22 ก.พ.- “ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อแม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผยตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์
น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง หรือ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ระบุว่าตั้งแต่ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา พบพิรุธหลายอย่าง ทั้งผู้ชาย 3 คนว่าเป็นใคร พิรุธแม่ เพราะลูกถูกกระทำแบบนั้น แต่แม่ไม่ร้องไห้เสียใจแม้แต่น้อย และพิรุธพ่อเลี้ยง พอลงพื้นที่ไล่กล้องวงจรปิด เลยตัดเรื่องผู้ชาย 3 คนออกเลยเพราะไม่มีอะไรชี้ชัด จากนั้นได้รู้ไทม์ไลน์ของแม่ หลังจากส่งน้องแล้ว ไม่มีใครคนอื่นอยู่กับน้องยกเว้นพ่อเลี้ยง เพราะแม่ต้องไปทำ OT ตั้งแต่ 18:00-21:00 น. ในวันนั้นตนได้พูดคุยกับแม่ ถามแม่ว่ามีอะไรที่อยากพูด อยากบอก แต่ยังไม่พูด หรือไม่กล้าพูดไหม แม่ตอบว่าไม่มี พูดไปหมดแล้ว และตอนที่แม่และพ่อเลี้ยงไปเยี่ยมลูกที่ รพ. ตนก็รอคุยอยู่ที่บ้าน พอทั้งคู่กลับมาพ่อเลี้ยงมีพิรุธ คือ พอเจอหน้าตนปุ๊บก็บอกให้คนเป็นแม่อัดวิดีโอไว้ จากนั้นผู้ใหญ่บ้านจึงได้ประสานให้มาพูดคุยกันที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน พอไปนั่งคุย แม่ก็จะคุยถามตอบปกติ ส่วนพ่อเลี้ยงนั่งกังวลและพูดแทรกว่ามีหลักฐานว่าน้องยอมรับแล้วว่าใครเป็นคนทำ เกิดเรื่องยังไง แต่พอเปิดคลิปฟังกลับไม่ได้ยินเสียงน้องเลยสักนิด มีแค่เสียงอุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่ตนไม่กล้าฟันธงว่าใช่หรือไม่ใช่ จากนั้นตนได้ถามย้ำแม่ว่า ทำไมเชื่อว่าลูกถูกผู้ชาย 3 คนกระทำ แม่บอกว่าลูกชอบโกหก ตนเลยพยายามเกลี้ยกล่อมให้เชื่อลูกสักครั้ง จนแม่ยอมเชื่อ 50/50 นอกจากนี้ก็ยังมีไทม์ไลน์ที่ยังพูดไม่ได้ เพราะตัวพ่อเลี้ยงไม่ได้รับสารภาพ ตำรวจก็ต้องใช้หลักฐานอีกหลายอย่างที่เอามาพูดไม่ได้ ไปต่อสู้ในชั้นศาล
เมื่อวานก็ได้ทราบเรื่องจากสหวิชาชีพชลบุรีว่า แม่เชื่อลูกแล้ว และพูดว่าถ้าหลักฐานชี้ชัดว่าสามีเป็นคนทำลูก ก็ไม่เอาไว้ และเมื่อวานแม่ได้ถามลูก ได้ฟังกับหูตัวเอง น้องยอมพูดกับแม่ว่าใครทำ พอแม่ได้ฟังก็ร้องไห้หนักมาก จนปรากฏเป็นภาพ 2 แม่ลูกกอดกัน และยังมีภาพน้องจับมือแม่ พร้อมพูดว่า “อย่าทิ้งหนูนะ หนูอยากอยู่กับแม่” และกอดกันร้องไห้ ซึ่งต้นอ้อเองก็ยอมรับว่าก่อนหน้านั้นก็รู้สึกโกรธแม่ ว่าทำไมไม่โฟกัสที่ลูก ว่าทำยังไงให้ลูกหาย ให้ลูกมีชีวิตปกติ แต่กลับไปโฟกัสหาพยานหลักฐาน สร้างหลักฐานในการช่วยสามี แล้วสังคมก็ด่า และในระหว่างที่น้องรักษาตัว สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด หรือ พมจ. ก็ต้องประกบลูก และประเมินแม่ ว่าหลังจากนี้จะต้องเลี้ยงดูลูกยังไง เพราะน้องไม่เหมือนเด็กปกติ ต้องใช้ลำไส้เทียม ต้องเปิดหน้าท้องอีกหลายเดือน
นอกจากนี้ยังมีเรื่องดีๆ คือ ทีมสหวิชาชีพชลบุรี และทาง ผกก. ได้เอาตุ๊กตาให้น้อง เพราะน้องบอกอยากได้กล่องจุ่ม ส่วน ผกก.ซื้อตุ๊กตาแคร์แบร์ให้น้องกอดตอนรักษาตัว แต่ถ้ามันมากเกินไปก็จะแบ่งปันตุ๊กตาให้น้องๆ คนอื่นที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับน้องได้มีกำลังใจขึ้นมา ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้น
ส่วนประเด็นที่พ่อเลี้ยงอ้างว่า ตนอาบน้ำ DNA เลยกระเด็นใส่ ต้นอ้อบอกว่า การหาความรู้เป็นสิ่งสำคัญมาก แทนการพูดเองเออเอง ตนไม่ทราบว่าตำรวจจะไปเจอ DNA ของเขาที่ส่วนไหน ตรงไหน แต่ตนมองว่าเขารีบร้อนแก้ตัวเกินไป แต่เพราะตำรวจนำตัวเขาไปตรวจ DNA เขาเลยรีบแย้งขึ้นมาว่าเป็นการอาบน้ำ โดยที่ไม่มีใครพูด ใครถาม แต่พูดขึ้นมาก่อน ก็ปล่อยให้เขาพูดไป สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับผลตรวจ
ส่วนตัวมองว่า แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อคำสามีที่บอกว่าไม่ได้ทำ และลูกอาจจะเคยโกหกเขา แต่ตอนนี้เขาเชื่อลูก ตนก็รู้สึกโอเคแล้ว และทางตำรวจทำงานเร็วมาก มีการแจ้งความเมื่อ 13 ก.พ. วันที่ 17 ก.พ. สามารถจับกุมตัวพ่อเลี้ยงได้ ก่อนจะมีการฝากขังวันที่ 18 ก.พ. ส่วนอาการของน้อง ตอนนี้อาการดีขึ้น หลังจากที่ได้เปิดใจคุยกับแม่ก็ดูสดใสขึ้น ส่วนแผล น้องต้องรักษาตัวอย่างต่ำ 3 สัปดาห์ -420 .- สำนักข่าวไทย