ประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 ชนิดปี 2

กรุงเทพฯ 25 ก.ย. – รัฐมนตรีพาณิชย์ ย้ำเกษตรกรทั่วประเทศได้รับเงินส่วนต่างโครงการประกันรายได้สินค้า 5 ชนิด ปี 2 แน่นอน ใช้งบมากกว่า 75,000 ล้านบาทที่จะชดเชยทั้งทางตรงและทางอ้อม


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานงานสัมมนาเดินหน้าประกันรายได้ปี2 เงินถึงมือรากหญ้าไปหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจช่วยประเทศ โดยได้เชิญตัวแทนเกษตรกรทั่วประเทศกว่า 3,000 คนมารับฟังที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ว่า โดยถือเป็นข่าวดีต่อเกษตรกรทั่วประเทศ หลังจากโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 สินค้าในโครงการแรกสามารถช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี และสร้างความพอใจต่อเกษตรกรให้สามารถขายสินค้าเกษตรได้ แม้ว่าบางช่วงสินค้าเกษตรบางชนิดจะมีราคาต่ำแต่ก็ได้รับชดเชยจากภาครัฐบาลจนมีเสียงเรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 สินค้าต่อไปอีกในรอบปีการผลิต 63/64 ไปอีก

ทั้งนี้ รัฐบาลตระหนักที่จะเร่งหาแนวทางการช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรทั่วประเทศ จึงได้จัดทำโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตร 5 สินค้าและมาตรการคู่ขนานในสินค้า 5 ในส่วนประกันรายได้ปีที่ 2 ในปีโครงการประกันรายได้เกษตรกรปีที่ 2 ปีการผลิต 2563/64 ขึ้นมาอีก โดยจะเป็นโครงการที่ครอบคลุมจำนวนเกษตรกรมากถึง 7.67 ล้านครัวเรือน หรือมีวงเงินรวม 75,017.66 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินชดเชยส่วนต่าง สินค้าทั้ง 5 ชนิดกว่า 71,844.05 ล้านบาท ที่เหลือเป็นค่าบริหารจัดการที่ครอบคลุมพืชเกษตร 5 ชนิด ได้แก่ ยาง ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งกรอบการดำเนินการได้ผ่านหลักที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมาบ้างแล้ว และบางพืชไร่อยู่ระหว่างนำเสนอข้อความเห็นชอบ ครม. อีกครั้งก่อนจะดำเนินการจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ให้กับเกษตรกรต่อไป


ทั้งนี้ รายละเอียด 1.โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี2563/64 ความคืบหน้า คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบไปแล้วเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 63 วงเงิน 23,495.71 ล้านบาท และอยู่ระหว่างคณะรัฐมนตรีพิจารณา ราคาและปริมาณสำหรับการประกันรายได้ ส่วนชนิดข้าว คือ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกเหนียว ราคาประกันรายได้ (บาท/ตัน) ณ ราคาความชื้นไม่เกิน 15% ไม่เกินครัวเรือนละ 40 ไร่ เกษตรกรผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ จำนวนประมาณ 4.5 ล้านครัวเรือน โดยต้องขึ้นทะเบียน กับกรมส่งเสริมการเกษตร ระหว่างวันที่ 1 เม.ย. 63 การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง ตามวันเก็บเกี่ยวที่ระบุในทะเบียนเกษตรกร โดยใช้ราคาอ้างอิงตาม ประกาศคณะอนุกรรมการกาหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงฯ ทุกวันศุกร์ของแต่ละสัปดาห์ และ ธ.ก.ส. โอนเงินเข้าบัญชี เกษตรกร ภายใน 3 วัน นับแต่วันประกาศเกณฑ์กลางอ้างอิง

ส่วนมาตรการคู่ขนาน คือ โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี ระยะเวลา 1 – 5 เดือน เป้าหมาย 1.5 ล้าน ตันข้าวเปลือก วงเงินสินเชื่อ 15,284 ล้านบาท รัฐชดเชยดอกร้อยละ 2.25 วงเงินจ่ายขาดค่าฝากเก็บฯ 2,250.00 ล้านบาท (ตันละ 1,500 บาท) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท เป้าหมาย 1.5 ล้านตัน โดยรัฐชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 สถาบันเกษตรกรรับภาระร้อยละ 1 โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต็อก โรงสีรับซื้อข้าวจาก เกษตรกรเพื่อเก็บสต็อก ระยะเวลา 2 – 6 เดือน เป้าหมาย 4 ล้านตัน รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3 โครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการ ผลิต 2563/2564 ไร่ละ 1,500 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 20 ไร่ วงเงิน 54,828.08 ล้านบาท

2. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมัน ปี 2563/64


2.1. ความคืบหน้า กนป. มีมติเมื่อ 19 ส.ค. 63 เห็นชอบโครงการประกันรายได้ฯ ปี 2564 ระยะเวลาดำเนินการ ม.ค. 64 – ก.ย. 64 วงเงิน 8,807.54 ล้านบาท (อยู่ระหว่างคณะรัฐมนตรีพิจารณา) ราคาและปริมาณสำหรับการประกันรายได้ ผลปาล์มทลาย (18%) กก.ละ 4 บาท ครัวเรือนละ ไม่เกิน 25 ไร่ เกษตรกรผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมโครงการฯ จำนวนประมาณ 3.7 แสนครัวเรือน ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร และต้องเป็นพื้นที่ปลูกที่ให้ผลผลิตแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง จ่ายเงินทุก 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2564 ถึง 15 ก.ย. 2564 โดย ใช้ราคาอ้างอิงตามประกาศคณะอนุกรรมการบริหารโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2563 – 2564 และมาตรการคู่ขนาน คือ การปรับสมดุลน้ำมันปาล์มในประเทศ กฟผ.รับซื้อ CPO ไปผลิตไฟฟ้า 360,000 ตัน ส่งมอบครบแล้ว และสำรอง 100,000 ตัน (ยังไม่ส่งมอบ) ส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล โดยกาหนดให้ B10 เป็นน้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา และให้ B7 และ B20 เป็นทางเลือก โดยมีผลบังคับใช้ต้ังแต่วันที่ 1 ต.ค. 63 เป็นต้นไป ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณ CPO ที่ถังเก็บน้ำมันปาล์มดิบ งบประมาณ 372.516 ล้านบาท การบริหารการนำเข้าโดย (1) กำหนดด่านศุลกากร(การนำเข้าปกติ) : นำเข้าได้เฉพาะด่าน มาบตาพุด กรุงเทพ และแหลมฉบัง (2) กำหนดด่านนำผ่าน : นำผ่านต้นทางที่ด่านกรุงเทพเพียงด่านเดียว สำหรับ ด่านปลายทางกำหนดไว้ 3 ด่าน ได้แก่ ด่านจันทบุรี (ไปกัมพูชา) ด่านหนองคาย (ไป สปป.ลาว) และด่านแม่สอด (ไปเมียนมา) นโยบายปาล์มยั่งยืน จัดทำร่าง พรบ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม พ.ศ. …. โดย กษ.

3.โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง ปี 2563/64

โดย ครม. มีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 18 ส.ค. 63 วงเงิน 9,788,933,798.40 บาท ระยะเวลาโครงการ 1 พ.ย. 63 – 31 พ.ค. 65 โดยราคาและปริมาณสำหรับประกันรายได้ หัวมันสดเชื้อแป้ง 25% กก.ละ 2.50 บาท ไม่เกิน ครัวเรือนละ 100 ตัน เกษตรกรผู้มีสิทธิเข้าร่วมประมาณ 5.2 แสนครัวเรือน ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร ตั้งแต่ 1 เมษายน 2563 ถึง 31 มีนาคม 2564 ต้องเป็นเกษตรกรผู้ผลิตมันสำปะหลัง ด้วยตนเองและกรรมสิทธิ์เป็นของเกษตรกร และแจ้งระยะเวลาเก็บเกี่ยว นับจากวันเพาะปลูกไม่น้อยกว่า 8 เดือน การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่าง จ่ายเงินชดเชยตั้งแต่ 1 ธ.ค. 63 – 30 พ.ย. 64 โดยใช้ราคาอ้างอิงที่ ประกาศทุกๆ 1 เดือน และ ธ.ก.ส. โอนเงินชดเชยส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายใน 3 วันทำการหลังการประกาศราคาอ้างอิง

มาตรการคู่ขนาน โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะปลูกมันสำปะหลัง วงเงินกู้รายละไม่เกิน 230,000 บาท กำหนดชำระคืนไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันกู้ ดอกเบี้ยร้อยละ 6.50 ต่อปี เกษตรกรรับภาระร้อยละ 3.50 ต่อปี และ รัฐบาลชดเชยให้ร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน 24 เดือน โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมมันสาปะหลังและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร วงเงิน สินเชื่อ 1,500 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี สถาบันเกษตรกรรับภาระร้อยละ 1 ต่อปี และรัฐบาลชดเชย ร้อยละ 3 ต่อปี เป็นระยะเวลาไม่เกิน 12 เดือน โครงการชดเชยดอกเบี้ยในการเก็บสต็อกมันสำปะหลัง ในรูปแบบมันเส้น/แป้งมัน เพื่อดูดซับผลผลิตในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก วงเงินสินเชื่อ 15,000 ล้านบาท รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ตามระยะเวลาที่เก็บสต็อกไว้ 60 – 180 วัน

4. โครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางระยะที่ 2 ความคืบหน้า กนย. มีมติเห็นชอบในหลักการโครงการประกันรายได้ฯ ระยะที่ 2 ระหว่าง ส.ค. 63 – ม.ค. 64 (ขณะนี้อยู่ระหว่างเตรียมเสนอ ครม.) วงเงิน 31,013.27 ล้านบาท เกษตรกรผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯจำนวนประมาณ 1.83 ล้านครัวเรือน พื้นที่ 18 ล้านไร่ที่ขึ้นทะเบียนกับการยางแห่งประเทศไทย ราคาและปริมาณสำหรับประกันรายได้ ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ เป็นสวนยางอายุ 7 ปี ขึ้นไป และ เปิดกรีดแล้ว โดยมีราคาเป้าหมาย ได้แก่ (1) ยางแผ่นดิบคุณภาพดี กก.ละ 60 บาท (2) น้ำยางสด DRC 100% กก.ละ 57 บาท (3) ยางก้อนถ้วย DRC 50% กก.ละ 23 บาท โดยเจ้าของสวนได้ 60% คนกรีดได้ 40% การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างจ่ายเดือนละคร้ังตั้งแต่ ส.ค. 2563 โดยปัจจุบันได้ใช้งบประมาณของ ธกส. สำรองจ่ายแทนรัฐบาลไปก่อน

มาตรการคู่ขนาน มาตรการกำกับดูแลด้านปริมาณ ผู้ประกอบกิจการยางที่มีปริมาณการรับซื้อตั้งแต่เดือนละ 5,000 กก.ขึ้นไป แจ้งปริมาณการซื้อ ปริมาณการจำหน่าย ปริมาณการใช้ไป ปริมาณคงเหลือ และ สถานที่เก็บ สินค้ายางพารา ตลอดจนให้จัดทำบัญชีคุมรายวัน ส่งเสริมการใช้ยางของหน่วยงานภาครัฐระหว่างต.ค.62 – ก.ย.65 โครงการสนับสนุนสินเชื่อ 5 โครงการ (ที่อยู่ระหว่างดำเนินโครงการ) โครงการสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียนแก่สถาบันเกษตรกรเพื่อใช้ในการรวบรวมยาง (วงเงิน 10,000 ล้านบาท) ระยะเวลาจ่ายเงินกู้ 1 เม.ย. 63 – 31 มี.ค. 67 โครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรเพื่อแปรรูปยางพารา (วงเงิน 5,000 ล้านบาท) ระยะเวลาดำเนินงาน 1 ก.ย. 57 – 31 ธ.ค. 67 โครงการสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนแก่ผู้ประกอบกิจการยาง (ยางแห้ง) (20,000 ล้านบาท) ระยะเวลาดำเนินงาน ม.ค. 63 – ธ.ค. 64 โครงการสนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยาง (วงเงินสินเชื่อ 25,000 ล้าน บาท) ระยะเวลาโครงการ ปี 59 – 69 โดยสนับสนุนวงเงินชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ อัตราร้อยละ 3 (ไม่เกิน 600 ล้านบาท)

5. โครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปี 2563/64  ความคืบหน้าครม.มีมติเห็นชอบแล้ว ในวงเงิน1,912,210,245 บาท ระยะเวลา โครงการฯ 1 พฤศจิกายน 2563 – 30 เมษายน 2565 ราคาและปริมาณประกันรายได้ กก.ละ 8.50 บาท ณ ความชื้น 14.5% ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ไร่ เกษตรกรผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการฯจำนวนประมาณ 4.5แสนครัวเรือนที่ขึ้นทะเบียนกรมส่งเสริมการเกษตร โดยมีระยะเวลาเพาะปลูกระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน 2563 – 31 พฤษภาคม 2564 การจ่ายเงินชดเชยส่วนต่างจ่ายเงินส่วนต่างครั้งแรกในวันที่20พฤศจิกายน 2563 และทุกวันที่ 20 ของเดือน จนถึง 31 ตุลาคม 2564

มาตรการคู่ขนาน การบริหารจัดการการนำเข้า เอกชนให้นำเข้าช่วง ก.พ.- ส.ค. / อคส. นำเข้าได้ทั้งปี กำหนดสัดส่วนการนำเข้าข้าวสาลีต่อการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 1 : 3 แสดงราคา ณ จุดรับซื้อที่ความชื้น 14.5% และ 30% แจ้งปริมาณการครอบครอง การนำเข้า สถานที่เก็บ การตรวจสอบสตอก สินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตร ปี 2563/64 สำหรับสถาบันเกษตรกร รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 วงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท วงเงินชดเชยดอกเบี้ย 45 ล้านบาท โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในการเก็บสตอก ปีการผลิต 2563/64 ระยะเวลา 2 – 4 เดือน รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยร้อยละ 3 วงเงินสินเชื่อ 1,500 ล้านบาท วงเงินชดเชย ดอกเบี้ย 15 ล้านบาท ด้วยงบ คชก.เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึง ส.ค.นี้

ทำเนียบ 14 พ.ค.-รัฐบาลเชิญกลุ่มเสี่ยงฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ฟรี ถึงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนี้ ทุกสถานพยาบาลทั่วประเทศ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่ารัฐบาลโดย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินการจัดเตรียมวัคซีนเพื่อป้องกันสายพันธุ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ตามการประกาศขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดยจัดเตรียมวัคซีนรองรับ 4,570,000 ล้านโดส กระจายหน่วยบริการให้บริการฉีดกลุ่มเป้าหมาย ระบุเป็นวัคซีนป้องกัน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ A(H1N1), สายพันธุ์ A (H3N2) และ สายพันธุ์ B วิคตอเรีย ที่มีประสิทธิผลและมีความปลอดภัย สปสช. กำหนดเป้าหมายเพื่อฉีดให้กับประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่ 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ที่แนะนำ 12 -20 สัปดาห์ (สามารถให้ได้ตลอดการตั้งครรภ์) 2. เด็กอายุ 6 เดือน – 2 ปี 3. ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 […]

เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง

สงขลา 14 พ.ค.-“ชัยชนะ” เยี่ยม ด.ต. ถูก สจ.กอล์ฟ ลูก สส.ปชป. ทำร้ายในหน่วยเลือกตั้ง ย้ำพร้อมช่วยเหลือทุกกรณี หากไม่ได้รับความเป็นธรรม นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ได้เดินทางเข้าเยี่ยมด.ต.นิสาธิต คงเทพ ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ในหน่วยเลือกตั้ง ณ เรือนรับรองตำรวจชายแดนที่ 43 จังหวัดสงขลา โดยในโอกาสนี้ นายชัยชนะได้มอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับครอบครัว นายชัยชนะ ได้พูดคุยกับ ด.ต.นิสาธิต ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าในฐานะประธานกรรมาธิการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร หากมีความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้นหรือมีความต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด กรรมาธิการตำรวจพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ นายชัยชนะ ยังได้แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษประชาชนที่เกิดความไม่สบายใจที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าพรรคให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบและการแก้ไขสถานการณ์อย่างเหมาะสม.-312.-สำนักข่าวไทย

ปูพรมค้น 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง

ตรัง 14 พ.ค. – ตำรวจปูพรมปิดล้อม 6 จุด ตามจับแก๊งฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ล่าสุดตามยึดรถกระบะของกลางที่คนร้ายใช้ไปซื้อยางรถยนต์มาก่อเหตุ เมื่อวานนี้ (13 พ.ค.) ตำรวจสอบสวนกลางนำกำลังร่วมกันตรวจยึดรถกระบะโตโยต้า สีเทาดำ (สงวนหมายเลขทะเบียน) และสิ่งของอื่น ๆ อีกหลายรายการ ที่บ้านแห่งหนึ่ง ใน อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งผู้ต้องหาทั้ง 4 คน คือ นายศุภกรณ์ รักวิวัฒน์ หรือ “บิน ควนกุน” อายุ 37 ปี หัวหน้าแก๊งและเป็นผู้มีอิทธิพล, นายจรณชัย สมาธิ หรือ แต้ม อายุ 32 ปี, นายปิยะศักดิ์ สุวรรณมณี หรือ แจ๊ค อายุ 33 ปี และนายรพีพันธ์ บุญเกื้อ […]

แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นขอความเป็นธรรมปมมติแพทยสภา

สธ. 13 พ.ค. – แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายความส่วนตัวยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสภานายกพิเศษ กรณีมติที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา ปม “ทักษิณ” รักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นายเนติธร หลินหะตระกูล ทนายความส่วนตัวที่ได้รับมอบอำนาจจาก พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ (สบ 8) โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะนายกสภาพิเศษ กรณีที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภามีมติการพิจารณาคดีจริยธรรมของแพทย์ที่อยู่ในความสนใจของประชาชนในกรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ ผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม ปม “ทักษิณ ชินวัตร” รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูล หรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้ มีนายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับเรื่อง นายกองตรี […]

ข่าวแนะนำ

ส่งตัวพลทหารขับแกร็บ กลับต้นสังกัดกองทัพอากาศ

พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ 15 พ.ค.-ส่งตัวพลทหารขับแกร็บ กลับต้นสังกัดกองทัพอากาศ รับรองความปลอดภัย ขณะตัวผู้พันบินตรงจากอุดรธานี มารับด้วยตัวเอง แต่สุดท้ายเจ้าตัวขออยู่กรุงเทพฯ ก่อน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี รองผู้บังคับกองพันนายหนึ่งในสังกัดกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี ถูกกล่าวหาว่าใช้ทหารกองประจำการจากจังหวัดอุดรธานีไปขับรถรับส่งผู้โดยสาร (แกร็บ) เพื่อประโยชน์ส่วนตนนั้น และทางผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ให้ความสำคัญกับประเด็นดังกล่าว และได้มีคำสั่งให้ดำเนินการย้ายรองผู้บังคับกองพันรายดังกล่าว ออกจากตำแหน่งเดิม โดยในวันนี้ได้มีการส่งตัว พลทหารกองประจำการ หรือพลทหารรายดังกล่าว โดยเพจ สายไหมต้องรอด ให้กับกองทัพอากาศ ที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ โดยพลอากาศโทประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ร่วมรับตัวทหารกองประจำการ หรือพลทหารคนดังกล่าวที่พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ และมีการรับรองความปลอดภัยจากนั้นตัวผู้บังคับการกองบินจากจังหวัดอุดรธานีซึ่งเดินทางเข้ากรุงเทพมหานครในวันนี้ เพื่อรับตัวพลทหารดังกล่าวเพื่อกลับไปทำงานตามสังกัดปกติที่จังหวัดอุดรธานีต่อไป ทั้งนี้สำหรับความคืบหน้าการสอบสวนตัว นายทหารที่นำพลทหารมาขับแกร็บนั้น ตามระเบียบมีกรอบเวลาอยู่แล้ว แต่เชื่อว่าจะมีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพราะเป็นนโยบายที่ทางผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ให้ความสำคัญและย้ำมาตลอดในเรื่องของการดูแลทหารกองประจำการหรือพลทหาร ให้เป็นไปตามกฎระเบียบและไม่ให้มีการนำตัวไปใช้งานในลักษณะที่ขัดต่อระเบียบอยู่แล้ว อย่างไร ก็ตาม น.อ.วุฒิกร สุวารี รองโฆษก ทอ.และรองเสนาธิการ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ซึ่งมาร่วมในการรับตัวทหารกองประจำการ ยืนยันความปลอดภัยพร้อมระบุ เพื่อความสบายใจทหารรายดังกล่าว จะให้พักภายในกองบัญชาการทหารอากาศโยธินกรุงเทพมหานครไปก่อน จนกว่าจะมีความสบายใจ และมั่นใจในความปลอดภัย […]

ปิดล้อมพื้นที่ “ชายคลุ้มคลั่ง” ยิงปืนขึ้นฟ้า ยิงใส่ตำรวจ 3 นัด

กทม. 15 พ.ค.-ชายเมายาคลุ้มคลั่ง ยิงปืนขึ้นฟ้า 6 นัด ย่านอิสรภาพ 44 เขตบางกอกน้อย ขังตัวเองอยู่ภายในบ้าน พร้อมยิงปืนใส่ตำรวจ 3 นัด เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่ เมื่อเวลา 06.00.น วันนี้ (15 พ.ค.68) เกิดเหตุชายเมายาคลุ้มคลั่ง ยิงปืนขึ้นฟ้า 6 นัดซ้อน ย่านอิสรภาพ 44 แขวงบางช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย ชาวบ้านในพื้นที่หวั่นไม่ปลอดภัย แจ้งตำรวจ สน.บางกอกน้อย เข้าระงับเหตุ แต่ไม่เป็นผล ชายคนดังกล่าว หลบหนีเข้าบ้านพัก และขังตัวเองอยู่ภายในบ้าน พร้อมยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 3 นัด ทำให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงปิดล้อมพื้นที่ ต่อมา พลตำรวจโทสยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ลงพื้นที่เกิดเหตุหลังได้รับการรายงาน เพื่อเข้าไปควบคุมการปฏิบัติงานด้วยตนเอง ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังคงปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่ และไม่ให้บุคคลที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด ป้องกันอันตรายจากลูกหลง.-414.-สำนักข่าวไทย

ฤดูฝนมา จับตาความพร้อม Cell Broadcast

14 พ.ค. – ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูฝนในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ค. 68) กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์ว่า ปริมาณฝนปีนี้จะมากกว่าค่าปกติ 5% ในระยะนี้ต้องติดตามพายุไซโคลนที่อาจก่อตัวในทะเลอันดามัน ขณะที่ปลายฤดูอาจเจอพายุโซนร้อน 1-2 ลูก ล่าสุดภาครัฐยกระดับการแจ้งเตือนภัย แต่ต้องรอลุ้นว่า Cell Broadcast จะใช้ได้เต็มระบบทั่วประเทศทันฤดูฝนนี้หรือไม่.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ ชวนอุดหนุนผลไม้ไทย เล็งจัด Thai Fruits Festival

ทำเนียบ 14 พ.ค.- “นายกฯ แพทองธาร” ชวนประชาชนอุดหนุนผลไม้ไทย เตรียมจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เร่งเจรจา FTA ดันการส่งออกนำผลไม้ไทยร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ขยายตลาดสร้างโอกาสให้เกษตรกร น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปวิดีโอผ่าน TikTok ชื่อบัญชี ingshin21 เชิญชวนประชาชนอุดหนุนและรับประทานผลไม้ไทย โดยกล่าวว่า “เป็นคลิปแรกที่มาอยากมาขายของเป็นแม่ค้าหนึ่งวัน ผลไม้ไทยมีเยอะมากที่อร่อย พร้อมนำผลไม้ที่จัดใส่จาน ทั้ง มังคุด เงาะ ทุเรียน รวมถึงข้าวเหนียวมะม่วง แล้วจะมาเชิญชวนให้ พี่น้องคนไทยทุกคนให้ทานผลไม้ไทย และสองปีที่แล้ว ข้าวเหนียวมะม่วงของเราดังไปทั่วโลก ซึ่งมะม่วงของเราอร่อยจริงๆ ไปเจอที่เมืองนอกแพง แต่ที่เมืองไทยราคาดี เพราะฉะนั้นอดอุดหนุนผลไม้ไทยกันหน่อยนะคะ อร่อยด้วยราคาดีด้วย ไม่อย่างนั้นเวลาไปอยู่เมืองนอกนานๆ ซื้อที่เมืองนอกแพง ตอนนี้เมืองไทย มะม่วงราคาดีมากผลไม้ทุกอย่างก็ราคาดี และอากาศปีนี้ดีทำให้ผลไม้ค่อนข้างหวาน หาซื้อได้ง่าย ดังนั้นขอให้อุดหนุนผลไม้ไทยกันเยอะๆ” นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังระบุข้อความ ด้วยว่า “สวัสดีค่ะ ทุกคน หน้าผลไม้แล้วค่ะ ปีนี้ผลไม้ไทยผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% […]