“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน

นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น No Man’s Land เมื่อมีการเข้ามาในจุดนี้ ซึ่งฝั่งกัมพูชาคิดว่าเป็นจุดของเขา ดังนั้นจึงเป็นการละเมิดข้อตกลงของ JBC ข้อ 5 ซึ่งไทยก็มีข้อมูลหลายอย่าง อย่างไรก็ตามถือว่าไทยได้เริ่มต้นจากจุดสันติวิธี และเชื่อว่า JBC จะมีคำตอบได้ หากกัมพูชาไม่ยอมรับในประเด็นปัญหานี้ ดังนั้นต้องรอข้อสรุปทั้งหมดจากการประชุมเจบีซีในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ ที่กรุงพนมเปญ ถือเป็นกลไกระหว่างประเทศที่ไทยทำกับชายแดนทุกภาคส่วน ที่จะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ แต่ปัญหานี้ เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้น หากย้อนไปเมื่อปี ระหว่างปี 53-54 ก็ได้ใช้เวทีนี้ทำให้ยุติ สงครามและสู้รบ ซึ่งก็ใช้กลไกนี้ ทุกฝ่ายยอมรับว่าต้องดำเนินการเช่นนี้ วันนี้ไทยต้องการให้กัมพูชายืนตามกลไกของ JBC ย้ำว่าจุดที่กัมพูชามาตั้ง คือ No Man’s Land ที่ยังไม่มีข้อสรุปว่าเป็นจุดของใคร ดังนั้นอยากให้กลับมาอยู่จุดเดิม โดยแม่ทัพภาคที่ 2 บอกกับตนชัดเจนว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้ถอยมาในจุดเดิม แต่กัมพูชาไม่ยอมถอย ถือเป็นการละเมิดข้อตกลง แต่ไม่ใช่เรื่องบุกแผ่นดินไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องมีการถูกเถียงกันยังไม่จบ


นายภูมิธรรม ยืนยันอีกว่าสิ่งที่ทำไม่ได้ยอมใคร แต่ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ และความเป็นห่วงนำไปสู่การใช้กลไกระหว่างประเทศที่มีอยู่ในการแก้ปัญหา ดังนั้น ส่วนตัวไม่ว่าใครหากจะเอาชนะตนเองทางการเมือง หวังทำลายเครดิตตนเอง แต่เรื่องของประเทศชาติไม่ควรเอาเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มาใช้เอาประโยชน์ทางการเมือง หรือสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้น ดังนั้นสิ่งที่ตนเองพูดยืนยันได้ทั้งหมด

นายภูมิธรรม ระบุว่าสภาความมั่นคงแห่งชาติได้มีการประชุมชุดเล็ก หารือติดตามประเด็นสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชาไปแล้วเมื่อวานนี้ (4 มิ.ย.) ซึ่งจะมีการตั้งคณะอนุกรรมการฯ เพื่อติดตามเรื่องนี้โดยเฉพาะ ขออย่ากังวล เรื่องนี้พลาดไม่ได้ โดยวันนี้ (5 มิ.ย.) ไม่ได้เข้าพบหารือกับนายกรัฐมนตรีในช่วงบ่ายแต่ได้มีการรายงานสถานการณ์จากการลงพื้นที่ผ่านทางไลน์ไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว

นายภูมิธรรม ยังกล่าวถึง การประชุม IISS Shangri-La Dialogue เวทีหารือด้านความมั่นคงที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีรายงานว่ากัมพูชาอาศัยเวทีนี้ ฟ้องเรื่องทหารไทยทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิตจากเหตุปะทะที่ช่องบก ว่า ไม่ใช่การฟ้อง ข้อเท็จจริงคือ ในช่วงที่ตนกับฟิลิปปินส์และเอสโตเนีย 3 ประเทศ ขึ้นไปพูดเรื่องการสร้างเครือข่ายข้ามภูมิภาค ซึ่งระหว่างเปิดให้ซักถามมีทหารกัมพูชา ที่ไม่ใช่ระดับตัวแทนใหญ่ได้สอบถามฟิลิปปินส์ว่าในกรณีที่เกิดเหตุ ปะทะของไทยกัมพูชา ควรจะทำอย่างไร ซึ่งทางฟิลิปปินส์ไม่ได้ตอบคำถามนี้ ซึ่งไม่ใช่ตัวแทนของกัมพูชาขึ้นไปพูดบนเวที ดังนั้นไม่ถือว่าเป็นสาระที่เราต้องทำอะไร แต่ถ้าเป็นตัวแทนเราต้องประท้วง


ส่วนการระบุว่ากัมพูชาผิดข้อตกลง JBC ข้อที่ 5 ควรจะมีบทลงโทษหรือบทตอบโต้อย่างไร นายภูมิธรรมกล่าวว่าตั้งแต่มีการเผาศาลาตรีมุข เราก็สั่งกองทัพบกให้มีการเตรียมพร้อม ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น ซึ่งกองทัพบกก็เตรียมการตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตนจึงบอกว่ามั่นใจได้ว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกองทัพมีความพร้อม ซึ่งการละเมิดข้อตกลงถึงต้องมีการประชุมเจบีซี เพราะหยุดไปนานพอสมควรแล้ว โดยครั้งสุดท้ายไทยเป็นเจ้าภาพ ดังนั้นไทยจึงเสนอให้กัมพูชาจัดประชุม ซึ่งถ้าไม่พร้อม ไทยก็จะจัดเอง ซึ่งจริงๆ ตนเสนอว่าอยากให้จัดประชุมภายในวันที่ 6 มิถุนายน จะได้รีบจบ แต่รัฐมนตรีเขตแดนของกัมพูชา ติดภารกิจอยู่ที่แคนาดา แต่เขาก็บอกว่าจะรีบให้เร็วที่สุด สุดท้ายจึงสรุปว่าเป็นวันที่ 14 มิถุนายน ที่กรุงพนมเปญ ซึ่งเราก็ยอมรับได้ ซึ่งมีการประชุมคณะของฝ่ายไทยตั้งแต่ตนอยู่สิงคโปร์ โดยมีทั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กองทัพไทย กองทัพบกและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็เตรียมพร้อมไว้แล้ว

สำหรับเหตุการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้ทำอะไรไปบ้าง นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรามีเอกสารหลักฐานที่กองกำลังสุรนารี ยื่นประท้วงทุกครั้ง หรือแม้กระทั่งการเจรจาในเจบีซีทุกอย่างที่เราประท้วง เราพิสูจน์ว่าเราไม่ได้ยอมรับในการเจรจา แม้กระทั่งวันที่ส่งผู้บัญชาการทหารบก ไปคุยกับผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา เขาก็ยืนยันว่าตรงนั้นเป็นของเขาไปแล้ว แต่เราก็ยืนยัน ตรงนี้เป็นเขตที่ให้เอ็มโอยู 43 เข้ามาแก้ปัญหา ซึ่งกระบวนการสันติทำมาตลอด แต่หลายอย่างเราไม่อยากพูด ไม่จำเป็นต้องพูดกลางอากาศ แต่เป็นเวทีที่เราต้องเตรียมพร้อมที่สุด จึงไม่อยากให้เขารู้ว่าเราเตรียมอะไร ซึ่งถ้าในเจบีซีคุยได้ข้อยุติ ก็ดีก็จบ ถ้าไม่มีข้อสรุปก็ต้องให้ตัวแทนกรรมการเจบีซี ไปพื้นที่จริงแล้วไปดูเท่านั้นเอง แล้วเราต้องคิดต่อไปว่าจะดำเนินการโดยมาตรการอะไร

ส่วนก่อนถึงวันที่ 14 มิถุนายน ทั้งสองฝ่ายต้องหยุดทุกอย่างก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า มันเป็นสิ่งที่ควรจะเป็น แต่เราห้ามใจแต่ละฝ่ายไม่ได้ ถ้าอะไรเกิดขึ้นมาเราก็จะประท้วง

“การประชุมJBC ไม่ใช่ว่าเราจะไปยอมศิโรราบเขา หรือฟังคำสั่งเขา เดี๋ยวจะบานปลายอีก เพราะในความเป็นจริง แม้จะรอการประชุมเจบีซีแต่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเขาก็มีการพบกันอยู่แล้ว อย่างแนวเส้นสัตบรรณ เป็นจุดกลางใน no man land ซึ่งทุกคนก็มาเจอกัน นั่งกินข้าวตรงนั้น พอเป็นจุดสามประเทศ ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับที่สมเด็จฮุนเซน เอาภาพมาแสดง เพราะนั่นคือศาลาตรีมุข วันนี้มันจึงสับสนไปหมด จึงอยากให้ทุกคนใช้สติและตรวจสอบข้อมูลก่อน ไม่งั้นเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยโหมกระแส มันจะยากสำหรับการเจรจา และบางเรื่องต้องเสนอด้วยความเข้าใจและข้อเท็จจริงจึงจะเหมาะสม” นายภูมิธรรม กล่าว

ทั้งนี้ มีสถานการณ์ฉุกเฉิน แม่ทัพภาค สามารถสั่งปิดด่านได้เลยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าเป็นการประกาศกฎอัยการศึก แม่ทัพมีอำนาจในการสั่งปิด แต่เมื่อวานที่ตนได้คุยแม่ทัพภาคที่ 2 ก็บอกว่า จะไปทีละขั้น ถ้าไม่มีเหตุการณ์ร้ายเกิดขึ้น จากตรงนี้ไปเราอาจสั่งปิดก็ได้ หรือปิดเป็นช่วงเวลา ก็แล้วแต่มาตรการที่เหมาะสม ที่ไม่ขยายความขัดแย้ง แต่ปัญหาสำคัญคือ มันพร้อมสู่มาตรการนี้หรือยัง

ส่วนที่ กลุ่ม คปท. จะเดินทางไปที่กระทรวงกลาโหม เรื่องนี้ไม่เป็นไร ซึ่งจะมีตัวแทนรับหนังสือ ยืนยันว่าตนเองไม่ได้หนีแต่มีภารกิจประชุมที่ทำเนียบรัฐบาลตลอดทั้งวัน เพราะตนเองได้ทำงาน 2 กระทรวง ทั้งทำเนียบรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ย้ำว่าไม่ได้หนี

เมื่อถามว่า ตอนนี้ชายแดนที่เกิดเหตุแบบนี้ จะสามารถใช้ความสัมพันธ์พิเศษ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และฮุนเซ็น ทำให้ปัญหายุติลงได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีอะไร ฝ่ายปฏิบัติการยังทำเต็มที่ ซึ่งส่วนตัวก็เป็นเรื่องที่นายทักษิณ จะคุยเพื่อช่วยประเทศอย่างไร ซึ่งท่านคุยหรือไม่ตนไม่ทราบ ตนก็ประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกหน่วยงานที่ตนดูแลอยู่ก็เคลื่อนไหวกันหมด

เมื่อถามว่า การประชุมJBC จะคุยเฉพาะในพื้นที่ช่องบกอย่างเดียว ไม่ได้รวมถึงเกาะกูดและพื้นที่อ้างสิทธิ์อื่นด้วยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เวลาเกิดเหตุการณ์ ยิ่งคุยกว้างยิ่งจบยาก หากปัญหาเกิดตรงนี้ เราก็ต้องโฟกัสตรงนี้ เขาต้องการขยายกว้าง แต่เราคุยแคบ หากเราไปตามเขา ก็เท่ากับเปิดประเด็นทั้งหมดที่เป็นปัญหา ถ้าเขาร้อนเราก็ต้องเย็น สื่อแอย่าไปหลงประเด็นเขา เพราะตอนนี้ที่เขาบอกว่าจะขึ้นศาลโลก เขาพูดฝ่ายเดียวก็ไม่มีผลอะไร แต่ถ้าเราไปบอกว่าโอเคหรือไม่โอเค ก็จะเป็นประเด็น ดังนั้นเราต้องอยู่ตรงนี้ ซึ่งกรณีของศาลโลก ในการประชุม ครม.เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2567 ที่เราไม่รับมติของศาลโลก ดังนั้น หากเขานำเรื่องขึ้นศาลโลก ก็ต้องได้รับการยอมรับจากเรา เรายืนยันว่าจะให้จบที่การประชุมเจบีซี ที่เราทำขณะนี้ เราใช้สติในการดูว่าแค่ไหนอย่างไรจึงจะเหมาสมเท่านั้น ตอนนี้เราเตรียมพร้อมตลอดแนวชายแดน โฟกัสจุดที่เป็นปัญหา.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]