“ทรัมป์” สั่งยิงเรืออ้างขนยาเสพติดเป็นลำที่ 3 แล้ว

วอชิงตัน 20 ก.ย. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ยิงทำลายเรือขนยาเสพติดที่กำลังแล่นอยู่ในเขตความรับผิดชอบของกองทัพเรือสหรัฐ สังหารนักค้ายาเสพติดเพศชายได้  3 คน นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่ผู้นำสหรัฐมีคำสั่งลักษณะนี้

ประธานาธิบดีทรัมป์โพสต์ในทรูธโซเชียลที่เป็นสื่อสังคมออนไลน์ของเขาเมื่อวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า กระทรวงกลาโหมได้ปฏิบัติการโจมตีตามคำสั่งของเขา ตามที่ข่าวกรองยืนยันว่า เรือลำดังกล่าวกำลังค้าเสพติด โดยมีการขนถ่ายตามเส้นทางค้ายาเสพติดอันเป็นที่รู้กันเพื่อวางพิษชาวอเมริกัน ผู้นำสหรัฐไม่ได้แสดงหลักฐานสนับสนุนการกล่าวอ้าง หรือรายละเอียดว่าเรือเดินทางออกจากที่ใด หรือการโจมตีเกิดขึ้นบริเวณไหน แต่ได้โพสต์คลิปภาพถ่ายทางอากาศความยาว 1 นาที มีคำว่า unclassified แปลว่า ไม่เป็นความลับ อยู่ด้านบน เป็นภาพการเล็งเป้าเรือลำหนึ่งที่กำลังแล่นด้วยความเร็วสูง แล้วยิงจนเรือระเบิดลุกเป็นไฟ

ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 แล้วที่สหรัฐยิงทำลายเรือโดยอ้างว่าเป็นเรือค้ายาเสพติด ครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 กันยายน ครั้งนั้นนายทรัมป์อ้างว่า ได้สั่งการให้สังหารนักค้ายาเสพติด 11 คนในน่านน้ำสากลที่อยู่ในเขตความรับผิดชอบของกองบัญชาการทหารสหรัฐภาคใต้หรือเซาท์คอม (SOUTHCOM) ขณะที่นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐระบุว่า เป็นการโจมตีในน่านน้ำทางตอนใต้ของทะเลแคริบเบียนเพื่อจัดการเรือค้ายาเสพติดที่ล่องออกมาจากเวเนซุเอลา ต่อมาเมื่อวันที่ 15 กันยายนนายทรัมป์ประกาศว่า กองทัพได้สังหารชายก่อการร้ายชาวเวเนซุเอลา 3 คนที่กำลังลำเลียงยาเสพติดในน่านน้ำสากลที่อยู่ในเขตความรับผิดชอบของเซาท์คอม ซึ่งครอบคลุมทะเลแคริบเบียนและอเมริกาใต้

ส่วนในวันนี้ฝูงบินขับไล่เอฟ-35 (F-35) ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ล่องหนไปลงจอดที่เครือรัฐเปอร์โตรีโก ดินแดนของสหรัฐในทะเลแคริบเบียนจำนวน 5 ลำ ตามที่รัฐบาลทรัมป์สั่งการให้ส่งไปทั้งหมด 10 ลำ เพื่อเสริมแสนยานุภาพในภูมิภาคนี้ที่สหรัฐมีเรือรบล่องอยู่อย่างน้อย 7 ลำ และเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ 1 ลำ

รัฐบาลเวเนซุเอลาเปิดเผยว่า ได้ส่งทหารจำนวนมากไปปราบปรามการค้ายาเสพติดและปกป้องประเทศ และชี้แจงว่า ชาวเวเนซุเอลา 3 คนที่ถูกสหรัฐสังหารในปฏิบัติการครั้งแรกไม่มีใครเป็นสมาชิกแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติเตรน เด อารากัว (Tren de Aragua) ตามที่สหรัฐกล่าวอ้าง ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโรของเวเนซุเอลากล่าวหาสหรัฐมาโดยตลอดว่า ต้องการโค่นล้มเขา และเมื่อเดือนที่แล้วรัฐบาลสหรัฐได้ขึ้นค่าหัวเขา 2 เท่าเป็น 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,590 ล้านบาท) โดยกล่าวหาเขาว่าพัวพันกับการค้ายาเสพติดและแก๊งอาชญากรรม

ด้านผู้เชี่ยวชาญและนักสิทธิมนุษยชนพากันตั้งคำถามถึงความชอบธรรมทางกฎหมายของสหรัฐที่ตัดสินใจยิงทำลายเรือต้องสงสัยค้ายาเสพติด แทนที่จะยึดเรือและจับกุมลูกเรือตามปกติวิสัย เพราะปัญหายาเสพติดไม่ใช่ความขัดแย้งทางอาวุธ และถือเป็นการวิสามัญฆาตกรรมอย่างผิดกฎหมาย ทั้งนี้รัฐธรรมนูญสหรัฐบัญญัติให้รัฐสภาเป็นผู้ประกาศสงคราม และให้ประธานาธิบดีเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีสหรัฐที่ผ่านมาทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเคยใช้ปฏิบัติการโจมตีทางทหารในต่างประเทศโดยไม่ขออนุมัติจากรัฐสภามาแล้วหลายครั้ง.-814.-สำนักข่าวไทย