ดีเอสไอยืนยันส่งสำนวนตึก สตง.ถล่ม ให้ ป.ป.ช.ไม่เกินสัปดาห์หน้า

ดีเอสไอ 4 มิ.ย. – ดีเอสไอพบเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 70 ราย เอี่ยวฮั้วประมูลสัญญาก่อสร้างตึก สตง. ส่ง ป.ป.ช.ไม่เกินสัปดาห์หน้า


ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดีพิเศษที่ 58/2568 กรณีตรวจสอบสัญญา 3 ฉบับ ได้แก่ สัญญาการออกแบบ สัญญาการก่อสร้าง และสัญญาการควบคุมงาน ในโครงการก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ความผิดตามกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวพันกันในส่วนของตำแหน่งหน้าที่เจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องส่งสำนวนให้สำนักงาน ป.ป.ช. ดำเนินการไต่สวน โดยชี้แจงว่า ดีเอสไอได้ส่งสำนวนไปยังพนักงานอัยการคดีพิเศษ ในรายละเอียดคดีพิเศษ ความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 กรณี บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด มีผู้ต้องหาทั้งหมด 5 ราย จึงทำให้เราพบความเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก 2 ส่วน คือ 1.คดีฮั้วประมูล (คดีพิเศษที่ 58/2568) และ 2.คดีนอมินีภาคสอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับ บริษัท สันติภาพ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ที่ทางกรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ให้ข้อมูล ทั้งนี้ ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการออกเลขรับเป็นคดีพิเศษอีกหนึ่งสำนวน โดยจะมีบริษัท 16 ราย เกี่ยวข้องแต่จะต้องมีการคัดกรอง เบื้องต้นอาจจะมีประมาณ 4 บริษัท รวมถึงกรณีฝุ่นแดง เหล็กไม่ได้มาตรฐาน ก็ขอให้พนักงานสอบสวนได้ใช้เวลาในการทำสำนวนอีกสักระยะ

สำหรับ คดีฮั้วประมูล ดีเอสไอได้สรุป ว่ามีกรณีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐทั้งหมด 3 ส่วน ประกอบด้วย 1.ผู้บริหารองค์กรอิสระ 2.คณะกรรมการทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง จำนวน 10 คณะ ทั้งการออกแบบ การก่อสร้าง และการควบคุมงาน และ 3.คณะกรรมการการออกแบบวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 มาตรา 27 จำนวน 15 ราย รวมทั้งหมดประมาณ 70 ราย จะได้สรุปสำนวนส่ง ป.ป.ช. ภายในสัปดาห์นี้ ไม่เกินสัปดาห์หน้า


ร.ต.อ.สุรวุฒิ เผยด้วยว่า กรณีที่ดีเอสไอดำเนินคดีจากที่มีผู้มาร้องทุกข์กล่าวโทษ และพบพยานหลักฐานการฮั้วประมูลนั้น มาจากการควบคุมงาน ที่รับผิดชอบดำเนินการโดยกิจการร่วมค้า PKW ซึ่งรายละเอียดของการควบคุมงานจะมีการให้คะแนนทั้งหมด 3 หมวด คือ การดำเนินงาน บุคลากร และ เรื่องอื่น ๆ รวม 100 คะแนน แต่ในส่วนที่ดีเอสไอพบการกระทำความผิด คือ บุคลากร เพราะมีการปลอมลายมือชื่อแล้วเอาชื่อบุคคลอื่นซึ่งไม่มีความสามารถเป็นไปตาม TOR มาดำเนินการเสนอราคาในการคัดเลือก จึงพบความผิดดังกล่าว และได้กล่าวหาดำเนินคดีกับกิจการร่วมค้า PKW รวม 6 ราย อีกทั้งรายละเอียดเชื่อมโยงกันทั้งหมด รวมถึงมีผู้ต้องหา 1 ในนี้ มีการกล่าวหาว่า เป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในการจัดฮั้วประมูล ตั้งแต่การออกแบบ การก่อสร้าง จึงทำให้คดีทั้งหมดเกี่ยวข้องกัน และอยู่ในอำนาจของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามมาตรา 61 ดีเอสไอจึงต้องส่งรายละเอียดให้ ป.ป.ช. ตามกฎหมาย

เมื่อถามว่าเช่นนี้ผู้บริหารทั้ง 6 ราย ของกิจการร่วมค้า PKW มีส่วนรู้เห็นกับการได้มาซึ่งสัญญาการควบคุมงานหรือไม่ ร.ต.อ.สุรวุฒิ เผยว่า เรากล่าวหาอย่างนั้น ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่รัฐเอื้อประโยชน์หรือไม่ โดยเฉพาะในส่วนของผู้บริหารระดับสูงของ สตง. โฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า ต้องเรียนว่า มีการกล่าวหาเป็นหนังสือว่ามีการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือตามกฎหมายว่าด้วยเจ้าพนักงานของรัฐ ซึ่งก็คือข้าราชการในองค์กรอิสระ

ต่อข้อถามว่าบุคคลที่มาร้องทุกข์กล่าวโทษดังกล่าวถือว่าเป็นพยานปากสำคัญใกล้ชิด สตง. เลยหรือไม่ ร.ต.อ.สุรวุฒิ เผยว่า เป็นตามที่ปรากฏเป็นข่าว โดยมีผู้มากล่าวหาทั้งหมด 2 ราย ซึ่งทั้งคู่เป็นบุคคลที่ให้การว่า เขารู้เห็นในเรื่องรายละเอียดที่เกิดขึ้นจึงได้มีการให้รายละเอียดยืนยันตามหนังสือที่ส่งมาให้ดีเอสไอ


เมื่อถามว่าบุคคล 2 ราย ที่มากล่าวโทษผู้บริหารของ สตง. มีการร้องทุกข์กล่าวโทษตามมาตราใดของ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 ร.ต.อ.สุรวุฒิ ระบุว่า ตามกฎหมาย เขามีการกล่าวหาในพฤติการณ์หลายเรื่อง ทั้งเรื่องการทุจริต เรื่องการล็อกสเปค และการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสัญญา โดยเฉพาะมาตรา 10 มาตรา 11 มาตรา 12 และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ซึ่งทั้งหมดเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่จะดำเนินการไต่สวนความผิด ที่ผ่านมาทาง สตง.มีเจ้าหน้าที่มาให้การในรายละเอียดเรื่องการดำเนินการ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด รวมทั้งเป็นพยานสำคัญในการดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วย

สำหรับกรณีของคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ พบว่ามีการกล่าวหาในเรื่องของการออกแบบ การก่อสร้าง และการควบคุมงาน แต่ที่พบชัดเจน คือ การควบคุมงาน เพราะใช้วิธีการคัดเลือก ซึ่งตามกฎหมาย หากคัดเลือกเสร็จแล้ว จะต้องมีหนังสือเชิญชวนไม่น้อยกว่า 3 ราย แต่ในส่วนนี้ทราบว่ามีการเสนอไป 19 ราย ซึ่งในส่วนของกิจการร่วมค้า PKW พบว่ามี 1 ใน 19 ราย คือ บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด ส่วนอีก 2 บริษัท คือ บริษัท ว. และสหายคอนซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด ไม่ได้เข้ามาอยู่เสนอราคาด้วย แต่ทางผู้ดำเนินการได้มีการขอยกเว้นหลักเกณฑ์ เสนอไปที่คณะกรรมการวินิจฉัยข้อกฎหมาย ตามมาตรา 29 เพื่อให้ยกเว้นหลักเกณฑ์ ระเบียบ และกฎกระทรวง ซึ่งกรณีเช่นนี้จึงทำให้มีการกล่าวหาว่าการยกเว้นดังกล่าว เป็นการเอื้อต่อกิจการร่วมค้า PKW อย่างไรก็ดี จากพยานหลักฐานพบว่ามีการดำเนินการยกเว้นจริง ส่วนจะมีการเอื้อหรือไม่ ต้องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้ไต่สวน ส่วนจะมีผู้บริหารของ สตง. เป็นผู้เซ็นอนุมัติหรือไม่ เป็นรายละเอียดในสำนวน

ร.ต.อ.สุรวุฒิ ระบุด้วยว่า เรื่องดังกล่าวนี้ถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในชุดผู้บริหารในอดีต ไม่ใช่ชุดปัจจุบัน ส่วนผู้บริหารชุดใหม่จะมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ เป็นเรื่องที่ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. จะเป็นผู้ไต่สวน ซึ่งการกล่าวหาก็มีกรรมการ 10 คณะรวมอยู่แล้ว

ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวถึงข้าราชการ 3 กลุ่มที่ถูกกล่าวหาในเรื่องการฮั้วประมูล ว่า กลุ่มที่ 1 มีการกล่าวหาผู้บริหารว่ามีการล็อคสเปคเพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาการออกแบบ สัญญาการก่อสร้าง และสัญญาการควบคุมงาน ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นเรื่องของการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในเรื่องของการเป็นกรรมการชุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินงาน การตรวจการจ้าง หรือการดำเนินการวิธีการต่าง ๆ ซึ่งส่วนนี้มีจำนวน 10 คณะ ตามที่ตนได้เรียนแจ้งไปข้างต้น ขณะที่กลุ่มที่ 3 เป็นเรื่องของคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย หรือปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการดำเนินการตาม พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560

พฤติการณ์ที่พบนอกจากการควบคุมงาน แล้วพอที่จะเปิดเผยได้ คือ การดำเนินการจ้างช่วง เพราะทาง สตง. ก็ได้ยืนยันว่า บริษัท 9PK จำกัด ไม่ได้มีการจ้างช่วงจริง ไม่มีรายชื่ออนุมัติการจ้างช่วง จึงจะเป็นเอกสารประกอบให้ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาไต่สวน

เมื่อถามว่าสังคมมีการตั้งคำถามว่าผู้บริหาร สตง. ชุดปัจจุบัน ไม่มีความผิด หรือความเกี่ยวข้องเลยใช่หรือไม่ โดยเฉพาะในสำนวนที่ดีเอสไอต้องส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ไต่สวนนั้น ร.ต.อ.สุรวุฒิ ชี้แจงว่า อย่างไรต้องรอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่สวนก่อน เพราะเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มต้นจนกระทั่งปัจจุบัน เมื่อถามย้ำว่าสำนวนที่ดีเอสไอต้องส่งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ภายในกรอบสัปดาห์นี้ มีชื่อของ นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่า สตง. คนปัจจุบันรวมอยู่ใช่หรือไม่ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า ก็อยู่ในสำนวนนั้นทั้งหมด ก็มีผู้บริหารตั้งแต่ต้น แล้วก็มีคณะกรรมการต่าง ๆ ที่มีหลายหน่วยงานรวมอยู่ในนั้น และคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ รวมแล้ว 3 กลุ่ม ประมาณ 70 รายชื่อที่มีการกล่าวหา แต่อย่างไรก็ต้องรอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้ไต่สวนก่อน ทั้งนี้ ในส่วนที่ดีเอสไอเป็นผู้ดำเนินคดีเองก็คือผู้บริหาร 6 รายของกิจการร่วมค้า PKW

ร.ต.อ.สุรวุฒิ กล่าวด้วยว่า ระหว่างนี้จะได้ให้เจ้าหน้าที่กรมโยธาธิการและผังเมือง เข้ามาดำเนินการคัดเอกสาร เนื่องจากดีเอสไอได้มีการตรวจค้นทั้งหมด 3 ครั้ง แล้วพบว่าในการตรวจค้นครั้งที่ 2 มีเอกสารกว่า 121 ลัง จึงต้องพยายามคัดให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตามคำกล่าวหาและให้อยู่ในประเด็นในสำนวน หากเอกสารส่วนไหนไม่เกี่ยวข้อง ก็จะจะต้องคืนกลับไป และเราจะเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ รวมถึงเรื่องเอกสารการตรวจค้นจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่ต้องส่งผลรายงานมาด้วย

เมื่อถามย้ำว่ากรณีการควบคุมงานทิพย์ ถือเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ตึก สตง.ถล่ม หรือไม่ เพราะตามพฤติการณ์แล้ว นิติบุคคลมีการแอบอ้างว่ามีวิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านการควบคุมงานก่อสร้าง มีประสบการณ์จะมาควบคุมงาน แต่พอหน้างานก่อสร้าง กลับไม่มีวิศวกรกลุ่มดังกล่าวอยู่ในการควบคุมงานนั้น ร.ต.อ.สุรวุฒิ ระบุว่า อันนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ตำรวจดำเนินคดีอยู่ แต่อีกเรื่องหนึ่ง เราก็ต้องรอทางคณะกรรมการที่รองนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้ง เพราะเราได้มีการประสานข้อมูลกัน จึงต้องรอผลการตรวจของคณะกรรมการชุดดังกล่าวด้วย คาดว่าน่าจะไม่นาน อย่างไรก็ตาม ชุดคณะทำงานของดีเอสไอและคณะกรรมการที่รองนายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้ง มีการทำงานประสานงานร่วมกันมาอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กรณีการติดตามตัว นายบินลิง วู ผู้ต้องหารายสำคัญ ซึ่งเป็นนายทุนชาวจีน เชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ อีกหนึ่งรายที่เหลือจากในคดีนอมินี บริษัท ไชน่า เรลเวย์ฯ หรือคดีพิเศษที่ 32/2568 นั้น ร.ต.อ.สุรวุฒิ ยืนยันว่า มันเป็นเรื่องกระบวนการการสืบค้น เรามีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คิดว่าไม่นาน เพียงแต่ว่าเรารอสำนวนนิดหนึ่ง เพราะมีปัญหาในเรื่องของการปฏิบัติเล็กน้อย ส่วนกระบวนการจับกุมมีการประสานงานกันอย่างต่อเนื่อง. -119-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

เจอแล้ว! เจ้าของเงิน 12 ล้าน ซุกกล่องทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – โผล่แล้ว! “ทวีวัฒน์” เจ้าของเงินสด 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี อ้างเป็นเงินเก็บตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ที่ห้องพักน้ำรั่ว จึงเก็บของมาทิ้ง ลืมว่ามีเงินเก็บไว้ในกล่อง เมื่อเวลา 19.00 น. วันนี้ (6 มิ.ย.68) พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.1 ได้เชิญตัวนายทวีวัฒน์ เจ้าของเงิน 12 ล้านบาท ซุกกล่องพลาสติก ทิ้งหน้าลิฟต์คอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี มาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม เบื้องต้น พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ เผยว่า นายทวีวัฒน์ อ้างว่า เงินจำนวนดังกล่าวเป็นของตน ตั้งแต่สมัยเป็นทนายความ ส่วนสาเหตุที่นำมาทิ้ง เนื่องจากน้ำรั่วภายในห้องพัก จึงเก็บข้าวของในห้องที่ถูกน้ำท่วมมาทิ้ง โดยลืมว่ามีเงินเก็บไว้อยู่ในกล่อง พอทราบเรื่องก็เลยมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน พร้อมให้ตรวจสอบเงินจำนวนดังกล่าว อ้างมีหลักฐานยืนยันว่า เงินดังกล่าวได้มาตั้งแต่ปี 2563 ก่อนมารับตำแหน่งคณะอนุกรรมการ กสทช. […]

โซเชียลแห่ติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด

6 มิ.ย. – ท่ามกลางสถานการณ์ชายแดนตึงเครียด มีการส่งกำลังใจให้ผู้ทำหน้าที่ปกป้องประเทศชาติ ด้วยแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ที่กำลังร้อนแรงในโลกโซเซียลขณะนี้ หลัง “กองทัพบก Royal Thai Army” เชิญชวนคนไทยติดแฮชแท็ก #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด เพื่อให้กำลังใจทหารที่ปฏิบัติงานปกป้องประเทศชาติ บทเพลงต่างๆ ที่สื่อถึงความรักประเทศไทย ก็ถูกนำมาโพสต์ลงโซเซียลในช่วงนี้เช่นกัน หรือจะเป็นกระแสหกเดือนหก ที่นักช้อปออนไลน์รู้จักกันดี ทางกองทัพก็สามารถนำมาโยง ให้เห็นถึงความพร้อมของกำลังพล อย่างกองทัพอากาศ โพสต์ภาพ ทหารติดระเบิดบนเครื่องบินรบ นามเรียกขาน “Lightning” พร้อมบรรยายด้วยข้อความ สั่งวันนี้ • ส่งทันที • ถึงที่หมาย แสดงถึงการพร้อมขึ้นปฏิบัติการสายฟ้าฟาด ปกป้องอธิปไตย พร้อมกันนี้ มีการติด #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ด้วย เช่นเดียวกับ เพจกองทัพบก โพสต์ภาพทหารโดดร่ม พร้อมข้อความ Army ส่งด่วน และ #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด ไม่เพียงแต่เหล่าทัพที่จุดกระแสรักชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ประกาศจุดยืน ปกป้องรักษาอธิปไตยของชาติ พร้อมบังคับใช้กฎหมาย และสนับสนุนการปฏิบัติทางยุทธการ พิทักษ์พื้นที่ชายแดน […]

สมช.ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ปัญหามั่นคงชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- สมช. ตั้ง คกก.เฉพาะกิจ แก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มอบ “กองทัพ” ประสานการปฏิบัติ พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์-ปกป้องอธิปไตย สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกเอกสารข่าว ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ครั้งที่ 4/2568 โดยที่ประชุม สมช. ได้รับทราบพัฒนาการของสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา รวมทั้งการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมฯ ได้เตรียมพร้อมการกำหนดมาตรการต่าง ๆ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาติ และการสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคมและประชาชน รวมถึงนานาชาติ เพื่อให้เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างถ่องแท้ โดยให้จัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ทำหน้าที่ติดตาม ประสานงาน และเสนอแนะมาตรการเพิ่มเติม หากฝ่ายกัมพูชามีการยกระดับปัญหา ในการนี้ มอบหมายให้กองทัพประสานการปฏิบัติ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ โดยให้ความสำคัญกับการปกป้องอธิปไตยและการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้ จะดำเนินการโดยสอดคล้องกับแนวทางการเจรจาใน JBC ระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งจะเกิดขึ้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]