นายกฯ มอบนโยบายเอกอัครราชทูต-กงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก

ถนนวิทยุ 13 มิ.ย.- “นายกฯ แพทองธาร” มอบนโยบายเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก เน้น ทำการทูตเชิงรุก ภายใต้แนวคิด “ทีมไทยแลนด์” จับมือทูตพาณิชย์ช่วยกันขายสินค้าไทยกระตุ้นเศรษฐกิจ ยึดหลักสันติ ไม่หาเรื่องใคร สื่อสารโลก “ไทย” ช่วยเหลืออะไร “กัมพูชา” บ้าง จัดการ “เฟกนิวส์” สร้างทีมโชเซียล เผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง


นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมอบนโยบายในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 ณ ห้อง Grand hall โรงแรม ดิ แอทธินี โฮเทล ถนนวิทยุ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

โดยนายกรัฐมนตรี ระบุว่า รู้สึกดีที่ได้คุ้นหน้าเอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ หลายคน แสดงว่าตนมีโอกาสเดินทางเยือนต่างประเทศแบบเป็นทางการหลายครั้ง ซึ่งล่าสุดคือ การประชุมอาเซียน ที่ได้เจอผู้นำหลายประเทศ และวันหนึ่งมีวงประชุมกว่า 20 วงประชุม สุดท้ายพูดผิดพูดถูกจนรู้สึกมึนซึ่งต้องเตรียมตัวเยอะ แต่คุ้มค่าในการสร้างความสัมพันธ์ ซึ่งเรื่องนี้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้พูดเหมือนกันว่า ทุกคนคือมนุษย์ ซึ่งมนุษย์ต้องการสร้างความสัมพันธ์แบบมนุษย์ แต่การพูดผ่านขั้นตอนทางการทูต ก็ต้องเป็นไปตามนั้น แต่ถ้าหากพูดคุยจากความเป็นเพื่อน แบบพึ่งพาพึ่งอาศัยกัน ความเป็นมนุษย์ก็จะทำให้สื่อสารกันง่าย


นายกรัฐมนตรี ยังระบุว่าอีกว่า ทั่วโลกทุกประเทศต้องเผชิญความท้าทายหลายเรื่อง เพราะฉะนั้นหลายฝ่ายต้องปรับตัว ซึ่งการทูต ก็ต้องทำการทูตเชิงรุก โดยพลังทีมไทยแลนด์ต้องออกไปคว้าโอกาสกลับเข้ามาในประเทศ เช่น การดึงดูดการลงทุน ซึ่งการทำทูตสำคัญมาก โดยการทำงานในรูปแบบ Actions plan

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงเรื่องการท่องเที่ยวในไทย ที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีนน้อยลง ซึ่งปัจจัยหนึ่งก็คือ ประเทศจีนได้ผลักดันการท่องเที่ยวภายในประเทศ และมีเรื่องของข้อมูลที่ผิดพลาด หรือ เฟกนิวส์ ซึ่งไม่สามารถไปไล่ลบข่าวเหล่านั้นได้หมด เพราะฉะนั้น รัฐบาลต้องเพิ่มข้อมูลที่ดีเข้าไปในระบบ เช่น ทำเพจข่าวส่วนตัว ส่งข้อมูลที่ถูกต้องจากกลุ่มเล็ก ๆ ที่ค่อย ๆ จะกลายเป็นกลุ่มที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งเรื่องเฟกนิวส์ที่สำคัญ คือ เรื่อง เหตุการณ์ระหว่างประเทศ ที่ต้องเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้อง เข้าไปในโลกออนไลน์ ซึ่งทุกคนต้องมีทีมทำงานด้านโชเซียลอย่างเข้มแข็ง เพราะจะเป็นสิ่งที่ช่วยรัฐบาลได้มาก จึงอยากให้มีการสื่อสารในทุกระดับของความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะเป็นทูต, รัฐมนตรี หรือผู้นำ ที่ต้องมีการสื่อสารกันให้มาก เพื่อให้เกิดความเข้าใจในทุกกลุ่ม

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำกับที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่สนับสนุนเรื่องความรุนแรง ยึดหลักสันติสุขเป็นหลัก และการพูดคุย หรือตกลงกัน เน้นให้อยู่ในกรอบทวิภาคี ซึ่งความรุนแรงคือ สิ่งสุดท้ายที่จะเลือก แต่อย่างไรก็ตาม ไทยต้องมีกำลังพอ ที่จะปกป้องคนไทย เพราะฉะนั้นเราจะไม่หาเรื่อง และไปทำความเข้าใจกับทุกประเทศ


ส่วนเรื่องการเจรจาภาษีกับสหรัฐอเมริกา ที่มีการเข้าใจผิดว่าประเทศไทยขยับเรื่องนี้ช้า ซึ่งตนเองได้พูดคุยกับต่างประเทศ จึงได้รู้ว่า สิ่งที่ประเทศไทยดำเนินการคือ อยู่ในระดับเดียวกันกับอีกหลายประเทศ ที่ต้องรอการเจรจา ซึ่งการประชุม BIMSTEC ที่ผ่านมาก็มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

นอกจากนี้นายกรัฐมนตรียังพูดถึง สินค้าเกษตรไทย เช่น ผลไม้ ที่ต้องช่วยการโพรโมทให้มากขึ้น เช่นเดียวกับการเร่งเจรจา FTA ให้มากขึ้น รวมไปถึงเรื่องเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่ต้องเพิ่มจุดแข็ง เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางในด้านนี้

นายกรัฐมนตรี ยังพูดถึงโครงการแลนด์บริจดิ์ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ที่ปัจจุบันมีบริษัทภาคเอกชน และภาครัฐในหลายประเทศให้ความสนใจในการลงทุนโครงการดังกล่าว

ช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำจุดยืน และท่าทีของไทย 3 เรื่อง ที่รู้สึกว่า ยังขาดการชี้แจงที่เหมาะสมกับประเทศต่าง ๆ

  1. มาตรการภาษีของสหรัฐฯ ที่สามารถสื่อสารกับทุกประเทศได้เลยว่า วันนี้ไทยได้ดำเนินการถึงไหนแล้ว
  2. สถานการณ์การเมืองในประเทศเมียนมา ซึ่งจุดยืนในเรื่องนี้ ไทย และอาเซียนพร้อมส่งเสริมให้เกิดความสงบสุขในประเทศเมียนมาอีกครั้ง
  3. เรื่องข้อพิพาทกับประเทศกัมพูชา ที่ต้องอธิบายเหตุผลให้กับมิตรประเทศต่าง ๆ ทราบ ที่ไทยต้องมีความจำเป็นในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ และเหตุผลที่ไทยต้องยึดมั่นกลไกทวิภาคีเพราะอะไร รวมไปถึงความช่วยเหลือที่ประเทศไทย มีให้ประเทศกัมพูชาตลอด ที่ช่วยเหลือตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน และยังช่วยเหลืออยู่ ซึ่งอยากให้เน้นย้ำในเรื่องนี้ แม้จะมีเสียงเชียร์ให้เกิดการทะเลาะกันอย่างรุนแรง แต่ว่าเสียงเชียร์เหล่านั้นในโชเซียลไม่ได้อยู่หน้างาน เพราะบุคคลที่เสี่ยงจริง คือ คนหน้างาน โดยที่ไม่มีใครต้องการความรุนแรง แม้ว่าจะฝึกรบมาแล้วก็ตาม เพราะฉะนั้นคนในประเทศต้องสามัคคีกันไว้ ซึ่งไทยพร้อมจะพูดคุยกันด้วยเหตุผล

.-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย