“พล.อ.ณัฐพล” แจ้งกัมพูชาเร่งมาเก็บศพทหาร หวั่นโรคระบาด

ทำเนียบ 4 ส.ค.- “พล.อ.ณัฐพล” ยืนยันดูแลทหารกัมพูชาที่ถูกควบคุมตัวอย่างดี พร้อมเปิดให้องค์การระหว่างประเทศร่วมตรวจสอบ ขอให้ประชาชนมั่นใจการประชุม GBC เชื่อจะทำอย่างรอบคอบ ยึดผลประโยชน์ประเทศ พร้อมแจ้ง รมต.กลาโหมกัมพูชา เร่งมาเก็บศพทหารกัมพูชา หวั่นทิ้งไว้นานอาจเกิดโรคระบาด

พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ว่า ในการประชุม GBC ที่เริ่มขึ้นในวันนี้  เราได้มีการเตรียมแนวทางที่จะไปประชุมตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ได้เสนอให้ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติพิจารณา เพื่อให้เห็นชอบ จากนั้น ก็ได้มาเตรียมการในเช้าวันเสาร์ ประกอบกับในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางมาเลเซียได้ติดต่อขอประชุม 3 ฝ่าย ซึ่งประกอบไปด้วย รัฐมนตรีกลาโหมมาเลเซีย ไทย และกัมพูชา แต่ในการประชุม 3 ฝ่าย ไม่ได้มีการลงประเด็น โดยไทยตอบเพียงในเรื่องหลักการ และในวันอาทิตย์ก็ได้คุยกับเหล่าทัพว่า ยืนยันและรับได้หรือไม่ รับได้ไหม พอใจไหม สบายใจไหม เหล่าทัพก็สบายใจ และกองเลขาฯ ก็ไปประชุม GBC ซึ่งจะใช้เวลาประชุมในช่วงวันที่ 4-6 สิงหาคม และในวันที่ 6 สิงหาคม ตนได้สั่งกองเลขาฯ ว่า ให้ประชุมครึ่งวัน และนำประเด็นกลับมา เพื่อเสนอเข้าสู่ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติอีกครั้งหนึ่ง และในวันที่ 7 สิงหาคม ตนจึงจะไปสรุป ลงนาม เพื่อความรอบคอบ


พล.อ.ณัฐพล ยังเผยว่า ในการประชุมรัฐมนตรีกลาโหม 3 ฝ่าย ได้ชี้แจงเรื่องเชลยศึกว่า เราได้ควบคุมอย่างดีตามอนุสัญญาเจนีวา ฉบับที่ 1 และให้ ICRC องค์กรระหว่างประเทศเข้าไปดูและมีความพอใจว่า เราดูแลตามอนุสัญญาเรียบร้อย หลักการของเรา คือ จะปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามกฎหมาย เมื่อจบเหตุการณ์แล้ว จะได้โปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ว่าใครจะมาตรวจสอบก็มีแต่ความถูกต้อง ที่ตนเป็นห่วง ก็คือ พี่น้องประชาชนบางส่วนอาจไม่สบายใจว่า เป็นสุภาพบุรุษเกินไป แต่จะทำให้เราอยู่ได้ ไม่ถูกตำหนิจากนานาประเทศ

และอีกเรื่องที่หารือในวันนั้น คือ จากปฏิบัติการที่ผ่านมา มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตบริเวณหน้าแนวฝ่ายเราจำนวนมากในพื้นที่กัมพูชา ส่วนในพื้นที่ของไทยเรา เราได้ดำเนินการรวบรวมและส่งกลับอย่างสมเกียรติ คือ เราปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศทุกอย่าง


“แต่ก็เสียใจอยู่นิดหนึ่งแทนทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตที่ทางรัฐบาลกัมพูชาปฏิเสธว่า ไม่ใช่ จะใช่หรือไม่ใช่ แต่นั่นคือคนกัมพูชาที่มาเสียชีวิตในฝั่งเรา เราก็ส่งคืนอย่างสมเกียรติตามหลักของสัญญาเจนีวา แต่ที่ห่วงใยและผมได้พูดกับรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา ทหารกัมพูชาที่เสียชีวิตจำนวนมากที่อยู่หน้าแนว ยังไม่ได้รับการเก็บกลับไป เราได้แจ้งไปยังรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาว่า อยากให้มาทำการเก็บศพ ถูกต้องตามสุขลักษณะ สมเกียรติ ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นทหาร ผมเป็นทหาร กองทัพไทย ถึงแม้จะเป็นคู่กรณีกันก็ตาม แต่เมื่อเสียชีวิตแล้วต้องให้เกียรติ ต้องดำเนินการอย่างสมศักดิ์ศรี เมื่อเราเห็นสภาพของทหารกัมพูชาที่อยู่ข้างหน้าเรา เห็นทุกวัน พอตรวจการไปก็เจอ เลยได้ย้ำกับรัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชา อยากให้เร่งมาเก็บ ถ้าทิ้งไว้นานก็อาจจะเกิดโรคระบาดได้ ประชาชนของกัมพูชาที่อยู่บริเวณนั้นก็อาจได้รับเชื้อ และศักดิ์ศรีความเป็นทหาร ทหารด้วยกันเราเคารพกัน เคารพศักดิ์ศรีซึ่งกันและกัน ยามที่เขาเสียชีวิต เราจะไม่ทำอะไรที่หมิ่นศักดิ์ศรีเขา และอะไรก็ตามที่ทำให้เขาได้รับการดูแลอย่างสมเกียรติ เราจะทำ” พลเอก ณัฐพล กล่าวและว่า ขอให้สื่อมวลชนช่วยสื่อไปยังรัฐบาลกัมพูชา อยากให้ดูแลทหารกัมพูชาที่เสียชีวิต ซึ่งมีจำนวนมาก

เมื่อถามถึงการที่ส่งศพทหารกัมพูชาไปแล้ว เขาไม่รับ จะทำอย่างไรต่อ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ตอนนี้รับแล้ว แต่ปฏิเสธว่า ไม่ใช่ ซึ่งก็น่าเสียใจว่า กำลังพลหรือทหารที่เสียชีวิต ถ้าวิญญาณเขารับรู้ได้ เขาคงเสียใจ

สำหรับกรอบการเจรจา GBC วางเป้าหมายไว้จะออกมาทิศทางอย่างไร พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ทิศทางบรรยากาศดีขึ้น ประเทศไทยไม่เสียประโยชน์ และขอให้สื่อและประชาชนมั่นใจได้ว่า เราจะทำอย่างเต็มขีดความสามารถ คณะที่ไป ประกอบด้วย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย เหล่าทัพทั้งหมด ตั้งแต่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้แทน ผบ.ทบ. ผู้แทน ผบ.ทร. และผู้แทน ผบ.ทอ. ไปร่วมประชุมด้วย การประชุมจะผ่านการพิจารณาอย่างรอบด้านจากทุกฝ่าย เพราะฉะนั้น ทุกฝ่ายไม่ต้องกังวล ฝ่ายความมั่นคงก็ไม่ต้องกังวล เพราะมีตัวแทนจากเหล่าทัพไป 4-5 คน และมีตนเป็นประธานไป ฝ่ายการต่างประเทศก็ไม่ต้องกังวล เพร่ะมีกระทรวงการต่างประเทศไปด้วย กระทรวงมหาดไทยที่ดูแลพี่น้องประชาชนก็ไม่ต้องกังวล มีกระทรวงมหาดไทยไปด้วย คือ เราจะพิจารณาอย่างรอบคอบ ก่อนไปก็ให้สภาความมัานคงแห่งชาติเห็นชอบ แม้ประชุมแล้ว ก่อนเข้า GBC รอบสุดท้าย ก็กลับมาให้สภาความมั่นคงแห่งชาติเห็นชอบ เราไม่ได้ทำโดยพลการ เพราะฉะนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในคณะของตน ถึงแม้จะไม่ค่อยเชื่อมั่นในตนก็ตาม แต่ขอให้เชื่อมั่นในคณะที่ไปว่า เป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถ มีความรับผิดชอบ และที่ตนยืนยันได้ ก็คือ มีความรักชาติ เห็นแก่ผลประโยชน์ของชาติ


ส่วนเรื่องโดรนที่ประชาชนกังวลในหลายพื้นที่ว่า เป็นของฝั่งไหน พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ตอนนี้ปนกันอยู่ แต่ที่จำนวนมากเป็นของกัมพูชาบินล้ำเข้ามา ซึ่งทางกองทัพภาคที่ 2 ได้รายงานและทำบันทึก และตนจะเสนอเข้าที่ประชุม ศบ.ทก. เรามีภาพ พิกัดว่า ที่เขาล้ำเข้ามา ขณะเดียวกันก็มีคนไทยบางส่วนที่ไม่รู้วัตถุประสงค์ของเขา แต่ปัจจุบัน กสทช.ได้ห้ามบินโดรนทั่วประเทศ และการที่ พลโทหญิง มาลี โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พูดว่า เห็นโดรนบินล้ำเข้าไปในประเทศกัมพูชา ส่วนตัวมั่นใจว่า เขาเห็นโดรนของกัมพูชาที่บินกลับจากล้ำประเทศไทย โดรนเขาเองที่บินกลับไป ซึ่งแสดงถึงวุฒิภาวะของเขา พูดเองก็เสียเอง จริง ๆ คนไทยก็เห็นหมด

เมื่อถามต่อว่า ได้มีการตรวจสอบฐานบินของโดรน ถ้ามีการบินมาจากฝั่งกัมพูชา มีการสกัดจากชายแดนหรือไม่ หรือมีฐานอยู่ในประเทศไทย พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ขอไม่พูดในรายละเอียด เรื่องนี้มอบหมายให้กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ

เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนในขณะนี้ ยังเปราะบางอยู่หรือไม่ ประชาชนยังต้องอยู่ในศูนย์อพยพหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ถ้าถามว่า เปราะบางไหม คือเปราะบางจากข่าวปลอม พร้อมยกตัวอย่าง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ที่มีข่าวปลอมว่า ที่จังหวัดศรีสะเกษ ทหารไทยจะปฏิบัติการให้ประชาชนเข้าที่ปลอดภัย ซึ่งก็ไม่เป็นความจริง พอตรวจสอบกับกองทัพก็แจ้งว่า ไม่ได้ทำอะไร ซึ่งเราเคารพผลการเจรจาหยุดยิง และเข้าใจว่า ฝ่ายกัมพูชาก็อาจจะได้ข่าวปลอมนี้เหมือนกัน พอวันอาทิตย์ เขาจึงเอาข่าวปลอมนี้มาตั้งเป็นเรื่องว่า ฝ่ายไทยได้มีการเตรียมการ เขาก็เลยเตรียมการ สักวันหนึ่งก็อาจจะเกิดการกระทบกระทั่งกัน ทั้งที่เป็นเรื่องไม่น่าจะเกิดขึ้น ดังนั้น ตอนนี้ก็ถือว่า ยังเปราะบางจากข่าวปลอม

“ผมอยากจะฝากถึงสื่อมวลชนทุกท่าน ทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่า ในยามนี้พวกเราต้องรวมใจเป็นหนึ่ง แค่ข่าวปลอมของกัมพูชา เราก็ต้องมานั่งแก้ปัญหา และมาเจอข่าวปลอมของเราอีก ทำให้ฝ่สยความมัานคงหนักใจมาก อยากให้สื่อมวลชนได้ช่วยกันและทำความเข้าใจพี่น้องประชาชน เข้าใจว่า พี่น้องประชาชนห่วง อยากจะช่วย ถ้าในสถานการณ์อย่างนี้อยากจะช่วย คือ ให้ฟังศบ.ทก.เป็นหลักว่า อาจจะช้า แต่เราต้องตรวจสอบให้ถูกต้อง ต้องไม่เสียเครดิตในนานาประเทศ ไม่เสียเครดิตกันเอง ศบ.ทก.พูดอะไรต้องใช่ ถ้าเมื่อไรก็ตามเรารีบตอบว่า ไม่ใช่ ก็จะทยอยขาดความน่าเชื่อถือ ดังนั้น สื่อต้องเห็นใจ การตอบต้องตรวจสอบก่อน แต่ในส่วนของสื่อสามารถช่วยได้คือ ตอบไปก่อน มาลีพูดมา สื่อโต้ไปก่อน แล้วรอศบ.ทก.ตรวจสอบและชี้แจง ไม่ใช่ว่า พอมาลีพูดมา สื่อหันมาด่ากองทัพว่า ทำไมไม่ตอบโต้ ซึ่งจะทำให้กองทัพขาดความน่าเชื่อถือ แล้วไปต่อปากต่อคำกับคนอย่างนั้น” พลเอก ณัฐพล กล่าว

ส่วนการประเมินสถานการณ์หลังประชุม GBC แล้ว น่ากังวลหรือไม่ พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า ถ้าเขาเคารพผลการประชุม GBC ก็ไม่น่ากังวล แต่ยอมรับว่า จากประสบการณ์การรับราชการมาตลอดชีวิต ตนเพิ่งเจอคู่กรณีที่รับมือยากมาก เขาพูดอย่าง ทำอย่าง มันไม่ใช่วิสัยตน ตนยอมรับคำตำหนิ ตนคิดไม่ทันเขาจริง ๆ เขาพูดแบบนี้ เขาจะทำอะไร ตนไม่ค่อยถนัด ขอความเห็นใจ ซึ่งต้องมองตามหลักการว่า ประเด็นที่คุยกันไว้ ถ้าตกลงแล้วก็น่าจะดีขึ้น มันไม่ได้ตกลงแล้วจะจบทุกเรื่อง จะค่อย ๆ ลงไปทีละขั้น ๆ ไม่ใช่ไปประชุม GBC คราวนี้ แล้วจบทุกเรื่อง แต่จะเป็นตัวชี้วัดว่า ถ้าทำสเต็ปนี้ เขาให้ความร่วมมือ ก็จะไปสเต็ปต่อไป ค่อย ๆ เป็น ค่อย ๆ ไป เราก็กังวลเหมือนกัน เราต้องประเมินท่าทีเขาว่า เขามีความจริงใจสู่สันติหรือไม่ เราต้องค่อย ๆ ทำ GBC เอาแค่ไหน ซึ่งตนมองว่า ส่วนใหญ่จะมอบให้ RBC พูดต่อ ซึ่งเป็นหน้าที่ของกองทัพและดำเนินการ แต่ไม่ใช่การโยนภาระให้กองทัพ ขอให้สื่อมวลชนและพี่น้องประชาชนสบายใจได้

เมื่อถามถึงประเด็น 18 เชลยศึก พลเอก ณัฐพล กล่าวว่า เราดูแลอย่างดี เราต้องสอบสวน จริงๆ แล้ว ถ้ามีความไว้ใจกัน 100% เราอาจจะส่งได้เร็วกว่านี้ ความไม่ไว้ใจ บิดเบือนทุกวัน เราก็ต้องสอบสวน บันทึกข้อมูลหลักฐานให้ครบถ้วน รอบด้าน ถ้าส่งกลับไปแล้วเขาจะบิดเบือนอย่างไร เราจะตอบอย่างไร ตอนที่เขาอยู่กับเราเราต้องบันทึกคำให้การณ์ไว้ทั้งหมด จะได้ตอบได้ในภายหลัง เราจะไม่ทำให้เขาได้รับผลกระทบทางด้านร่างกาย จิตใจ และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เป็นอันขาด พร้อมย้ำ ต้องทำตัวเป็นสุภาพบุรุษ ในฐานะเป็นคู่เจรจา จะมัวไปต่อปากต่อคำ บรรยากาศการเจรจาจะเป็นอย่างไร ดังนั้น ต้องเห็นใจตนด้วย.-314.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

อพยพด่วน! พนังกั้นน้ำแตกทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์

เพชรบูรณ์ 20 ก.ย. – พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เจ้าหน้าที่เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงและอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มีรายงานว่า พนังกั้นน้ำหน้าสวนดงตาลแตก ฝั่งถนนพิทักษ์ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ทำให้น้ำทะลักท่วมเทศบาลเมืองหล่มสัก รอบที่ 2 กู้ชีพกู้ภัย รถพยาบาล ระดมกำลังเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง และอพยพประชาชนไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่เจ้าหน้าที่ประกาศห้ามรถทุกชนิดผ่าน และให้ยกของขึ้นที่สูงโดยด่วน ส่วนอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการชลประทาน พร้อมทหาร เร่งวางแบริเออร์ กระสอบทรายบริเวณสวนสาธารณะดงตาล เพื่อชะลอมวลน้ำไม่ให้เข้าในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย

“20 ชม.” แพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัดต่อมือเด็กสำเร็จ

เชียงใหม่ 20 ก.ย.- ทีมแพทย์ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ผ่าตัด 20 ชั่วโมง ต่อมือเด็กหญิงวัย 14 ปี ประสบความสำเร็จ หลังถูกฟันขาด เบื้องต้นยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด เหตุการณ์ ขณะนายจายอ้ายหม่อง หรือ นายหม่อง อันธพาลเมียนมาและพวก ถือมีดสปาต้า วิ่งเข้าไล่ฟันกลุ่มผู้เสียหาย จนได้รับบาดเจ็บ 3 คน หนึ่งในนั้น คือ ด.ญ.อายุ 14 ปี ซึ่งยกแขนขึ้นบัง ทำให้ถูกนายหม่องฟันจนข้อมือขาด เหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 17 กันยายนที่ผ่านมา บริเวณร้านซักรีดแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.หนองป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ต่อมาตำรวจตามจับคนก่อเหตุได้ทั้งหมด 15 ราย ล่าสุด รศ.นพ.นเรนทร์ โชติรสนิรมิต คณบดีคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ออกแถลงการณ์ ระบุได้รับผู้ป่วยเด็กหญิงอายุ 14 ปี ซึ่งถูกทำร้ายด้วยอาวุธมีดจนมือขวาขาดระดับข้อมือ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 […]

“นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่

อ่างทอง 20 ก.ย. – “นายกฯ อนุทิน” ลงพื้นที่อ่างทอง จังหวัดแรก ประกาศไม่ต้องลุ้น 4 เดือนยุบสภาแน่ ทำงานเต็มที่ หวังประชาชนเลือกกลับเข้ามาอีก พร้อมอวยพรวันเกิด “ภราดร” ครบ 46 ปี เจ้าตัวถึงกับคุกเข่ามอบมาลัยขอบคุณ “อนุทิน“ อ้อนชาวอ่างทอง อสม.แฟนเก่า ขอยืมตัว “ลูกแบด” ไปเป็น รมต. คุมสำนักงบฯ ตามติดตัว 24 ชั่วโมง บอกเก่งทุกเรื่อง ยกเว้นหาเมีย ขณะครอบครัว “ปริศนานันทกุล” ปลื้ม คนดังการเมืองตบเท้าแน่น “อนุทิน” ประกาศเชียร์คืนความเป็นธรรม อดีตผู้ว่าฯ อ่างทอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ใช้โอกาสก่อนลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วม เดินทางมาที่ อบจ.อ่างทอง เพื่อพบปะกับประชาชน และร่วมอวยพรวันเกิดให้กับนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อายุครบ 46 ปี ซึ่งมีครอบครัว ทั้งนายสมศักดิ์ […]

พิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 ประดิษฐานหน้าอาคารรัฐสภา

รัฐสภา 20 ก.ย.- รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) ประดิษฐานหน้าอาคาร ขนาดใหญ่กว่าพระองค์จริง 4 เท่า เมื่อเวลา 08.00 น. รัฐสภา จัดพิธีบวงสรวงอัญเชิญพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (องค์ใหม่) เพื่อประดิษฐานบนแท่นฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ ณ บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา (ถนนสามเสน) โดยมีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่1 เป็นประธานในพิธี นอกจากนี้ยังมี พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. นายชวนหลีก หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปปัตย์ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านพรรคเพื่อไทย น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ สส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และประธานกรรมการ บมจ.อสมท รวมถึงข้าราชการรัฐสภา ร่วมพิธีด้วย โดยนายไชยาและพล.อ.สวัสดิ์ ถวายพวงมาลัยและโปรยดอกไม้ที่พระบาทของพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ จากนั้นปักธูปที่เครื่องบวงสรางพร้อมโปรยดอกไม้ จากนั้นนายฉัตรชัย ปิ่นเงิน หัวหน้าโหรพราหมณ์ สำนักพระราชวัง อ่านโองการจากนั้นเชิญประธานในพิธีโปรยดอกไม้ที่โต๊ะเครื่องบวงสรวง วางพานประดับพุ่มดอกไม้ และจุด ธูป เทียน […]