HANN เข้าเทรดวันนี้ ราคาพุ่งสูงกว่า 70% เป็น 1.19 บาท

กรุงเทพ 14 ส.ค. – HANN เข้าเทรดวันนี้เปิดแรง ราคาพุ่งสูงกว่า 70% เป็น 1.19 บาท เพิ่มขึ้นจากไอพีโอ 0.70 บาท กระแสตอบรับดีเยี่ยมตอกย้ำศักยภาพแกร่งผู้นำเครือโรงพยาบาลแห่งลุ่มน้ำโขง เผยครึ่งปีแรก กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 169% เป็น 20.67 ล้านบาท


บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ “HANN” ผู้นำเครือ โรงพยาบาลแห่งลุ่มน้ำโขง พร้อมเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันพฤหัสบดีที่ 14 ส.ค.นี้ ในหมวดบริการ (SERVICE) โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า “HANN” เปิดแรง ราคาพุ่งสูงกว่า 70% เป็น 1.19 บาท เพิ่มขึ้นจากไอพีโอ 0.70 บาท กระแสตอบรับดีเยี่ยม ตอกย้ำศักยภาพแกร่งผู้นำเครือโรงพยาบาลแห่งลุ่มน้ำโขงโดดเด่นสำหรับหุ้นกลุ่มการแพทย์ที่มีโอกาสเติบโตอย่างมั่นคงยั่งยืน

นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ IPO หุ้นสามัญ ของ HANN จำนวน 160,000,000 หุ้น กล่าวว่า นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อไอพีโอจำนวนมาก เนื่องจากราคาหุ้นที่ 0.70 บาท เป็นราคาที่เหมาะสมกับสภาวะตลาด โดยคิดเป็นอัตรา P/E เท่ากับ 11.36 เท่าซึ่งต่ำกว่ากลุ่มโรงพยาบาล ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 15 เท่า และเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับราคาพาร์ที่หุ้นละ 0.50 บาท ผู้ถือหุ้นเดิมได้ล็อคอัพหุ้น ทั้งหมด 96% โดยล็อคหุ้นเพิ่มจากที่ต้องติดตามเกณฑ์ร้อยละ 55 จำนวน 308 ล้านหุ้น เป็นระยะเวลา 1 ปี และล็อคหุ้นเดิมที่ไม่ติดเกณฑ์ล็อคหุ้นอีก 76 ล้านหุ้น จาก 92 ล้านหุ้น ไม่สามารถซื้อขายได้เป็นเวลา 1 เดือน อีกด้วย


นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ที่ปรึกษา ทางการเงิน เปิดเผยว่า HANN จะเป็นหุ้นน้องใหม่ในตลาดฯ mai ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี ให้กับนักลงทุน เนื่องจากเป็นบริษัทฯ ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งทางการเงิน มีประสบการณ์การบริหารธุรกิจ ด้านการแพทย์ ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง มีความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์ และเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ ให้บริการการรักษาพยาบาลได้ครบวงจร และมีความเชี่ยวชาญ ในการรักษาโรคที่ซับซ้อน อีกทั้งมีฐานลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ทั้งลูกค้าเอกชน ภาครัฐ ลูกค้าบริษัทประกันภัย และลูกค้าจากต่างประเทศ จึงกระจายความเสี่ยงของธุรกิจได้เป็นอย่างดี

นางประภาศรี สุฉันทบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ HANN เปิดเผยว่า บริษัทฯ พร้อมเข้าซื้อขายเป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ซึ่งนับเป็นอีกก้าวสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน และพร้อมขยาย การเติบโต ต่อยอดธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

โดยภายหลังการระดมทุนครั้งนี้ จะนำไปใช้ในการขยายกิจการ โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์ เนชั่นแนล และโรงพยาบาลนายแพทย์หาญ จังหวัดยโสธร โดยการสร้างอาคารโรงพยาบาลเพิ่ม 2 อาคาร และ ลงทุนอุปกรณ์การแพทย์ที่สำคัญ เพื่อยกระดับการให้บริการและสร้างความพึงพอใจให้ผู้ใช้บริการทุกราย สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และมั่นใจว่าเราจะได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นจากนักลงทุน ด้วยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ โดยในแง่ของเป็น 1 ในเครือโรงพยาบาลชั้นนำแห่งลุ่มน้ำโขงหรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เราได้รับการ ยอมรับจากผู้เข้ารับบริการมายาวนานกว่า 30 ปี ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ มีการเติบโต อย่างต่อเนื่อง ซึ่งต่อจากนี้บริษัทฯ จะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจและมุ่งมั่นในการให้บริการทางการแพทย์ ที่มีคุณภาพ พร้อมทั้งพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อสุขภาพที่ดี ของผู้เข้ารับบริการในจังหวัดมุกดาหาร และพื้นที่ ใกล้เคียง อย่างที่ได้ยึดถือเป็นปณิธาณในการดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ก่อตั้งโรงพยาบาลในแรกเริ่ม ทั้งกับลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ตลอดจนผู้ถือหุ้น และผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เพื่อสร้างธุรกิจที่เติบโต อย่างแข็งแรงและยั่งยืน สามารถต่อยอดธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดี ให้แก่นักลงทุนในระยะยาว


บริษัท โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) “HANN” ประกอบกิจการ โรงพยาบาลเอกชนมากว่า 30 ปี โดยมีโรงพยาบาลในเครือ 3 แห่ง คือ โรงพยาบาลมุกดาหาร อินเตอร์เนชั่นแนล โรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในจังหวัดมุกดาหาร โรงพยาบาลนายแพทย์หาญ โรงพยาบาลเอกชนแห่งแรกในจังหวัดยโสธร และ โรงพยาบาลรวมแพทย์ยโสธร มีจำนวนเตียงรวม 148 เตียง ให้บริการการรักษาอย่างครบวงจร ครอบคลุมกว่า 16 ศูนย์การแพทย์และคลินิก และมีทีมแพทย์ที่มี ความชำนาญในการรักษาโรคที่ซับซ้อน เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดโรคหัวใจ มะเร็ง โรคไต เบาหวาน รวมถึงรักษาโรคทั่วไป โดยให้บริการผู้ป่วยทั้ง 4 กลุ่มคือ 1. กลุ่มลูกค้าเงินสด 2. กลุ่มลูกค้าบริษัทประกันภัย 3. กลุ่มลูกค้าผู้ใช้สวัสดิการภาครัฐ และ 4. ผู้ป่วยจากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ประเทศสปป. ลาว โดยโรงพยาบาลของบริษัทยังได้รับรองคุณภาพ และมาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ Hospital Accreditation (HA) ขั้นที่ 2 จากสถาบันรับรอง คุณภาพสถานพยาบาล (องค์กรมหาชน)

สำหรับผลการดำเนินงานงวดหกเดือน ประจำปี 2568 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568) ทำรายได้รวม 236.71 ล้านบาท ใกล้เคียงกับ ช่วงเดียวกันของปี 2567 ที่มีรายได้ 240.54 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 20.67 ล้านบาท คิดอัตราเติบโตเป็น 169.24 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2567 มีกำไรสุทธิ 7.68 ล้านบาท โดยมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 40.00 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และหลังหักสำรองต่าง ๆ. -513-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]