โตเกียว 8 ส.ค. – ประชากรญี่ปุ่นลดลงต่อเนื่อง หลังจากข้อมูลพบว่า มีคนตายในญี่ปุ่นมากกว่าเด็กเกิดใหม่ถึงเกือบ 1 ล้านคน จนประชากรญี่ปุ่นลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 67 ปี
กระทรวงกิจการภายในของญี่ปุ่นเผยข้อมูลล่าสุดว่า จำนวนประชากรญี่ปุ่นในปีที่แล้วลดลง 908,574 คน เป็นการลดลงรายปีมากเป็นประวัติการณ์ ลดลงมากกว่า 900,000 คนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2501 และลดลงติดต่อกันปีที่ 16 ทำให้ตอนนี้ เหลือประชากรในญี่ปุ่นประมาณ 121 ล้านคน ข้อมูลยังระบุว่า ปีที่แล้วมีเด็กเกิดใหม่ในญี่ปุ่นเพียง 686,061 คน ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2442 แต่กลับมีผู้เสียชีวิตตลอดทั้งปีมากถึง 1.6 ล้านคน เท่ากับทุกๆ เด็กเกิดใหม่ในญี่ปุ่น 1 คนจะมีคนตายเกินกว่า 2 คน
ข้อมูลยังพบด้วยว่า ประชากรในกรุงโตเกียวและจังหวัดชิบะเพิ่มขึ้นทุกปี จังหวัดอื่นอีก 45 จังหวัดมีจำนวนลดลง ขณะเดียวกัน จำนวนชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในญี่ปุ่นมีจำนวนมากกว่า 3.677 ล้านคน เพิ่มขึ้นประมาณ 354,100 คนจากปีก่อนหน้า คิดเป็นร้อยละ 3 ของคนในญี่ปุ่นทั้งประเทศ ขณะที่ทั้งจำนวนและการเพิ่มขึ้นของชาวต่างชาติถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกข้อมูลในปี 2556
รัฐบาลญี่ปุ่นเผชิญปัญหาประชากรวัยทำงานลดลงต่อเนื่องมาหลายปี กระทบต่อการจ้างงาน ระบบสาธารณสุขและระบบเงินบำนาญของประเทศ ทำให้ต้องเดินหน้าผลักดันนโยบายจ้างแรงงานต่างชาติเข้ามารองรับตำแหน่งงานที่ขาดแคลน เนื่องจากจำนวนประชากรในวัยทำงาน หรืออายุระหว่าว 15-64 ปีในญี่ปุ่นลดลงเหลือราวร้อยละ 60 ของประชากรทั้งประเทศ ขณะที่กลุ่มผู้สูงวัยที่อายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไปพุ่งขึ้นเกือบแตะร้อยละ 30 แม้รัฐบาลญี่ปุ่นจะเร่งดำเนินมาตรการต่างๆ เพื่อเพิ่มจำนวนเด็กเกิดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการให้เงินอุดหนุนเรื่องบ้าน ให้พนักงานลางานเลี้ยงลูกได้โดยยังได้รับค่าจ้าง แต่ปัญหาค่าครองชีพสูง ค่าจ้างทรงตัว และวัฒนธรรมการทำงานในประเทศที่เข้มงวดตายตัว เป็นอุปสรรคต่อคนรุ่นใหม่ที่คิดจะลงหลักปักฐานสร้างครอบครัว.-815.-สำนักข่าวไทย