อุบลราชธานี 7 ส.ค.- อัลจาซีรา ซึ่งเป็นสื่ออาหรับที่ให้บริการข่าวภาษาอังกฤษ ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีของไทย สำรวจผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนจากเหตุความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา
ผู้สื่อข่าวของอัลจาซีรารายงานอ้างคำกล่าวของนายวสวรรธน์ พวงพรศรี สส. จังหวัดอุบลราชธานีและคณะเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมว่า สถานการณ์ยังไม่แน่นอนและสามารถเกิดเหตุการณ์ปะทุขึ้นได้ตลอดเวลา ขณะนี้กำลังทหารจำนวนมากทั้งของไทยและกัมพูชาประจำการอยู่ห่างกันราว 50 เมตร รอบด่านช่องอานม้า ในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี
อัลจาซีรารายงานว่า ความตึงเครียดยังคงดำเนินอยู่ในขณะที่คณะเจ้าหน้าที่ไทยและกัมพูชากำลังหารือกันที่มาเลเซียมาตั้งแต่วันที่ 4 สิงหาคม โดยจะมีผู้สังเกตการณ์จากมาเลเซีย สหรัฐและจีนเข้าร่วมในวันนี้ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการหารือ เพื่อให้ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้อย่างจริงจัง ตามที่ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม หลังจากปะทะกันมา 5 วัน สถานการณ์ขณะนี้ทำให้คนไทยประมาณ 20,000 คนในจังหวัดอุบลราชธานีที่ถูกโจมตีเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมยังไม่สามารถกลับบ้านได้ และหวังให้ผลการเจรจาที่มาเลเซียนำมาซึ่งเสถียรภาพ

ชาวบ้านเปิดเผยว่า เฝ้าระวังระดับสูงตั้งแต่ทหารของทั้ง 2 ฝ่ายปะทะกันเมื่อเดือนพฤษภาคมที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต 1 นาย และความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง 2 ประเทศเสื่อมถอยลง สตรีคนหนึ่งที่อาศัยวัดเป็นที่หลบภัยมานานกว่า 10 วันแล้วเล่าว่า กำลังให้อาหารเป็ดในวันที่มีจรวดยิงเข้ามา และในช่วงที่เธอกำลังเก็บข้าวของก็เห็นระเบิดตกเต็มทุ่งนา เพื่อนสนิทคนหนึ่งของเธอเสียชีวิตจากจรวดที่พุ่งมาตกที่บ้าน
อัลจาซีรารายงานด้วยว่า นายฮุน เซน อดีตผู้นำยาวนานของกัมพูชากล่าวอ้างเมื่อวันที่ 3 สิงหาคมว่า ไทยเตรียมโจมตีครั้งใหม่ในเร็ว ๆ นี้ ทั้งที่เป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงแต่อย่างใด แม้นายฮุน เซน ได้ส่งมอบอำนาจในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้นายฮุน มาเนต ผู้เป็นบุตรชายในปี 2566 แต่คนส่วนใหญ่ยังคงมองว่า เขายังคงเป็นผู้มีอำนาจตัวจริงและเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องต่าง ๆ.-814.-สำนักข่าวไทย