯ 25 ก.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์ ย้ำเกษตรกรทั่วประเทศได้รับเงินส่วนต่างโครงการประกันรายได้สินค้า 5 ชนิด ปี 2 แน่นอน ใช้งบมากกว่า 75,000 ล้านบาทที่จะชดเชยทั้งทางตรงและทางอ้อม


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานงานสัมมนาเดินหน้าประกันรายได้ปี2 เงินถึงมือรากหญ้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจช่วยประเทศ โดยได้เชิญตัวแทนเกษตรกรทั่วประเทศกว่า 3,000 คนมารับฟังที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ว่า โดยถือเป็นข่าวดีต่อเกษตรกรทั่วประเทศ หลังจากโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 สินค้าในโครงการแรกสามารถช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี และสร้างความพอใจต่อเกษตรกรให้สามารถขายสินค้าเกษตรได้ แม้ว่าบางช่วงสินค้าเกษตรบางชนิดจะมีราคาต่ำแต่ก็ได้รับชดเชยจากภาครัฐบาลจนมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 สินค้าต่อไปอีกในรอบปีการผลิต 63/64 ไปอีก

ทั้งนี้ รัฐบาลตระหนักที่จะเร่งหาแนวทางการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ จึงได้จัดทำโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 สินค้าและมาตรการคู่ขนานในสินค้า 5 ในส่วนประกันรายได้ปีที่ 2 ในปีโครงการประกันรายได้เกษตรกรปีที่ 2 ปีการผลิต 2563/64 ขึ้นมาอีก โดยจะเป็นโครงการที่ครอบคลุมจำนวนเกษตรกรมากถึง 7.67 ล้านครัวเรือน หรือมีวงเงินรวม 75,017.66 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินชดเชยส่วนต่าง สินค้าทั้ง 5 ชนิดกว่า 71,844.05 ล้านบาท ที่เหลือเป็นค่าบริหารจัดการที่ครอบคลุมพืชเกษตร 5 ชนิด ได้แก่ ยาง ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งกรอบการดำเนินการได้ผ่านหลักที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมาบ้างแล้ว และบางพืชไร่อยู่ระหว่างนำเสนอข้อความเห็นชอบ ครม. อีกครั้งก่อนจะดำเนินการจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ให้กับเกษตรกรต่อไป


ทั้งนี้ รายละเอียด 1.โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี2563/64 ความคืบหน้า คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบไปแล้วเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 63 วงเงิน 23,495.71 ล้านบาท และอยู่ระหว่างคณะรัฐมนตรีพิจารณา ราคาและปริมาณสำหรับการประกันรายได้ ส่วนชนิดข้าว คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกเหนียว ราคาประกันรายได้ (บาท/ตัน) ณ ราคาความชื้นไม่เกิน 15% ไม่เกินครัวเรือนละ 40 ไร่ เกษตรกรผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ จำนวนประมาณ 4.5 ล้านครัวเรือน โดยต้องขึ้นทะเบียน กับกรมส่งเสริมการเกษตร ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. 63 การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง ตามวันเก็บเกี่ยวที่ระบุในทะเบียนเกษตรกร โดยใช้ราคาอ้างอิงตาม ประกาศคณะอนุกรรมการกาหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงฯ ทุกวันศุกร์ของแต่ละสัปดาห์ และ ธ.ก.ส. โอนเงินเข้าบัญชี เกษตรกร ภายใน 3 วัน นับแต่วันประกาศเกณฑ์กลางอ้างอิง

ส่วนมาตรการคู่ขนาน คือ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ระยะเวลา 1 – 5 เดือน เป้าหมาย 1.5 ล้าน ตันข้าวเปลือก วงเงินสินเชื่อ 15,284 ล้านบาท รัฐชดเชยดอกร้อยละ 2.25 วงเงินจ่ายขาดค่าฝากเก็บฯ 2,250.00 ล้านบาท (ตันละ 1,500 บาท) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน โดยรัฐชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 สถาบันเกษตรกรรับภาระร้อยละ 1 โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก โรงสีรับซื้อข้าวจาก เกษตรกรเพื่อเก็บสต็อก ระยะเวลา 2 – 6 เดือน เป้าหมาย 4 ล้านตัน รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการ ผลิต 2563/2564 ไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ วงเงิน 54,828.08 ล้านบาท

2. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ปี 2563/64


2.1. ความคืบหน้า กนป. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. 63 เห็นชอบโครงการประกันรายได้ฯ ปี 2564 ระยะเวลาดำเนินการ ม.ค. 64 – ก.ย. 64 วงเงิน 8,807.54 ล้านบาท (อยู่ระหว่างคณะรัฐมนตรีพิจารณา) ราคาและปริมาณสำหรับการประกันรายได้ ผลปาล์มทลาย (18%) กก.ละ 4 บาท ครัวเรือนละ ไม่เกิน 25 ไร่ เกษตรกรผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ จำนวนประมาณ 3.7 แสนครัวเรือน ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร และต้องเป็นพื้นที่ปลูกที่ให้ผลผลิตแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง จ่ายเงินทุก 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2564 ถึง 15 ก.ย. 2564 โดย ใช้ราคาอ้างอิงตามประกาศคณะอนุกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2563 – 2564 และมาตรการคู่ขนาน คือ การปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ กฟผ.รับซื้อ CPO ไปผลิตไฟฟ้า 360,000 ตัน ส่งมอบครบแล้ว และสำรอง 100,000 ตัน (ยังไม่ส่งมอบ) ส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล โดยกาหนดให้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และให้ B7 และ B20 เป็นทางเลือก โดยมีผลบังคับใช้ต้ังแต่วันที่ 1 ต.ค. 63 เป็นต้นไป ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณ CPO ที่ถังเก็บน้ำมันปาล์มดิบ งบประมาณ 372.516 ล้านบาท การบริหารการนำเข้าโดย (1) กำหนดด่านศุลกากร(การนำเข้าปกติ) : นำเข้าได้เฉพาะด่าน มาบตาพุด กรุงเทพ และแหลมฉบัง (2) กำหนดด่านนำผ่าน : นำผ่านต้นทางที่ด่านกรุงเทพเพียงด่านเดียว สำหรับ ด่านปลายทางกำหนดไว้ 3 ด่าน ได้แก่ ด่านจันทบุรี (ไปกัมพูชา) ด่านหนองคาย (ไป สปป.ลาว) และด่านแม่สอด (ไปเมียนมา) นโยบายปาล์มยั่งยืน จัดทำร่าง พรบ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พ.ศ. …. โดย กษ.

3.โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2563/64

โดย ครม. มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 63 วงเงิน 9,788,933,798.40 บาท ระยะเวลาโครงการ 1 พ.ย. 63 – 31 พ.ค. 65 โดยราคาและปริมาณสำหรับประกันรายได้ หัวมันสดเชื้อแป้ง 25% กก.ละ 2.50 บาท ไม่เกิน ครัวเรือนละ 100 ตัน เกษตรกรผู้มีสิทธิเข้าร่วมประมาณ 5.2 แสนครัวเรือน ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 ถึง 31 มีนาคม 2564 ต้องเป็นเกษตรกรผู้ผลิตมันสำปะหลัง ด้วยตนเองและกรรมสิทธิ์เป็นของเกษตรกร และแจ้งระยะเวลาเก็บเกี่ยว นับจากวันเพาะปลูกไม่น้อยกว่า 8 เดือน การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง จ่ายเงินชดเชยตั้งแต่ 1 ธ.ค. 63 – 30 พ.ย. 64 โดยใช้ราคาอ้างอิงที่ ประกาศทุกๆ 1 เดือน และ ธ.ก.ส. โอนเงินชดเชยส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายใน 3 วันทำการหลังการประกาศราคาอ้างอิง

มาตรการคู่ขนาน โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง วงเงินกู้รายละไม่เกิน 230,000 บาท กำหนดชำระคืนไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันกู้ ดอกเบี้ยร้อยละ 6.50 ต่อปี เกษตรกรรับภาระร้อยละ 3.50 ต่อปี และ รัฐบาลชดเชยให้ร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน 24 เดือน โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสาปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร วงเงิน สินเชื่อ 1,500 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี สถาบันเกษตรกรรับภาระร้อยละ 1 ต่อปี และรัฐบาลชดเชย ร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกมันสำปะหลัง ในรูปแบบมันเส้น/แป้งมัน เพื่อดูดซับผลผลิตในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ตามระยะเวลาที่เก็บสต็อกไว้ 60 – 180 วัน

4. โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางระยะที่ 2 ความคืบหน้า กนย. มีมติเห็นชอบในหลักการโครงการประกันรายได้ฯ ระยะที่ 2 ระหว่าง ส.ค. 63 – ม.ค. 64 (ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเสนอ ครม.) วงเงิน 31,013.27 ล้านบาท เกษตรกรผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯจำนวนประมาณ 1.83 ล้านครัวเรือน พื้นที่ 18 ล้านไร่ที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย ราคาและปริมาณสำหรับประกันรายได้ ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ เป็นสวนยางอายุ 7 ปี ขึ้นไป และ เปิดกรีดแล้ว โดยมีราคาเป้าหมาย ได้แก่ (1) ยางแผ่นดิบคุณภาพดี กก.ละ 60 บาท (2) น้ำยางสด DRC 100% กก.ละ 57 บาท (3) ยางก้อนถ้วย DRC 50% กก.ละ 23 บาท โดยเจ้าของสวนได้ 60% คนกรีดได้ 40% การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างจ่ายเดือนละคร้ังตั้งแต่ ส.ค. 2563 โดยปัจจุบันได้ใช้งบประมาณของ ธกส. สำรองจ่ายแทนรัฐบาลไปก่อน

มาตรการคู่ขนาน มาตรการกำกับดูแลด้านปริมาณ ผู้ประกอบกิจการยางที่มีปริมาณการรับซื้อตั้งแต่เดือนละ 5,000 กก.ขึ้นไป แจ้งปริมาณการซื้อ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการใช้ไป ปริมาณคงเหลือ และ สถานที่เก็บ สินค้ายางพารา ตลอดจนให้จัดทำบัญชีคุมรายวัน ส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐระหว่างต.ค.62 – ก.ย.65 โครงการสนับสนุนสินเชื่อ 5 โครงการ (ที่อยู่ระหว่างดำเนินโครงการ) โครงการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อใช้ในการรวบรวมยาง (วงเงิน 10,000 ล้านบาท) ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ 1 เม.ย. 63 – 31 มี.ค. 67 โครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรเพื่อแปรรูปยางพารา (วงเงิน 5,000 ล้านบาท) ระยะเวลาดำเนินงาน 1 ก.ย. 57 – 31 ธ.ค. 67 โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) (20,000 ล้านบาท) ระยะเวลาดำเนินงาน ม.ค. 63 – ธ.ค. 64 โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง (วงเงินสินเชื่อ 25,000 ล้าน บาท) ระยะเวลาโครงการ ปี 59 – 69 โดยสนับสนุนวงเงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ อัตราร้อยละ 3 (ไม่เกิน 600 ล้านบาท)

5. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2563/64  ความคืบหน้าครม.มีมติเห็นชอบแล้ว ในวงเงิน1,912,210,245 บาท ระยะเวลา โครงการฯ 1 พฤศจิกายน 2563 – 30 เมษายน 2565 ราคาและปริมาณประกันรายได้ กก.ละ 8.50 บาท ณ ความชื้น 14.5% ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ เกษตรกรผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯจำนวนประมาณ 4.5แสนครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียนกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีระยะเวลาเพาะปลูกระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2563 – 31 พฤษภาคม 2564 การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างจ่ายเงินส่วนต่างครั้งแรกในวันที่20พฤศจิกายน 2563 และทุกวันที่ 20 ของเดือน จนถึง 31 ตุลาคม 2564

มาตรการคู่ขนาน การบริหารจัดการการนำเข้า เอกชนให้นำเข้าช่วง ก.พ.- ส.ค. / อคส. นำเข้าได้ทั้งปี กำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1 : 3 แสดงราคา ณ จุดรับซื้อที่ความชื้น 14.5% และ 30% แจ้งปริมาณการครอบครอง การนำเข้า สถานที่เก็บ การตรวจสอบสตอก สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตร ปี 2563/64 สำหรับสถาบันเกษตรกร รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 วงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท วงเงินชดเชยดอกเบี้ย 45 ล้านบาท โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในการเก็บสตอก ปีการผลิต 2563/64 ระยะเวลา 2 – 4 เดือน รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 วงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท วงเงินชดเชย ดอกเบี้ย 15 ล้านบาท ด้วยงบ คชก.เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

เปิดแนวต้านน้ำหล่มสัก ผลักดันแผนแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

เพชรบูรณ์ 22 ก.ย. – แม้ว่าน้ำที่ท่วมชุมชนและย่านการค้าในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ที่เพชรบูรณ์ จะลดลงแล้ว แต่ทิ้งความเสียหายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะย่านการค้าเก่าแก่ที่เจอน้ำท่วม 2 รอบในช่วง 3 สัปดาห์ เรียกว่ายังไม่ทันได้ฟื้นฟูความเสียหายจากน้ำท่วมรอบแรกเสร็จ ต้องมาเจอน้ำท่วมซ้ำอีก ขณะที่หลายคนกังวลและต้องเตรียมรับมือกับพายุที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงปลายสัปดาห์นี้ พร้อมเรียกร้องให้เร่งป้องกันและหาแนวทาง แก้ปัญหาระยะยาว ไม่ให้หล่มสักกลายเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก .-สำนักข่าวไทย

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบกองปราบ

22 ก.ย.- ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ขณะที่สีกาเยอรมนีเตรียมนั่งเครื่องเข้าพบตำรวจ 2 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พร้อมทีมทนายความ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงประเด็นที่ น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ ทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาจากประเทศเยอรมนี เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัด ก่อนนำมาฟอกกับมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนีนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 2 นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี และทีมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยนำเอกสารเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นเงิน เงินบริจาคภายในวัด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาในการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับทันที และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง […]