พรรคเพื่อไทย 12 ก.ย.- “สรวงศ์” ปัด ดึง “ชัชชาติ” เป็นแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย เผย อยู่ระหว่างเฟ้นหาผู้มีความเหมาะสมให้ครบ 3 คน เหตุ งวดนี้ใช้คุ้ม ขอ อย่าพูดหมดตระกูลชินวัตรชูโรง ย้ำ “แพทองธาร” ยังมีคุณสมบัติเป็น สส.ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าตัวจะลงการเมืองหรือไม่
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย เดินทางมายังที่ทำการพรรค โดยได้ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมในการจัดทำยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง ว่า การเตรียมความพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ซึ่งพื้นฐานของการยุบสภาก็คืออีก 4 เดือนข้างหน้า ส่วนจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่พรรคก็ได้วางบนพื้นฐานที่ว่าจะมีการเลือกตั้งภายใน 5 – 6 เดือนนี้
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยไปทาบทามนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในสมัยหน้านั้น นายสรวงศ์ ยืนยันว่า ไม่มี และนายชัชชาติก็ได้ออกมาพูดแล้ว ว่าไม่ต้องการมาดูเรื่องการเมืองใหญ่แล้ว สนใจที่จะทำงานให้กรุงเทพมหานคร ซึ่งตนก็ยินดี ไม่มีอะไร โดยทางพรรคเอง ก็กำลังเฟ้นหา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ที่จะมาเป็นตัวแทนของพรรค เพื่อทำงานบริการประเทศชาติต่อไป
ขณะที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าคนในตระกูลชินวัตร อาจหมดบุคคลที่จะนำมาชูโรงแล้วหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ความจริงแล้ว อย่าไปพูดว่าตระกูลชินวัตรหมด เพราะความจริงแล้ว การเลือกตั้งที่ผ่านมาแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยก็มีแค่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร คนเดียว ที่มาจากตระกูลดังกล่าว และพอจัดตั้งรัฐบาลก็เป็นนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่น.ส.แพทองธาร ตั้งแต่แรก แต่อย่างไรก็ตาม พรรคก็กำลังดูบุคคลที่เหมาะสมที่สุด พร้อมยืนยัน ว่าจะส่งแคนดิเดตนายกฯทั้ง 3 คนเหมือนเดิม เพราะว่างวดนี้ใช้คุ้มถึง 3 คนเลย
ส่วนกระบวนการคัดสรร สส. ทั้ง 400 เขต นับจากนี้ พรรคก็กำลังดำเนินการอยู่ โดยเมื่อวานนี้ (11 ก.ย.) ได้มีการประชุมในกลุ่มเล็ก มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเป็นรายภาค เพื่อดูแลในส่วนของผู้สมัคร โดยพรรคยังยึดหลักใช้ผู้สมัคร และ สส. ท่านเดิมอยู่ แต่ก็จะเฟ้นหาคนใหม่ ๆ ซึ่งก็ต้องไปดูว่าจะเพิ่มเติมได้อย่างไร
ส่วนกรณีของอดีตนายกรัฐมนตรี 2 คน ทั้งนายเศรษฐา และน.ส.แพทองธาร จะส่งผลคะแนนนิยมหรือไม่ และฟื้นฟูอย่างไร นายสรวงศ์ กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกอย่างมีผลกระทบหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดตั้งรัฐบาลผสม ทำให้ผลงานไม่ออกเป็นไปอย่างที่เราคาดคิด และมาเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับนายกรัฐมนตรีของพรรคทั้งสองท่านอีก แต่อย่างไรก็ตาม พรรคยังยืนยันมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติต่อไป ซึ่งไม่ว่าพรรคจะโดนอะไรก็แล้วแต่ ก็ยังอดทนมาถึง 3 พรรคแล้ว และก็หลายนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งวันนี้ก็กลับมาดูบ้านตัวเอง รวมถึงสมาชิกในบ้าน เพื่อดูแลความเป็นอยู่ การลงพื้นที่ให้เต็มความสามารถที่สุด
นายสรวงศ์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ก่อนที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯจะเข้าเรือนจำ ครั้งล่าสุดที่นายทักษิณเข้ามาที่พรรคเพื่อไทย ได้ให้กำลังใจและขอบคุณทุกคนที่อยู่ด้วยกัน และยืนยันกับสมาชิกพรรคว่าไม่ได้ไปไหน ไม่ว่าจะโดนอะไรก็พร้อม ซึ่งจริงๆแล้วการกลับมาของนายทักษิณ คือกลับมาช่วยประเทศชาติ และสำคัญที่สุดคือกลับมาดูหลาน ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดขึ้นเร็ว และทั้งหมดก็เป็นอย่างที่เห็นท่านเดินเข้าอย่างลูกผู้ชายไม่ได้มีการคิดที่จะหลบหนี
ส่วนกรณีที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่านายทักษิณ จะทิ้งพรรคเพื่อไทยข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายสรวงศ์ กล่าวว่า นายทักษิณ เป็นผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย ในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่นายทักษิณไม่ได้อยู่ในประเทศมา 17 ปี เมื่อกลับมาก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อจะช่วย แต่ด้วยเหตุผลกลใดก็แล้วแต่ เรายังยืนยันว่า หัวหน้าพรรคคนปัจจุบันชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร และท่านก็ยืนยันที่จะทำงานเพื่อพรรคต่อไป ไม่ว่าในอนาคตจะเป็นรัฐมนตรีหรือนายกฯไม่ได้ แต่ยังเป็นหัวหน้าพรรคได้ และจริงๆคุณสมบัติของท่านยังเป็นสส.ได้ ซึ่งต้องดูความเหมาะสม ซึ่งท่านพูดเสมอว่าเป็นห่วงพรรค และอยากให้เราเป็นปึกแผ่น ทำงานเพื่อประเทศชาติต่อไป
เมื่อถามย้ำว่า คุณสมบัติของน.ส.แพทองธารยังเป็นสส.ได้ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า แน่นอน สิ่งที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยออกมา เป็นคุณสมบัติของรัฐมนตรีและนายกฯ ข้อบังคับพรรคใช้จริยธรรม สส. ซึ่งเรายังยืนยันว่า ไม่ได้กระทบอะไร ตรงนี้ชัดเจน
เมื่อถามต่อว่า แสดงว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า มีโอกาสที่ น.ส.แพทองธารจะเป็นสส.บัญชีรายชื่อลำดับที่หนึ่งเลยหรือไม่ นายสรวงศ์ หัวเราะ ก่อนกล่าวว่า อันนี้ต้องแล้วแต่ท่าน ว่าจะลงมาอยู่ในการเมืองหรือไม่
เมื่อถามว่า โจทก์ใหญ่อีกอย่างของพรรคเพื่อไทย หลังจากเป็นรัฐบาลมา 2 ปีแต่นโยบายยังไม่ตอบสนองต่อประชาชน หลังจากนี้จะเร่งแก้มืออย่างไร เพื่อให้ได้สส.ไม่น้อยกว่าที่ผ่านมา นายสรวงศ์ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชน ตนมั่นใจอย่างหนึ่งว่าพี่น้องประชาชนที่เลือกเรามา รู้อยู่แล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลแบบรัฐบาลผสม มีพรรคการเมืองหลายพรรค และหลายท่านก็มาจากหลายพรรคการเมืองที่มาดูแลกระทรวงต่างๆมีข้อติดขัดพอสมควร จะเห็นได้ชัดจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เข้ามาดูกระทรวงมหาดไทยช่วงเวลาแค่สั้นๆ ผลงานเริ่มออกมาอยู่สายตาประชาชน ทั้งเรื่องการปราบปรามยาเสพติด รวมถึงเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน อีกเรื่องคือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งจริงๆแล้วถ้าจับต้นชนปลายดูดีๆ ตนคิดว่าความจริงก็ต้องปรากฏว่าอะไรเกิดขึ้นบ้าง อยากให้สื่อมวลชนลองช่วยสังเกตดูด้วย
ส่วนมั่นใจหรือไม่ว่ายุทธศาสตร์การเลือกตั้งครั้งหน้าของพรรคเพื่อไทย จะสามารถทำให้พรรคเพื่อไทยได้สส.มากกว่าเดิม หรือมากกว่า 150 เสียงขึ้นไป นายสรวงศ์ กล่าวว่า เราพยายามเอาพื้นฐานให้อยู่ก่อน ที่เหลือก็จะเป็นกำไร แต่ยืนยันว่า จะส่งทุกเขต และจะสู้ในการทำให้พี่น้องประชาชนกลับมานิยมชมชอบในพรรคเพื่อไทย .-316 -สำนักข่าวไทย