“ภูมิธรรม” ยันหากเกิดการปะทะ มีมาตรการรับมือหมดแล้ว

ทำเนียบ 6 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ยัน มีมาตรการรับมือหมดแล้ว หากเกิดการปะทะ ไทย – กัมพูชา ขอสื่ออย่านำเสนอคลาดเคลื่อนอาจส่งผลให้เกิดความขัดแย้ง ชี้ อย่าไปขยายประเด็น ยัน ไทยไม่ได้นอบน้อม หรือ ถนอมคำพูด


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์มาตรการเบื้องต้นในการรับมือสถานการณ์ไทย – กัมพูชา ว่า มีหมดแล้ว แต่ขอไม่ชี้แจงในรายละเอียด แต่จะมีข่าวประชาสัมพันธ์จากสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)

ส่วนเรื่องการปิดด่านมีการพูดในที่ประชุมวันนี้( 6 มิ.ย.) หรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า มีการพิจารณาทุกมาตรการ และขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และสภาวะที่เห็นแล้วว่าควรดำเนินการอย่างไร แต่ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว


เมื่อถามย้ำว่ามีเส้นไหนที่จะออกมาตรการการปิดด่าน หรือห้ามข้ามชายแดนไปเล่นกาสิโนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน นายภูมิธรรม ระบุว่า มีอยู่ในมาตรการแล้ว แต่เชื่อว่าในขณะนี้ไม่สามารถพูดเรื่องเหล่านี้ได้ รอให้เกิดสถานการณ์แต่ละขั้น แล้วเราสามารถหยิบใช้ได้ ซึ่งได้ตกลงในกลไกแล้ว ว่ากองทัพหน้างานเป็นอย่างไร กระทรวงการต่างประเทศยืนยันหลักแบบไหนในการดำเนินการ ซึ่งวันนี้คุยกันทุกหน่วยงานแล้ว

เมื่อถามว่าได้มีการระบุระยะเวลาหรือไม่ภายหลังจากพบกับรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาให้ถอนกำลังออกไป นายภูมิธรรม ระบุว่า เราได้ของให้มีการปรับกำลังไปเหมือนปี 2567 ซึ่งปกติส่วนนั้น มีกำลังที่วางกันอยู่แล้วโดยที่ไม่มีปัญหา ก็ให้ปรับกำลัง ส่วนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ใช้ทวิภาคีกลไกทางกฎหมาย และกลไกทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศมาแก้ไขปัญหานี้

ส่วนการตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ ก็มีการตั้งขึ้นมาดูแลเรื่องนี้ และรายละเอียดจะออกมาเอง ทุกขั้นตอนในการดำเนินการ เราจะคุยกันตลอดกับทางกระทรวงกลาโหม กองทัพ และกระทรวงการต่างประเทศ ในการดำเนินการ ซึ่งมีการวางไว้หมดแล้ว และทำมาแล้ว เพียงแต่กระชับให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้นเอง


ส่วนที่การประชุมในวันนี้ ผู้บัญชาการทหารบกไม่ได้เข้าร่วมประชุม จะมีปัญหาหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม ย้ำว่า มีเสนาธิการทหารบกเข้ามา ซึ่งตามปกติก็มาเข้าร่วมอยู่แล้ว เพื่อเป็นตัวแทนกองทัพบก และไม่มีปัญหาอะไร

ส่วนกระแสสังคมที่ออกมาให้รัฐบาลออกมาปกป้องอธิปไตยของประเทศไทย แต่การประชุมในวันนี้ยังคงยืนยันจุดยืนของรัฐบาลในเรื่องสันติวิธี นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องแยกออกจากกัน คำถามนี้ดูสลับซับซ้อนมากไป การมาเจอกันเมื่อวานของกองทัพ ก็รู้สึกว่าในฐานะที่เราเป็นคนคุมกำลังของกองทัพอยู่ เราอยากหาทางสันติให้ได้มากที่สุด เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าให้ได้มากที่สุด ซึ่งในภาวะขณะนี้ทุกฝ่ายไม่อยากให้เกิดสงคราม ซึ่งเราเสนอให้ทำกลไกทวิภาคี หรือเจบีซี เราใช้มา 20 กว่าปีแล้ว ก็เป็นประโยชน์มาตลอด ทั้งร่วมมือกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ยาเสพติด การค้ามนุษย์ และสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งกลไกนี้ถูกใช้แล้วดี แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น เราเองทางทหารต้องมีหน้าที่โดยตรงในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ ก็ไม่ได้นิ่งเฉย และไม่ได้ทะเลาะเบาะแว้งอะไร เพียงแค่ตรึงกำลัง และใช้กลไกสันติวิธี ซึ่งรัฐบาลจะเป็นผู้ใช้ ได้ตกลงกันไปแล้วว่าหากมีเหตุการณ์ที่มีปัญหาก็ให้บอก และได้กำหนดบุคคลที่ดูแลแต่ละฝ่าย และเมื่อวานนี้คุยในเงื่อนไขที่จะนำไปสู่จุดที่ดี และฝากให้ไปคุยกับในแต่ละประเทศ และให้ผู้นำคุยกัน ซึ่งบรรยากาศที่คุยเมื่อวานก็เป็นไปได้ด้วยดี และในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม หรือคนที่ไป ก็เป็นตัวแทนกองทัพ เมื่อคุยกันแล้วทุกคนก็สบายใจกับข้อสรุป

เมื่อถามว่าทางประเทศไทยก็มีทางลัดในการติดต่อกับฝั่งกัมพูชา ทำไมถึงไม่ใช้คอนเน็คชั่นที่มีอยู่ในการติดต่อไป นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องประเทศชาติ และเป็นอธิปไตยของประเทศชาติ ต้องเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างรัฐบาลในการดำเนินการ ซึ่งการคุยนอกรอบ ก็มีการทำอยู่แล้ว ซึ่งเมื่อวานนี้ที่เกิดขึ้นก็เป็นการคุยนอกรอบของตนเองกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา ว่าเราได้ดูสภาพของจุดทั้งหมดแล้ว เข้ามาคุยกัน เราใช้ทุกกลไกที่เสนอมา เพียงแต่ว่าเรื่องการลงข่าว หากมีการนำเสนอที่คลาดเคลื่อน ก็นำไปสู่การตอบสนองที่ไม่ค่อยดี

“ทุกหน่วยตอนนี้ เราทำงานร่วมกัน ซึ่งก็ทำงานร่วมกันตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว และขณะนี้กำลังเดินหน้าไปสู่ จุดที่เราพึงประสงค์ ซึ่งต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ เพราะเมื่อกระทบแล้ว จะเป็นบาดแผลที่ลึก และทำให้การทำงานต่าง ๆ ยากขึ้น เราต้องพึ่งพาซึ่งกันและกัน ขอให้จำกัดวงอยู่ที่ตรงนี้ไม่ต้องไปถามเรื่องศาลโลก เพราะเราไม่ได้รับอยู่แล้ว อย่าไปเปิดประเด็นให้มันมีประเด็นเพิ่มขึ้น เรากำลังจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่แก้ได้ ก็ขอให้ช่วยกันตรงนี้และไม่มีปัญหาอะไรเลย“ นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่ามีการวางเงื่อนไขรับมือกรณีที่กัมพูชาไม่เข้าร่วมการประชุมเจบีซีหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ยังไม่ได้คิดในส่วนนี้ เพราะเมื่อวานก็คุยกันดีพอสมควร ส่วนทางกัมพูชายืนยันว่า จะไม่พูดคุยถึง 4 จุด ตามที่แถลงการณ์มาแล้วในวงประชุมจะมีการพูดคุยเรื่องอะไรนั้น ก็ขอรอให้มีประชุมจริง ๆ ก่อนเพราะเราคุยกันแล้วว่าจะคุยอะไร

ส่วนที่กองทัพบกออกมาประกาศกร้าวเรื่องการปกป้องอธิปไตยนั้น ก็เป็นหน้าที่ที่ต้องทำอยู่แล้ว ในการรักษาประเทศรักษาอธิปไตย ก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าในยุค ”บิ๊กอ้วน“ ไม่กังวลเรื่องรัฐประหารใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่จะเป็นสัญญาณเลย คุยกันดีมาตลอด

ส่วนการปลุกระดมให้รักชาติ จนเกิดสงครามในโซเชียลนั้น นายภูมิธรรม ระบุว่า ก็ต้องช่วยกัน ทำให้เห็นว่าการไม่เกิดสงครามเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ก็อย่าไปปลุกกับเขาด้วย มันก็จะยิ่งมีปัญหา

เมื่อถามว่าแต่ท่าทีการออกแถลงการณ์ของประเทศไทยดูนอบน้อม นายภูมิธรรม กล่าวว่า อย่าไปพูดว่านอบน้อม เมื่อวานไปบอกว่าตนเองไปกัมพูชานั้น ไม่มีศักดิ์ศรีนั้นไม่จริง ตนว่าอย่าไปดูอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ปัญหาเรื่องนี้มันใหญ่ เป็นเรื่องประเทศชาติ ถ้าไปจุกจิกกับเรื่องเล็ก เรื่องใหญ่จะไม่ได้ แล้วจะกลายเป็นเรื่องขัดแย้ง

เมื่อถามย้ำว่าเหมือนประเทศไทยถนอมคำ นายภูมิธรรม ถามกลับว่า ในสายตาใคร แต่ในทางการทูต ก็บอกว่าใช้ได้แล้ว มันเป็นทัศนคติของแต่ละคน ก็ไม่เป็นไร ยืนยันว่า ไม่ได้ถนอมคำพูด ส่วนที่บอกว่าไทยไม่ทันเกมนั้น ตนมองว่าต้องคิดบวก และดูว่ามีทั้งเรื่องการปกป้องอธิปไตย และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งโลกมีปัญหาเยอะแยะ และเราเองต้องแก้ปัญหาหลายอย่าง จะคิดอย่างเดียวไม่ได้

อย่างไรก็ตาม นายภูมิธรรม ไม่ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าว ที่ถามว่าหม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือหม่อมปลื้ม เคยกล่าวว่า ความสัมพันธ์ของนายทักษิณ ชินวัตร กับ พล.อ.ฮุน เซน เป็นจุดอ่อนของการแก้ไขปัญหาระหว่างไทยและกัมพูชาในครั้งนี้ ก่อนจะขึ้นรถกลับออกไป .-316 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี

ชลบุรี 26 มิ.ย. – คนร้ายควงปืนบุกชิงทอง 38 บาท ห้างดังกลางเมืองชลบุรี ระหว่างหนีเจอตำรวจนอกเครื่องแบบ คนร้ายยิงปืนใส่ 1 นัด โดนหมวกกันน็อก ตำรวจหลบทันแย่งปืนได้ แต่คนร้ายวิ่งหลบหนี คนร้ายชายสวมเสื้อแขนยาวสีเทาดำสวมหมวกสีชมพูใส่แมสก์ปิดบังใบหน้ากางเกงขายาว ทำทีเข้ามาซื้อทองภายในร้านทอง ในห้างสรรสินค้าย่านบ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี ก่อนจะชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบ สร้อยคอทองคำรูปพรรณหนัก 10 บาท จำนวน 2 เส้น และหนัก 9 บาท จำนวน 2 เส้น ก่อนจะเอาทองใส่กระเป๋าแล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้าง ระหว่างหลบหนี มีตำรววิ่งไล่ติดตามคนร้าย และตำรวจนอกเครื่องแบบที่มาทำธุระเห็นเหตุการณ์ได้เข้าไปจับกุม แต่ถูกผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แต่สุดท้ายสามารถแย่งปืนจากคนร้ายเอาไว้ได้ พนักงานร้านทอง เล่าว่าตอนเกิดเหตุเป็นช่วงกำลังจัดร้านเพราะเพิ่งเปิดมีผู้ก่อเหตุสวมหมวกสีชมพู ใส่แมสก์ปิดบังใบหน้าเข้ามาขอดูทองหนัก 10 บาท จึงบอกให้ถอดหมวกและแมสก์ แต่พูดยังไม่ทันขาดคำผู้ก่อเหตุได้ชักปืนออกมาพร้อมกับจี้บังคับให้เอาทองหนัก 10 บาท มาให้สองเส้นและสร้อยคอหนัก 9 บาทอีกสองเส้น รวมเป็น 4 เส้น น้ำหนักรวม […]

ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone สอยร่วง 4 ลำโดรนไม่ทราบฝ่าย

กองทัพเรือ 26 มิ.ย.-ทร. ยอมรับใช้ Anti-Drone ตอบโต้โดรนไม่ทราบฝ่ายที่บินเหนือฐานชายแดนจันทบุรีช่วงต้นสัปดาห์ สอยร่วง 4 ลำ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุถึงกรณี จนท.เฝ้าตรวจการณ์นาวิกโยธิน ใช้ Anti-Drone ตัดสัญญาณโดรน ไม่ทราบฝ่ายตก 4 ลำ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังจันทบุรีตราด ช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า โดรนไม่ทราบฝ่าย บินเหนือฐาน ชายแดนจันทบุรี ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ใช้ Anti-Drone ยิงตกไป 4 ลำ ทั้งนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลายวันแล้ว และเป็นไปตามที่ได้ชี้แจง ถึงแนวทางปฏิบัติของกองทัพเรือไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยกองทัพเรือมีมาตรการควบคุมการใช้โดรนบริเวณแนวชายแดน และแจ้งเตือนหากมีโดรนเข้ามาในเขตหวงห้ามก็จะใช้มาตรการต่อต้านโดรน.-313.-สำนักข่าวไทย

สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน

กรุงเทพฯ 25 มิ.ย. – เลขาธิการ กพฐ. สั่งเด้ง ผอ.ไข่พะโล้ พร้อมตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงทันที เซ่นปมมื้อเช้าเด็กนักเรียน ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปิดเผยว่า ตามที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ กรณีโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ จัดอาหารมื้อเช้าให้นักเรียนเป็นข้าว พะโล้ไก่ กับไข่ต้ม 1 ใบนั้น สพฐ.ได้รับทราบเหตุและไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งการให้แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอนโดยทันที เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วนและเกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมทั้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ยังสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ เป็นการชั่วคราวจนกว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาด้านการบริหารภายในสถานศึกษา โดย สพฐ. จะกำกับติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมกันนี้ได้กำชับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งให้กำกับติดตามสถานศึกษาในสังกัดให้ดำเนินการโครงการต่างๆ ตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและครูต่อไป.-417-สำนักข่าวไทย

เลื่อน! “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ลงทะเบียน 1 ก.ค.

25 มิ.ย. – เลื่อน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” 5 แสนสิทธิ์ ประชาชนเริ่มลงทะเบียน 1 ก.ค. เวลา 08.00 น. เดินทางได้ตั้งแต่ 4 ก.ค. – 31 ต.ค.68 เมื่อวานนี้ (24 มิ.ย.) นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่าครม. มีมติเห็นชอบโครงการและรายการกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวน 110,000 ล้านบาท จากกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท หนึ่งในนั้นคือโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง วงเงิน 1,750 ล้านบาท โดยมีการแจ้งว่า จะเริ่มเปิดลงทะเบียนให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ 5 แสนสิทธิ์ เที่ยงคืนที่ผ่านมา และสามารถเที่ยวได้ 1 ก.ค.เป็นต้นไป แต่ปรากฏว่า มีการแจ้งเลื่อนเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดย ผู้ว่าการ ททท. แจ้งว่าจะเปิดลงทะเบียนวันที่ 1 กรกฎาคม เวลา 08.00 น. […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ถกเหตุ “ภูเก็ต-พังงา” ขอมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี

ทำเนียบ 27 มิ.ย.- นายกฯ เรียก ผบ.ตร.-ผบช.ทท.-ปลัดท่องเที่ยว รายงานสถานการณ์ลอบวางระเบิด “ภูเก็ต-พังงา” ขอประชาชน-นักท่องเที่ยวมั่นใจทุกหน่วยงานดูแลอย่างดี ขณะที่ “ภูมิธรรม” เรียกหน่วยงานความมั่นคงถกช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความภายหลังเชิญ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ศักย์ศิรา เผือกอ่ำ ผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว (ผบช.ทท.) และน.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ว่าจากสถานการณ์ที่มีความพยายามวางระเบิดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต-พังงา วันนี้ (27 มิ.ย.) ดิฉันได้เชิญท่าน ผบ.ตร. ท่านผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อติดตามสถานการณ์ดังกล่าว โดยได้รับรายงานจากทุกภาคส่วนว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ก่อความวุ่นวายในพื้นที่เพื่อให้เกิดความไม่สงบ ดิฉันได้ย้ำทุกภาคส่วนให้มีการสืบสวนติดตามสถานการณ์นี้มาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ดำเนินทุกมาตรการความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดแก่พี่น้องประชาชน อย่างไรก็ตามค่ะ รัฐบาลจะไม่ประมาท ทางสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ จะดำเนินการติดตามและยกระดับการทำงานต่อไปอย่างเข้มงวด โดยในช่วงบ่ายวันนี้ ทางท่านรองนายกฯ ภูมิธรรม จะเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์ เฝ้าระวัง และเร่งออกมาตรการที่เด็ดขาดต่อไป ในนามรัฐบาล ดิฉันขอให้พี่น้องประชาชนทุกคนมั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ที่ทำหน้าที่นี้ด้วยความตั้งใจ เสียสละ […]

“ชัยเกษม” ลั่นหากจำเป็น พร้อมเป็นนายกฯ เพื่อชาติบ้านเมือง

27 มิ.ย. – “ชัยเกษม” ลั่นพร้อมทำเพื่อชาติ หากจำเป็นต้องทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ตอนนี้แข็งแรง ไม่มีปัญหา ท่ามกลางกระแสการเมืองร้อนแรง ปมเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ทำให้บุคคลที่ถูกจับตามองตอนนี้ คือ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯ ลำดับที่ 3 ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งก่อนหน้านี้ อาจถูกมองว่ามีปัญหาด้านสุขภาพแต่ล่าสุด มีภาพนายชัยเกษม โชว์สวิงออกรอบตีกอล์ฟ แสดงให้เห็นถึงร่างกายที่แข็งแรง ล่าสุด เจ้าตัวได้เปิดเผยในรายการเจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ทางช่อง 9 MCOT HD ว่า “ตอนนี้แข็งแรง เรียบร้อยหมดทุกอย่าง เพราะก้อนเลือดที่ท้ายทอย สลายไปหมดแล้ว ชีวิตก็ปกติ ไม่มีปัญหา ตอนไปพบหมอครั้งล่าสุด หมอก็บอกว่าโชคดีมหาศาลที่หายแล้ว เมื่อวานไปตีกอล์ฟได้สบายเลย ตอนนี้สุขใจ สบายใจแล้ว” เมื่อถามว่า พร้อมเป็นนายกรัฐมนตรี หรือไม่ นายชัยเกษม ตอบว่า “ไม่จำเป็นต้องให้เป็นหรอก ถ้าเลี่ยงได้ ก็ให้คนอื่นเขาทำเถอะ ผมทำมาเยอะแล้ว แต่ถ้าจำเป็นก็ได้เพราะไม่มีอะไร แต่อย่าให้จำเป็นเลย คนอื่นก็มีเยอะแยะ […]

แม่ทัพภาคที่ 2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง

ทำเนียบ 27 มิ.ย.-แม่ทัพภาคที่2 ปัดให้ความเห็น “ฮุนเซน” ไลฟ์พาดพิง บอกเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องจัดการเอง ยันขอทำหน้าที่ของตนเอง ไม่เคยหวั่นไหว ชี้สถานการณ์ชายแดน ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง​ ไม่ถึงขั้นใช้อาวุธ​ ขอรอกัมพูชาตัดสินใจร่วมวงเจรจา RBC เชื่อสถานการณ์ไทย-กัมพูชา จบก่อนเกษียณ พลโทบุญสิน​ พาด​กลาง​ แม่ทัพ​ภาค​ที่​ 2 กล่าวถึงกรณีสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ไลฟ์พาดพิงประเทศไทยได้รับรายงานเรื่องนี้แล้วหรือไม่ ว่า คงเป็นเรื่องของรัฐบาล แต่ตนก็ติดตามอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรีและทีมงานที่ต้องไปแก้ไข ส่วนกองทัพก็ดูแลเรื่องของความมั่นคง พื้นที่ตามชายแดนเป็นหลัก​ เมื่อถามถึงสถานการณ์ชายแดนขณะนี้เป็นเช่นไร​ พลโทบุญสิน​ กล่าวว่า เราก็ตรึงกำลังอยู่ ส่วนทางกัมพูชาก็ยังไม่ได้มีการถอนกำลังออกจากพื้นที่ เพื่อรอความชัดเจนจากทั้งสองประเทศ แต่อย่างไรก็ต้องยึดตามนโยบายของผู้นำทั้ง 2 ประเทศเช่นกัน ว่าจะคุยกันอย่างไรต่อ ส่วนทหารก็ต้องทำหน้าที่ของทหารต่อไป คือการควบคุมกำกับดูแลตามแนวชายแดน ให้เป็นปกติดีที่สุด เมื่อถามว่าได้รับสัญญาณบวกจากทางกัมพูชาบ้างหรือไม่ พลโทบุญสิน​ ระบุว่า ก็ดีมีการพูดคุยกันตลอด มีสัญญาณบวกตั้งแต่การปรับกำลังที่ช่องบก​ อำเภอน้ำยืน​ จังหวัดอุบลราชธานี แต่รอการเจรจาระหว่างผู้นำ 2 ประเทศ ส่วนกรณีที่สมเด็จฮุนเซน มีการเปลี่ยนตำแหน่งเป็นเสนาธิการทหารสูงสุด […]

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย