เชียงใหม่ 30 พ.ค.- โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่เชียงใหม่ พุ่งติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ โดยเฉพาะซิฟิลิสและเอชไอวี สาเหตุหลักไม่สวมถุงยางอนามัย ขณะที่ยังต้องเฝ้าระวังการระบาดของไข้หวัดใหญ่และโควิด-19
นายแพทย์ฐิติกานต์ ณ ปั่น รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่าตอนนี้เชียงใหม่ยังเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ซึ่งพบผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูฝนที่เชื้อเติบโตได้ดีและระบาดได้ง่าย โดยตั้งแต่ต้นปีพบผู้ป่วยกว่า 11,000 ราย และมีแนวโน้มระบาดรุนแรงกว่าปีที่แล้ว จึงเร่งฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเปราะบาง ทั้งเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ซึ่งหากติดเชื้อจะมีอาการรุนแรงถึงชีวิต โดยได้รับจัดสรรวัคซีน 130,000 โดส ฉีดไปแล้ว 20,000 โดส โดยกลุ่มเสี่ยง 7 กลุ่มสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ ซึ่งครอบคลุมไวรัสที่เข้ามาแพร่ระบาดในไทยได้ขณะนี้
ส่วนการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในเชียงใหม่ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังต้นปีพบผู้ป่วย 3,300 ราย โดยเฉพาะสัปดาห์ที่แล้วตัวเลขพุ่งขึ้นมากว่า 800 ราย ก่อนจะเริ่มลดลงเหลือ 200 ราย ในสัปดาห์นี้ แต่ต้องเฝ้าระวังโดยเฉพาะในช่วงเปิดภาคเรียน เน้นย้ำหากพบผู้ป่วย ควรให้หยุดเรียนไปก่อน พร้อมยืนยันยาต้านไวรัสยังมีเพียงพอ แต่จะให้กับผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงและมีอาการรุนแรง นอกจากโรคที่แพร่กระจายเชื้อทางอากาศแล้ว สิ่งที่น่ากังวลหลังพบเชียงใหม่ มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์พุ่งสูงขึ้นจนติด 1 ใน 5 ของประเทศ


นางสาวภัสสรา ซาลิซส์ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน เปิดเผยว่า ตอนนี้เชียงใหม่ มีผู้ติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ 725 คน หรือร้อยละ 42 ต่อแสนประชากร ส่วนใหญ่เป็นการติดเชื้อซิฟิลิสและเอชไอวี ซึ่งเชียงใหม่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวี สะสมกว่า 22,000 ราย และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ กว่า 300 ราย ส่วนใหญ่อายุ 25-49 ปี ทั้งกลุ่มชายรักชายและชายรักหญิง
สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมทางเพศโดยไม่มีการป้องกัน ไม่นิยมสวมถุงยางอนามัย และความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการกิน ยาเพร๊บ (Prep) ว่าสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ทั้งหมด ฝากเตือนถึงวัยรุ่น นักศึกษาและกลุ่มเสี่ยง หากมีเพศสัมพันธ์ควรใช้ถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วย ทั้งนี้ สามารถรับถุงยาอนามัยได้ฟรีที่หน่วยบริการสุขภาพของรัฐและภาคประชาสังคมทั่วประเทศ หรือขอผ่านแอปฯ เป๋าตัง แล้วรับได้ที่หน่วยบริการใกล้บ้าน. -719-สำนักข่าวไทย