กมธ.ศึกษาแก้รธน. เสนอตั้งส.ส.ร.ร่างรธน.ใหม่

รัฐสภา 10 ก.ย.- กรรมาธิการศึกษาแก้ รธน. แถลงผลศึกษาต่อสภาฯ เสนอตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ ยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ยกเว้นหมวด 1-2 รื้อระบบเลือกตั้งกลับไปใช้แบบปี 40 เลิกเสนอชื่อนายกฯ ก่อนการเลือกตั้ง ให้สภาฯ ตรวจสอบศาลรัฐธรรมนูญและองค์อิสระได้ คืนอำนาจถอดถอนนักการเมืองให้ ส.ว.


การประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ที่ประชุมได้พิจารณารายงานการศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญของกรรมาธิการชุดที่นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่สภาฯตั้งขึ้นร่วมกัน และใช้เวลาถึง 8 เดือนในการศึกษา นายพีระพันธุ์ เปิดเผยว่า กรรมาธิการเห็นว่าหมวด 1 และหมวด 2 เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีอะไรต้องแก้ไข แต่ในหมวดอื่น ๆ มีผลการศึกษาดังนี้

หมวดที่ 3 ที่เกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย เห็นว่ามีหลายมาตรามากที่จำเป็นจะต้องแก้ไขใหม่ โดยเฉพาะมาตรา 25 ถึงมาตรา 49 ซึ่งการแก้ไขจะยึดรัฐธรรมนูญฉบับในอดีตเป็นฐาน โดยเฉพาะฉบับปี 2540 และฉบับปี 2550 เพราะมีการบัญญัติเกี่ยวกับสิทธิเสรีภาพไว้มากกว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพราะบางมาตราในปัจจุบันบัญญัติไว้กว้างสามารถตีความให้สามารถจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้


หมวดที่ 4 หน้าที่ของปวงชนชาวไทย กรรมาธิการเห็นว่าจำเป็นต้องทบทวนใหม่เช่นกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนว่าเรื่องใดควรเป็นหน้าที่และเรื่องใดควรเป็นสิทธิ เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องของสิทธิมากกว่าหน้าที่

หมวดที่ 5 หน้าที่ของรัฐที่ควรกำหนดหน่วยงานรับผิดชอบให้ชัดเจน เพรารัฐธรรมนูญกำหนดเพียงว่ารัฐเป็นหน้าที่ แต่ไม่ได้กำหนดว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบ และควรเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีอำนาจในการควบคุมการใช้อำนาจรัฐให้ได้มากยิ่งขึ้น

หมวดที่ 6 เรื่องแนวนโยบายแห่งรัฐ เห็นว่าควรปรับปรุงให้เรื่องนโยบายเป็นอิสระของคณะรัฐมนตรี โดยไม่ควรบัญญัติให้บังคับไว้ในรัฐธรรมนูญ และควรปรับลดระยะเวลาตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีลง และเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในกรรมการยุทธศาสตร์ชาติมากขึ้น และที่สำคัญต้องกำหนดให้ชัดเจนว่านโยบายแห่งรัฐจะต้องเอื้อประโยชน์หรือเกิดการผูกขาดให้กับกลุ่มทุน


หมวดที่ 7 รัฐสภา กรรมาธิการเห็นว่าควรกลับไปใช้ระบบเลือกตั้งแบบ 2 ระบบ คือระบบแบ่งเขต และระบบบัญชีและรายชื่อ และใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบเหมือนเดิม และยกเลิกการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีก่อนการเลือกตั้ง ในส่วนวุฒิสภา ให้กลับมามีอำนาจถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเหมือนเดิม และสามารถถอดถอนผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงได้ เพื่อป้องกันการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ส่วนที่มาของ ส.ว.ให้กำหนดวิธีการเลือกกันเองให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

หมวดที่ 8 คณะรัฐมนตรี กรรมาธิการเห็นตรงกันว่าคณะรัฐมนตรีจะต้องไม่เป็น ส.ส.ในเวลาเดียวกัน และกำหนดคุณสมบัติเกี่ยวกับการถือครองหุ้นสื่อให้ชัดเจน

หมวดที่ 9 การขัดกันแห่งผลประโยชน์ กรณีห้ามผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองถือหุ้นในบริษัทสัมปทานของรัฐนั้น กรรมาธิการเห็นว่าไม่ควรรวมถึงการถือหุ้นในลักษณะลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ที่ไม่ใช่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหม่ที่จะไปมีสิทธิในการบริหาร

หมวดที่ 10 เกี่ยวกับศาล กรรมาธิการเห็นว่าควรให้มีการตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้พิพากษา ตุลาการในการพิจารณาคดี ในคดีที่ขัดต่อความรู้สึกของประชาชน ที่คำพิพากษาอาจถูกแทรกแซงจากปัจจัยภายนอกได้ และให้อำนาจสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบถ่วงดุลการใช้ดุลพินิจของผู้พิพากษาได้ และผู้พิพากษาหรือข้าราชการในศาลยุติธรรมไม่ควรมีตำแหน่งในหน่วยงานหรือองค์กรอื่นของรัฐ และไม่ควรไปเข้าเรียนในหลักสูตรต่าง ๆ ที่เป็นการเปิดโอกาสสร้างคอนเนคชั่นจนกระทบต่อความเชื่อมั่นได้ ส่วนศาลทหารให้เป็นศาลที่พิจารณาเฉพาะคดีของทหารเท่านั้น

หมวดที่ 11 ศาลรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการเห็นว่า ควรกำหนดขอบเขตการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญโดยให้รัฐสภามีอำนาจถ่วงดุลตรวจสอบการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญได

หมวดที่ 12 องค์กรอิสระ กรรมาธิการเห็นว่าควรกำหนดกรอบการใช้ดุลพินิจของกรรมการในองค์กรอิสระและให้องค์กรอิสระสามารถถูกตรวจสอบโดยศาลได้ และให้สภาผู้แทนราษฎรมีบทบาทในการตรวจสอบองค์กรอิสระ และให้ศาลมีอำนาจเพิกถอนคำวินิจฉัยของ กกต.ได้ กกต.ไม่ควรมีอำนาจวินิจฉัยตัดสิทธิ์ลงสมัครเลือกตั้ง แต่ควรเป็นอำนาจศาลฎีกาแผนกเลือกตั้งแทน ส่วน ป.ป.ช.ควรกำหนดให้การชี้มูลความผิดต้องเป็นกรณีที่ปรากฏพยานหลักฐานอย่างแน่ชัด ว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดไม่ใช่ชี้มูลจากคำว่า เชื่อได้ว่า

หมวดที่ 13 องค์กรอัยการ กรรมาธิการเห็นว่าควรมีกลไกในการควบคุมการใช้อำนาจของอัยการ และห้ามมอบอำนาจในการใช้ดุลพินิจสั่งคดีอย่างกรณีที่เกิดขึ้นในคดี บอส อยู่วิทยา และควรห้ามอัยการไม่ให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอื่นของรัฐ หรือไปเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้บริษัทต่าง ๆ

นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวถึงหมวดการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256 กรรมาธิการเห็นด้วยให้ยกเลิกการให้ ส.ว.ร่วมเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ด้วยเสียง 1 ใน 3 และให้ใช้เสียงข้างมากในที่ประชุมร่วมรัฐสภาแทน เช่นเดียวกับรัฐธรรมนูญ 2540 และ 2550 และให้ยกเลิกเงื่อนไขที่ต้องให้ ส.ส.จากพรรคซึ่งไม่ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หรือ ประธานสภาต้องเห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่าร้อยละ 20 และให้ยกเลิกการทำประชามติในหมวดที่เกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือเรื่องคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามทางการเมือง หรือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่ขององค์กรอิสระ

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ให้ตัดหมวดการปฏิรูปประเทศออกจากรัฐธรรมนูญ เพราะไม่สามารถปฏิบัติได้จริง และการที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ยิ่งทำให้เกิดความล่าช้า จึงควรให้ไปบัญญัติในกฎหมายลำดับรองแทน เพราะจนถึงขณะนี้การปฏิรูปยังไม่สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากติดเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญจนไม่สามารถปฏิรูปได้จริง ส่วนเนื้อหาในหมวดเฉพาะของรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการเห็นควรให้ปรับปรุง 2 แนวทาง คือ ให้ยกเลิก ส.ว.ที่มาตามบทเฉพาะกาล และให้มีวุฒิสภามาตามบทบัญญัติหลักของรัฐธรรมนูญแทน หรือให้ ส.ว.ชุดปัจจุบันปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนครบวาระ แต่ตัดอำนาจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า อำนาจ ส.ว.ตามมาตรา 272 ที่ให้โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี กรรมาธิการมีความเห็นเป็น 2 แนวทางคือ 1 ให้ตัดอำนาจ ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรีออกทั้งหมดเพื่อให้เป็นอำนาจ ส.ส.เพียงสภาเดียวในการเลือกนายกรัฐมนตรี หรือ 2 ไม่จำเป็นต้องแก้ไขมาตรา 272 เพราะมาตรานี้เป็นบทบัญญัติที่บังคับไว้เพียงชั่วคราวและได้ใช้บังคับในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีไปแล้ว นอกจากนี้กรรมาธิการยังเห็นชอบว่า ควรยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่มาแทนการแก้ไขรายมาตรา โดยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)ขึ้นมาทำหน้าที่ในการยกร่าง ยกเว้นการร่างหมวด 1 และหมวด 2 และให้จัดทำประชามติก่อนนำขึ้นทูลเกล้าประกาศใช้เป็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่

จากนั้นที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกอภิปราย ส.ส.พรรคก้าวไกลส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วยที่กรรมาธิการมีแนวทางไม่แก้ไขหมวดที่ 1 และหมวดที่ 2 เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ขณะที่นายพีระพันธุ์ ชี้แจงว่า ไม่มีกรรมาธิการคนใดเสนอประเด็นที่ต้องแก้ไขในทั้ง 2 หมวด โดยกรรมาธิการมีตัวแทนจากทุกพรรครวมถึงพรรคก้าวไกลด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

Nepal President and Interim Prime Minister

เนปาลยุบสภา หลังได้นายกฯ เฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรก

กาฐมาณฑุ 13 ก.ย.- ทำเนียบประธานาธิบดีเนปาลออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันศุกร์ว่า ประธานาธิบดีได้ประกาศยุบสภาผู้แทนราษฎร และกำหนดให้จัดการเลือกตั้งในวันพฤหัสบดีที่ 5 มีนาคม 2569 หลังจากที่ได้แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ ประธานาธิบดีรามจันทระ เปาเฑลของเนปาลสั่งยุบสภาและให้จัดการเลือกตั้งใหม่ดังกล่าว โดยก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงเพิ่งแต่งตั้งนางสุชีลา การ์กี วัย 73 ปี อดีตประธานศาลฎีกา เป็นนายกรัฐมนตรีเฉพาะกาลที่เป็นผู้หญิงคนแรกของประเทศ หลังจากที่ได้เจรจาหารือกันอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 2 วัน กับผู้บัญชาการทหารบกและแกนนำผู้ประท้วงกลุ่มเจเนอเรชันซีหรือเจนซี (Gen Z) เพื่อเดินหน้าประเทศที่เกิดการลุกฮือครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบหลายปี มีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 51 คน ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 1,300 คน มีการเผาอาคารรัฐสภา ที่ทำการรัฐบาล และบ้านพักนักการเมือง ทำให้นายกรัฐมนตรีเค.พี. ชาร์มา โอลี ต้องลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 9 กันยายน ด้านนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดีของอินเดียที่มีพรมแดนทางตะวันออกเฉียงเหนือติดกับเนปาล โพสต์เอ็กซ์ (X) แสดงความยินดีอย่างจริงใจต่อนางการ์กีที่รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเฉพาะกาลเนปาล และว่าอินเดียมุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมต่อสันติภาพ ความก้าวหน้า และความรุ่งเรืองของพี่น้องชาวเนปาล การประท้วงในเนปาลปะทุขึ้นในกรุงกาฐมาณฑุแล้วลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็วเมื่อวันที่ 8 กันยายน ชนวนเหตุเกิดจากการที่รัฐบาลสั่งห้ามการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งไปโหมกระพือกระแสความไม่พอใจเรื่องความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมในประเทศที่ตกอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพตั้งแต่เปลี่ยนแปลงการปกครองจากระบอบกษัตริย์เป็นสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยในปี 2551 […]

“อนุทิน” เข้าพรรคฯ นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย

พรรคภูมิใจไทย 13 ก.ย.-“อนุทิน” เข้าพรรคภูมิใจไทย วันเกิด นำคุย ว่าที่ รมต. หารือกรอบนโยบาย ก่อนแถลงต่อสภาฯ ขณะที่ภาคเอกชน-นักการเมือง-ข้าราชการ ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิด ครบ 59 ปี บรรยากาศที่พรรคภูมิใจไทย เวลา 14.15 น. นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารบริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ส่งแจกันดอกไม้สีฟ้า-ขาว มาร่วมอวยพรวันคล้ายวันเกิด ครบ 59 ปี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ขณะที่ตั้งแต่ช่วงบ่ายยังมีบรรดานักการเมือง ข้าราชการ และภาคเอกชน ส่งดอกไม้อวยพรวันเกิดและแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก อาทิ นายวราวุธ ศิลปอาชา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในสมัยรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร พลเอกเทพพงษ์ ทิพยจันทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม นายกร ทัพพะรังสี อดีตรัฐมนตรีหลายสมัย นอกจากนี้ยังมีแจกันดอกไม้ที่ส่งมาอวยพรนายอนุทิน ทั้งส่วนราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด และผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรฯ […]

ธปท.เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือ 15 ก.ย.นี้

กทม. 13 ก.ย.-ธปท. เรียกถกผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย หารือจันทร์นี้ หลัง กกร.ตั้งข้อสังเกตส่งออกทองคำไปกัมพูชาพุ่งสูงผิดปกติ กรณีนายเกรียงไกร เธียรนุกูล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชนสามสถาบัน (กกร.) ได้ทำการตรวจสอบหาสาเหตุที่ทำให้เงินบาทแข็งค่าแรงผิดปกติ สวนทางเศรษฐกิจปัจจุบัน จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบความผิดปกติของการส่งออกทองคำไปกัมพูชา มีตัวเลขสูงผิดปกติ ซึ่งอาจจะเป็นหนึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เงินบาทแข็งค่านั้น ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้เรียกด่วนผู้ค้าทองรายใหญ่ 13 ราย เพื่อหารือถึงประเด็นดังกล่าวในวันที่ 15 ก.ย.นี้ ด้านวงในให้จับตา “ทองคำ” ช่องโหว่เศรษฐกิจ เหตุเป็นสินทรัพย์ที่ไม่มีหน่วยงานกำกับดูแล จนกระทรวงการคลัง-แบงก์ชาติ ต้องถกหาวิธีดูแลธุรกรรมทองคำเพื่อปิดช่องฟอกเงิน เผย 7 เดือนไทยส่งออกทองไปกัมพูชาแล้วกว่า 71,800 ล้านบาท ทั้งนี้ การส่งออกทองคำของไทยที่อยู่ในหมวดอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างเดือนมกราคม-กรกฎาคม 2568 ตามตัวเลขของสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (GIT) พบว่าไทยมีการส่งออกไปยังกัมพูชาอยู่ในอันดับ 3 รองจากการส่งออกไปยังสวิตเซอร์แลนด์ และอินเดีย ซึ่งเป็นแหล่งค้าทองคำที่สำคัญของโลก โดยตัวเลขการส่งออกไปยังกัมพูชา 7 เดือนแรกของปี 2568 […]

วันที่ 3 ปะทะเดือดสะบ้าย้อย ยังเคลียร์พื้นที่ไม่ได้

สงขลา 13 ก.ย.-เข้าสู่วันที่ 3 เหตุปะทะเดือด อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เช้านี้ยังยิงปะทะกันต่อเนื่อง ยังไม่สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ จนชาวบ้านไม่กล้าออกจากบ้าน วันนี้เป็นวันที่ 3 หลังวานนี้ เกิดเสียงยิงปะทะดังสนั่นหวั่นไหว บนเนินเขา หมู่ 7 ต.คูหา อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และหลังจากเสียงปืนสงบ ได้มีการเข้าเคลียร์พื้นที่โดยเชิญผู้นำศาสนาเข้าไปในพื้นที่เพื่อตรวจสอบและเป็นสักขีพยาน หลังเจ้าหน้าที่ ยืนยันพบผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต 1 ราย และเมื่อคืนที่ผ่านมา ก็มีการปะทะต่อเนื่องประมาณ 2-3 ครั้ง ล่าสุด เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ยินเสียงปะทะขึ้นอีกกว่า 10 ครั้งแล้ว ดังมาจากใกล้จุดเกิดเหตุเมื่อวานนี้ แต่ถึงขณะนี้ยังไม่สามารถเข้าเคลียร์พื้นที่ได้ ทราบเพียงว่าเจ้าหน้าที่ปลอดภัยทุกนาย และเจ้าหน้าที่ยังคงใช้ความระมัดระวัง โดยใช้โดรนบินลาดตระเวนตลอดตั้งแต่เช้าและขยับเคลื่อนกำลังเข้าทุกพื้นที่เพื่อกดดัน และจำกัดวงล้อมรอบเทือกเขา หาตัวผู้ก่อความไม่สงบ เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นภูเขา และติดกับอำเภอนาทวี จ.สงขลา ซึ่งคนร้ายอาจจะหลบหนีได้ แหล่งข่าวความมั่นคงคาดยังมีคนร้ายหลบหนี อยู่ในเทือกเขาอีกประมาณ 1-2 คน ขณะที่บรรยากาศในหมู่ 7 บ้านห้วยเต่า วันนี้ค่อนข้างเงียบเหงา ชาวบ้านยังคงอยู่บ้านเรือนของตนเองเพื่อความปลอดภัย […]