ปาย 25 ก.พ.-เลขาฯ มท.1 บุกพิสูจน์ ”ยิว” ยึดปาย แค่เฟกนิวส์ ทำกระทบท่องเที่ยว เผย “ผู้ดีอังกฤษ” ยืนหนึ่งเที่ยวปาย “ผู้ประกอบการโอดทำรายได้หาย ขณะนักท่องเที่ยวอิสราเอล ยันข่าวยิวยึดปาย เป็นเรื่องโกหก ไร้สาระ
นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน วันนี้(25ก.พ.) เพื่อตรวจกิจกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ก่อนที่ในวันพรุ่งนี้ (26ก.พ.)นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะเดินทางลงพื้นที่ หลังเกิดกระแสข่าวกรณีชาวอิสราเอลที่เข้ามาพำนักและท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอปาย ได้ก่อเหตุการณ์ความวุ่นวาย โจรกรรมสินค้าตามร้านค้า สร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้าน และผู้ประกอบการในพื้นที่ จนมีการติดป้าย “No Israel here” คือ ไม่ต้อนรับชาวอิสราเอล
นางสาวไตรศุลี นำคณะ สังเกตการณ์กิจกรรมล่องห่วงยาง ตามแม่น้ำปาย ซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวตั้งแต่ปี 2565 โดยวันนี้ยังคงมีชาวต่างชาติ รวมกลุ่มกัน หลายร้อยคน สวมชุดว่ายน้ำ ชุดบิกินี่ เข้าร่วมกิจกรรมอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางเสียงเพลงอีดีเอ็ม ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัด 2 ครั้งต่อสัปดาห์ ลักษณะคล้ายฟูลมูนปาร์ตี้ที่เกาะพะงัน โดยกิจกรรมจัดเวลากลางวันเริ่มตั้งแต่ 13.30 น จนถึง 18:00 น.
นางสาวไตรศุลี กล่าวว่า ตามข้อสั่งการ นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่ได้สั่งให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนคนไทย จากกรณีที่มีกระแสข่าว ว่าความจริงเป็น อย่างไร และมารับฟังความต้องการของผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร โดยในวันพรุ่งนี้(26 ก.พ.) นายอนุทินจะนำคณะลงพื้นที่ร่วมกับสื่อมวลชน พร้อมกับนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย โดยจะมีการประชุมและรับฟังเพื่อแก้ไขปัญหาและสิ่งที่เกิดขึ้น
นางสาวไตรศุลี ยังเปิดเผยว่า แท้จริงแล้วตัวเลขนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาเป็นอันดับหนึ่งยังเป็นชาวอังกฤษ ส่วนประเด็นนักท่องเที่ยวชาวยิวที่มีปัญหาลดลง เมื่อช่วงเช้าได้มีการประชุมกับผู้ประกอบการในพื้นที่ ว่าได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง โดยปกติจำนวนนักท่องเที่ยวที่มาทำกิจกรรมล่องห่วงยางจะมีประมาณ 500 – 600 คน แต่ช่วงนี้ลดลงเหลือประมาณ 200- 300 คน จึงสะท้อนให้เห็นว่านักท่องเที่ยวลดลง
ด้าน นายชัยวิชช์ สัมมาชีววัฒน์ อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวอำเภอปาย กล่าวเสริมถึงกระแสข่าวนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอลย้ายมาตั้งถิ่นฐานในอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ของประเทศไทย ว่าภายหลังจากที่มีข่าวปลอมออกไปส่งผลให้นักท่องเที่ยวหลายๆชาติเกิดความสงสัย และเริ่มมีความไม่มั่นใจที่จะเดินทางมาเที่ยวในอำเภอปาย เราจึงพยายามประชาสัมพันธ์ว่าแท้จริงแล้วไม่ได้มีอะไรเลย และอำเภอปายยังต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เนื่องจากข่าวปลอมที่ถูกปล่อยมาจากคนกลุ่มหนึ่งที่ไม่พอใจและพยายามจะสร้างกระแสข่าวนี้ขึ้นมา ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กลัวกันไปเอง เวลามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็จะวิตกกันไปเอง ซึ่งเป็นธรรมชาติของข่าวอยู่แล้ว โดยเฉพาะข่าวคนไทยไม่เอาอิสราเอล และเป็นปัญหาที่ร้ายแรงมาก ฉะนั้นเราต้องทำให้เขาสบายใจ และเบาใจลงว่าเป็นข่าวไม่จริง
ส่วน การท่องเที่ยวจากชาวต่างชาติจริงๆแล้วส่งผลดีหรือผลเสียต่อคนในพื้นที่ไม่ นายชัยวิชช์ ยืนยันว่า เป็นผลดี เพราะถ้าไม่มีการท่องเที่ยว อำเภอปายก็จะเป็นเพียงพื้นที่เกษตรกรรมเท่านั้น การท่องเที่ยวทำให้อำเภอปาย สร้างรายได้ให้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอนเป็นจำนวนมาก ซึ่งในปีที่ผ่านมาสามารถทำรายได้ให้กับประเทศ กว่า 7 พันล้านบาท มาจากพื้นที่อำเภอปายและปางอุ๋ง บ้านรักไทย ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก แต่ต้องยอมรับว่าทุกชาติทุกภาษานั้นมีปัญหาหมด ไม่ใช่แค่เฉพาะอิสราเอล ไม่อยากให้ไปโจมตีนักท่องเที่ยวชาวอิสราเอล
ส่วนในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการในพื้นที่อยากจะบอกอะไรกับคนนอกพื้นที่ ที่ดูเหมือนว่าจะห่วงใยคนอำเภอปาย มากกว่าคนในพื้นที่เอง นายชัยวิชช์ กล่าวว่า ตนได้เดินทางไปกรุงเทพฯมา มีแต่คนถามว่าอิสราเอลจะมายึดปายจริงหรือไม่ จึงขอยืนยันว่าไม่ใช่ข้อเท็จจริง เป็นเพียงการปล่อยข่าวของคนกลุ่มหนึ่งเท่านั้น
สำหรับการปักป้ายห้ามคนไทยเข้าโบสถ์ นายชัยวิชช์ ย้ำว่าไม่จริง ในโบสถ์ก็ไม่มีและก็ไม่เคยเห็น โดยสาเหตุเกิดจากการรวมกลุ่มของคนกลุ่มหนึ่งและไปกระตุ้นในเพจต่างๆ จึงทำให้เกิดกระแสความเกลียดชัง เราจึงพยายามทำความเข้าใจกับคนกลุ่มนี้อยู่ ซึ่งขอเวลาสักระยะหนึ่ง อาจจะต้องมีการพูดคุยกันให้มากกว่านี้
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวหลังจากนี้จะมีมาตรการจูงใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวอย่างไรบ้าง นายชัยวิชช์ กล่าวว่า อยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกชาติทุกภาษา อำเภอปายเป็นเมืองที่น่ารักสงบและมีบรรยากาศในการท่องเที่ยวที่ดีในหลายเรื่อง ไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวลือ จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนมาเที่ยวอำเภอปาย
ขณะที่ นายโนอาม มูอัลมี นักท่องเที่ยวอิสราเอล บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ได้ยินข่าวเรื่องที่ไม่ดี เกี่ยวกับคนอิสราเอลใน อ.ปาย เป็นเพียงแค่พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวกลุ่มเล็กๆ ซึ่งนักท่องเที่ยวอิสราเอลส่วนใหญ่ต้องการมาพักผ่อนและท่องเที่ยวในอ.ปาย รวมถึงได้เรียนรู้วัฒนธรรมเท่านั้น ซึ่งเหตุผลที่เลือกอ.ปายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพราะมองปายเป็นเหมือนสถานที่ธรรมดาๆ ที่มีบรรยากาศสบายๆ มีธรรมชาติที่สวยงามและผู้คนก็น่ารัก ทุกๆอย่างที่นี่น่าอัศจรรย์มาก
นายโนอาม ยืนยันว่าปาย จะไม่ถูกยึดครองโดยคนอิสราเอล เพราะข่าวที่ออกมาค่อนข้างไร้สาระ ถ้าใครปล่อยข่าวนี้ขึ้นมาขอยืนยันว่าเป็นเรื่องโกหก เพราะว่ามันเป็น fake news นักท่องเที่ยวอิสราเอลแค่อยากมาผ่อนคลายใช้ชีวิต ให้จิตใจสงบสุขแค่นั้น.-319.-สำนักข่าวไทย