“พล.อ.ณัฐพล” แจ้งกัมพูชาเร่งมาเก็บศพทหาร หวั่นโรคระบาด

ทำเนียบ 4 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” ยืนยันดูแลทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวอย่างดี พร้อมเปิดให้องค์การระหว่างประเทศร่วมตรวจสอบ ขอให้ประชาชนมั่นใจการประชุม GBC เชื่อจะทำอย่างรอบคอบ ยึดผลประโยชน์ประเทศ พร้อมแจ้ง รมต.กลาโหมกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหารกัมพูชา หวั่นทิ้งไว้นานอาจเกิดโรคระบาด

พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ในการประชุม GBC ที่เริ่มขึ้นในวันนี้  เราได้มีการเตรียมแนวทางที่จะไปประชุมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ได้เสนอให้ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา เพื่อให้เห็นชอบ จากนั้น ก็ได้มาเตรียมการในเช้าวันเสาร์ ประกอบกับในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางมาเลเซียได้ติดต่อขอประชุม 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ไทย และกัมพูชา แต่ในการประชุม 3 ฝ่าย ไม่ได้มีการลงประเด็น โดยไทยตอบเพียงในเรื่องหลักการ และในวันอาทิตย์ก็ได้คุยกับเหล่าทัพว่า ยืนยันและรับได้หรือไม่ รับได้ไหม พอใจไหม สบายใจไหม เหล่าทัพก็สบายใจ และกองเลขาฯ ก็ไปประชุม GBC ซึ่งจะใช้เวลาประชุมในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม และในวันที่ 6 สิงหาคม ตนได้สั่งกองเลขาฯ ว่า ให้ประชุมครึ่งวัน และนำประเด็นกลับมา เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติอีกครั้งหนึ่ง และในวันที่ 7 สิงหาคม ตนจึงจะไปสรุป ลงนาม เพื่อความรอบคอบ


พล.อ.ณัฐพล ยังเผยว่า ในการประชุมรัฐมนตรีกลาโหม 3 ฝ่าย ได้ชี้แจงเรื่องเชลยศึกว่า เราได้ควบคุมอย่างดีตามอนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 1 และให้ ICRC องค์กรระหว่างประเทศเข้าไปดูและมีความพอใจว่า เราดูแลตามอนุสัญญาเรียบร้อย หลักการของเรา คือ จะปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อจบเหตุการณ์แล้ว จะได้โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ว่าใครจะมาตรวจสอบก็มีแต่ความถูกต้อง ที่ตนเป็นห่วง ก็คือ พี่น้องประชาชนบางส่วนอาจไม่สบายใจว่า เป็นสุภาพบุรุษเกินไป แต่จะทำให้เราอยู่ได้ ไม่ถูกตำหนิจากนานาประเทศ

และอีกเรื่องที่หารือในวันนั้น คือ จากปฏิบัติการที่ผ่านมา มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตบริเวณหน้าแนวฝ่ายเราจำนวนมากในพื้นที่กัมพูชา ส่วนในพื้นที่ของไทยเรา เราได้ดำเนินการรวบรวมและส่งกลับอย่างสมเกียรติ คือ เราปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศทุกอย่าง


“แต่ก็เสียใจอยู่นิดหนึ่งแทนทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตที่ทางรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธว่า ไม่ใช่ จะใช่หรือไม่ใช่ แต่นั่นคือคนกัมพูชาที่มาเสียชีวิตในฝั่งเรา เราก็ส่งคืนอย่างสมเกียรติตามหลักของสัญญาเจนีวา แต่ที่ห่วงใยและผมได้พูดกับรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตจำนวนมากที่อยู่หน้าแนว ยังไม่ได้รับการเก็บกลับไป เราได้แจ้งไปยังรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาว่า อยากให้มาทำการเก็บศพ ถูกต้องตามสุขลักษณะ สมเกียรติ ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นทหาร ผมเป็นทหาร กองทัพไทย ถึงแม้จะเป็นคู่กรณีกันก็ตาม แต่เมื่อเสียชีวิตแล้วต้องให้เกียรติ ต้องดำเนินการอย่างสมศักดิ์ศรี เมื่อเราเห็นสภาพของทหารกัมพูชาที่อยู่ข้างหน้าเรา เห็นทุกวัน พอตรวจการไปก็เจอ เลยได้ย้ำกับรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา อยากให้เร่งมาเก็บ ถ้าทิ้งไว้นานก็อาจจะเกิดโรคระบาดได้ ประชาชนของกัมพูชาที่อยู่บริเวณนั้นก็อาจได้รับเชื้อ และศักดิ์ศรีความเป็นทหาร ทหารด้วยกันเราเคารพกัน เคารพศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน ยามที่เขาเสียชีวิต เราจะไม่ทำอะไรที่หมิ่นศักดิ์ศรีเขา และอะไรก็ตามที่ทำให้เขาได้รับการดูแลอย่างสมเกียรติ เราจะทำ” พลเอก ณัฐพล กล่าวและว่า ขอให้สื่อมวลชนช่วยสื่อไปยังรัฐบาลกัมพูชา อยากให้ดูแลทหารกัมพูชาที่เสียชีวิต ซึ่งมีจำนวนมาก

เมื่อถามถึงการที่ส่งศพทหารกัมพูชาไปแล้ว เขาไม่รับ จะทำอย่างไรต่อ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ตอนนี้รับแล้ว แต่ปฏิเสธว่า ไม่ใช่ ซึ่งก็น่าเสียใจว่า กำลังพลหรือทหารที่เสียชีวิต ถ้าวิญญาณเขารับรู้ได้ เขาคงเสียใจ

สำหรับกรอบการเจรจา GBC วางเป้าหมายไว้จะออกมาทิศทางอย่างไร พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ทิศทางบรรยากาศดีขึ้น ประเทศไทยไม่เสียประโยชน์ และขอให้สื่อและประชาชนมั่นใจได้ว่า เราจะทำอย่างเต็มขีดความสามารถ คณะที่ไป ประกอบด้วย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย เหล่าทัพทั้งหมด ตั้งแต่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้แทน ผบ.ทบ. ผู้แทน ผบ.ทร. และผู้แทน ผบ.ทอ. ไปร่วมประชุมด้วย การประชุมจะผ่านการพิจารณาอย่างรอบด้านจากทุกฝ่าย เพราะฉะนั้น ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล ฝ่ายความมั่นคงก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีตัวแทนจากเหล่าทัพไป 4-5 คน และมีตนเป็นประธานไป ฝ่ายการต่างประเทศก็ไม่ต้องกังวล เพร่ะมีกระทรวงการต่างประเทศไปด้วย กระทรวงมหาดไทยที่ดูแลพี่น้องประชาชนก็ไม่ต้องกังวล มีกระทรวงมหาดไทยไปด้วย คือ เราจะพิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนไปก็ให้สภาความมัานคงแห่งชาติเห็นชอบ แม้ประชุมแล้ว ก่อนเข้า GBC รอบสุดท้าย ก็กลับมาให้สภาความมั่นคงแห่งชาติเห็นชอบ เราไม่ได้ทำโดยพลการ เพราะฉะนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในคณะของตน ถึงแม้จะไม่ค่อยเชื่อมั่นในตนก็ตาม แต่ขอให้เชื่อมั่นในคณะที่ไปว่า เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีความรับผิดชอบ และที่ตนยืนยันได้ ก็คือ มีความรักชาติ เห็นแก่ผลประโยชน์ของชาติ


ส่วนเรื่องโดรนที่ประชาชนกังวลในหลายพื้นที่ว่า เป็นของฝั่งไหน พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ตอนนี้ปนกันอยู่ แต่ที่จำนวนมากเป็นของกัมพูชาบินล้ำเข้ามา ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานและทำบันทึก และตนจะเสนอเข้าที่ประชุม ศบ.ทก. เรามีภาพ พิกัดว่า ที่เขาล้ำเข้ามา ขณะเดียวกันก็มีคนไทยบางส่วนที่ไม่รู้วัตถุประสงค์ของเขา แต่ปัจจุบัน กสทช.ได้ห้ามบินโดรนทั่วประเทศ และการที่ พลโทหญิง มาลี โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พูดว่า เห็นโดรนบินล้ำเข้าไปในประเทศกัมพูชา ส่วนตัวมั่นใจว่า เขาเห็นโดรนของกัมพูชาที่บินกลับจากล้ำประเทศไทย โดรนเขาเองที่บินกลับไป ซึ่งแสดงถึงวุฒิภาวะของเขา พูดเองก็เสียเอง จริง ๆ คนไทยก็เห็นหมด

เมื่อถามต่อว่า ได้มีการตรวจสอบฐานบินของโดรน ถ้ามีการบินมาจากฝั่งกัมพูชา มีการสกัดจากชายแดนหรือไม่ หรือมีฐานอยู่ในประเทศไทย พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ขอไม่พูดในรายละเอียด เรื่องนี้มอบหมายให้กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ

เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนในขณะนี้ ยังเปราะบางอยู่หรือไม่ ประชาชนยังต้องอยู่ในศูนย์อพยพหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ถ้าถามว่า เปราะบางไหม คือเปราะบางจากข่าวปลอม พร้อมยกตัวอย่าง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่มีข่าวปลอมว่า ที่จังหวัดศรีสะเกษ ทหารไทยจะปฏิบัติการให้ประชาชนเข้าที่ปลอดภัย ซึ่งก็ไม่เป็นความจริง พอตรวจสอบกับกองทัพก็แจ้งว่า ไม่ได้ทำอะไร ซึ่งเราเคารพผลการเจรจาหยุดยิง และเข้าใจว่า ฝ่ายกัมพูชาก็อาจจะได้ข่าวปลอมนี้เหมือนกัน พอวันอาทิตย์ เขาจึงเอาข่าวปลอมนี้มาตั้งเป็นเรื่องว่า ฝ่ายไทยได้มีการเตรียมการ เขาก็เลยเตรียมการ สักวันหนึ่งก็อาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน ทั้งที่เป็นเรื่องไม่น่าจะเกิดขึ้น ดังนั้น ตอนนี้ก็ถือว่า ยังเปราะบางจากข่าวปลอม

“ผมอยากจะฝากถึงสื่อมวลชนทุกท่าน ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่า ในยามนี้พวกเราต้องรวมใจเป็นหนึ่ง แค่ข่าวปลอมของกัมพูชา เราก็ต้องมานั่งแก้ปัญหา และมาเจอข่าวปลอมของเราอีก ทำให้ฝ่สยความมัานคงหนักใจมาก อยากให้สื่อมวลชนได้ช่วยกันและทำความเข้าใจพี่น้องประชาชน เข้าใจว่า พี่น้องประชาชนห่วง อยากจะช่วย ถ้าในสถานการณ์อย่างนี้อยากจะช่วย คือ ให้ฟังศบ.ทก.เป็นหลักว่า อาจจะช้า แต่เราต้องตรวจสอบให้ถูกต้อง ต้องไม่เสียเครดิตในนานาประเทศ ไม่เสียเครดิตกันเอง ศบ.ทก.พูดอะไรต้องใช่ ถ้าเมื่อไรก็ตามเรารีบตอบว่า ไม่ใช่ ก็จะทยอยขาดความน่าเชื่อถือ ดังนั้น สื่อต้องเห็นใจ การตอบต้องตรวจสอบก่อน แต่ในส่วนของสื่อสามารถช่วยได้คือ ตอบไปก่อน มาลีพูดมา สื่อโต้ไปก่อน แล้วรอศบ.ทก.ตรวจสอบและชี้แจง ไม่ใช่ว่า พอมาลีพูดมา สื่อหันมาด่ากองทัพว่า ทำไมไม่ตอบโต้ ซึ่งจะทำให้กองทัพขาดความน่าเชื่อถือ แล้วไปต่อปากต่อคำกับคนอย่างนั้น” พลเอก ณัฐพล กล่าว

ส่วนการประเมินสถานการณ์หลังประชุม GBC แล้ว น่ากังวลหรือไม่ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ถ้าเขาเคารพผลการประชุม GBC ก็ไม่น่ากังวล แต่ยอมรับว่า จากประสบการณ์การรับราชการมาตลอดชีวิต ตนเพิ่งเจอคู่กรณีที่รับมือยากมาก เขาพูดอย่าง ทำอย่าง มันไม่ใช่วิสัยตน ตนยอมรับคำตำหนิ ตนคิดไม่ทันเขาจริง ๆ เขาพูดแบบนี้ เขาจะทำอะไร ตนไม่ค่อยถนัด ขอความเห็นใจ ซึ่งต้องมองตามหลักการว่า ประเด็นที่คุยกันไว้ ถ้าตกลงแล้วก็น่าจะดีขึ้น มันไม่ได้ตกลงแล้วจะจบทุกเรื่อง จะค่อย ๆ ลงไปทีละขั้น ๆ ไม่ใช่ไปประชุม GBC คราวนี้ แล้วจบทุกเรื่อง แต่จะเป็นตัวชี้วัดว่า ถ้าทำสเต็ปนี้ เขาให้ความร่วมมือ ก็จะไปสเต็ปต่อไป ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป เราก็กังวลเหมือนกัน เราต้องประเมินท่าทีเขาว่า เขามีความจริงใจสู่สันติหรือไม่ เราต้องค่อย ๆ ทำ GBC เอาแค่ไหน ซึ่งตนมองว่า ส่วนใหญ่จะมอบให้ RBC พูดต่อ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกองทัพและดำเนินการ แต่ไม่ใช่การโยนภาระให้กองทัพ ขอให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนสบายใจได้

เมื่อถามถึงประเด็น 18 เชลยศึก พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า เราดูแลอย่างดี เราต้องสอบสวน จริงๆ แล้ว ถ้ามีความไว้ใจกัน 100% เราอาจจะส่งได้เร็วกว่านี้ ความไม่ไว้ใจ บิดเบือนทุกวัน เราก็ต้องสอบสวน บันทึกข้อมูลหลักฐานให้ครบถ้วน รอบด้าน ถ้าส่งกลับไปแล้วเขาจะบิดเบือนอย่างไร เราจะตอบอย่างไร ตอนที่เขาอยู่กับเราเราต้องบันทึกคำให้การณ์ไว้ทั้งหมด จะได้ตอบได้ในภายหลัง เราจะไม่ทำให้เขาได้รับผลกระทบทางด้านร่างกาย จิตใจ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นอันขาด พร้อมย้ำ ต้องทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ ในฐานะเป็นคู่เจรจา จะมัวไปต่อปากต่อคำ บรรยากาศการเจรจาจะเป็นอย่างไร ดังนั้น ต้องเห็นใจตนด้วย.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

สำนักโฆษก กห. พาย้อนเหตุการณ์ยุคเขมรแดงปี 1979-1980

4 ส.ค.- เตือนความจำเขมร! สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์ย้อนเหตุการณ์ไทยช่วยเขมร ยุคเขมรแดง ปี 1979-1980 เปิดประตูรับคนเขมรเป็นที่พึ่งสุดท้าย-เปิดค่ายพักพิงแบบไม่ลังเล วันนี้(4 ส.ค.2568) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจสำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม ได้เผยแพร่ข้อมูลการช่วยเหลือของฝ่ายไทยที่มีต่อชาวกัมพูชาในยุคเขมรแดง โดยข้อความระบุว่า จากคนที่หนีตายสู่คนที่หันปากกระบอกปืนกลับมา” เมื่อ ‘เขมร’ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้ ปี 𝟏𝟗𝟕𝟗… ชาวกัมพูชานับแสน นับล้าน วิ่งหนีตายจากนรกบนดินที่ชื่อว่า “เขมรแดง” ข้ามพรมแดนมายังไทย ในสภาพหมดเรี่ยวแรง หิวโหย และเกือบสิ้นลมหายใจ คนไทยเปิดประตูให้เขาพักพิง ตอนนั้นประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “เพื่อนบ้าน” แต่กลายเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” เราส่งอาหาร เราเปิดค่ายพักพิง เราช่วยเหลือทั้งในนามรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ยอมแบ่งข้าวเพียงคำเดียวให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา การอพยพที่ไม่มีแผนที่เริ่มตั้งแต่ต้นปี 𝟏𝟗𝟕𝟗 จนถึงต้นยุค 𝟏𝟗𝟖𝟎𝐬 มีชาวกัมพูชาจำนวนมหาศาล บางแหล่งบอกว่ารวมกันถึง 𝟔 แสนถึง 𝟖 แสนคน อพยพอย่างไร้ทิศทางบางคนเดินเท้าเป็นร้อยกิโลเมตรจากกลางประเทศกัมพูชา หลายคนไร้เอกสาร ไม่มีอาหาร ไม่มีเป้าหมาย […]

กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศ

ก.ต่างประเทศ 4 ส.ค.-กต. จัดบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา คาดแจงข้อมูลที่บิดเบือน หลังกัมพูชาปล่อยเฟคนิวส์ต่อเนื่อง ด้าน “มาริษ” ย้ำไทยไม่ได้เริ่มก่อน ยึดแก้ปัญหาผ่านกลไกทวิภาคี เรียกร้องกัมพูชายึดหลักสันติวิธี-จริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานบรรยายสรุปแก่คณะทูตและองค์การระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับ นายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออก และ นางสาวพินทุ์สุดา ชัยนาม อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเป็นการชี้แจงข้อเท็จจริงภายหลังจากที่ฝ่ายกัมพูชามีการให้ข้อมูลที่บิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ก่อนการบรรยาย นายมาริษ กล่าวเปิดโดยขอบคุณผู้ที่เข้าร่วมรับฟังการบรรยายในวันนี้ พร้อมชี้แจงถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และท่าทีของไทยต่อกรณีดังกล่าว โดยตนตั้งใจจะแบ่งการบรรยายเป็น 2 ประเด็นหลัก คือ 1. การเจรจาหยุดยิงที่มาเลเซียเมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งไทยขอประท้วงต่อฝ่ายกัมพูชากรณีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยชนและใช้ความรุนแรง โดยมีเป้าหมายแบบไม่เลือกเป้าและโจมตีไปที่พลเรือน รวมถึงการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งขัดต่อหลักการของอนุสัญญาออตโตวา ในขณะที่ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัด จึงหวังเป็นอย่างยิ่งให้กัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงดังกล่าวอย่างจริงใจด้วยเช่นกัน ภายใต้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ ส่วนประเด็นที่ 2 คือการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ GBC ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคม […]

EOD ทำลายวัตถุระเบิด ใกล้ปั๊มน้ำมันบ้านผือ จ.ศรีสะเกษ 

ศรีสะเกษ 4 ส.ค. – เจ้าหน้าที่อีโอดีเก็บกู้จรวด BM 21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาตกและฝังอยู่ในพื้นถนนกันทรลักษ์อีกจุด ใกล้กับปั๊มน้ำมันที่ถูกกัมพูชายิงใส่วันที่ 24 ก.ค. เช่นเดียวกัน บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บวัตถุระเบิดหรือ EOD จากตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ ตำรวจ ตชด.ที่22 อุบลราชธานี และเจ้าหน้าที่จากศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ ศูนย์บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย หรือ TMAC เข้าเตรียมความพร้อมเพื่อเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิดแรงสูง ประเภท BM21 ที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่ แล้วตกลงไปฝังอยู่ในถนน กันทรลักษ์-เขาพระวิหาร ในพื้นที่ อำเภอกันทรลักษ์ เป็นจรวด BM 21 ที่ถูกยิงมาในวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ร้านสะดวกซื้อภายในปั๊ม ปตท. บ้านผือ ระเบิดจุดนี้ อยู่ห่างจากปั๊ม ปตท. บ้านผือ ประเมาณ 500 เมตร และห่างจากจุดที่มีการเก็บกู้ จรวดบีเอ็ม 21 บนถนนกันทรลักษ์ลูกแรก ในวันที่ 2 สิงหาคม […]

“พล.อ.ณัฐพล” แจ้งกัมพูชาเร่งมาเก็บศพทหาร หวั่นโรคระบาด

ทำเนียบ 4 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” ยืนยันดูแลทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวอย่างดี พร้อมเปิดให้องค์การระหว่างประเทศร่วมตรวจสอบ ขอให้ประชาชนมั่นใจการประชุม GBC เชื่อจะทำอย่างรอบคอบ ยึดผลประโยชน์ประเทศ พร้อมแจ้ง รมต.กลาโหมกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหารกัมพูชา หวั่นทิ้งไว้นานอาจเกิดโรคระบาด พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ในการประชุม GBC ที่เริ่มขึ้นในวันนี้  เราได้มีการเตรียมแนวทางที่จะไปประชุมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ได้เสนอให้ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา เพื่อให้เห็นชอบ จากนั้น ก็ได้มาเตรียมการในเช้าวันเสาร์ ประกอบกับในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางมาเลเซียได้ติดต่อขอประชุม 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ไทย และกัมพูชา แต่ในการประชุม 3 ฝ่าย ไม่ได้มีการลงประเด็น โดยไทยตอบเพียงในเรื่องหลักการ และในวันอาทิตย์ก็ได้คุยกับเหล่าทัพว่า ยืนยันและรับได้หรือไม่ รับได้ไหม พอใจไหม สบายใจไหม เหล่าทัพก็สบายใจ และกองเลขาฯ ก็ไปประชุม GBC ซึ่งจะใช้เวลาประชุมในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม และในวันที่ […]