กทม.27 ธ.ค.-“วิษณุ” เสนอตั้งกรรมการนวัตกรรมทางการศึกษา Active Learning พร้อมภาครัฐสานต่อเพื่อการศึกษาในอนาคต
นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรีผู้ขับเคลื่อนนโยบายด้านการศึกษากล่าวว่า หลักสูตร Active Learning โดยเฉพาะในรูปแบบ GPAS 5 Steps มีศักยภาพสูงในการพัฒนาผู้เรียนให้คิด วิเคราะห์ และลงมือปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการเรียนรู้ที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีหรือสื่อการสอนราคาแพง อาทิ สมาร์ตบอร์ด หรือแอปพลิเคชันเฉพาะทาง แต่อาศัยเพียงการออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ให้เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน เช่น การแก้ปัญหาเชิงปฏิบัติ การเรียนรู้แบบโครงงาน และการคิดวิเคราะห์แบบเชิงระบบ
นายวิษณุยังเปรียบเทียบว่า หากมีการเปลี่ยนไปใช้หลักสูตรอื่น เช่น หลักสูตรฐานสมรรถนะ (Competency-Based Curriculum) หรือปรับหลักสูตรแกนกลาง (หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551) ใหม่ทั้งหมด อาจนำมาซึ่งภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับรัฐบาลและผู้ปกครอง ทั้งในเรื่องการจัดพิมพ์หนังสือเรียนใหม่ การอบรมครูผู้สอน และ การจัดหาสื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่อาจไม่จำเป็นต่อกระบวนการเรียนรู้ในบริบทของโรงเรียนขนาดเล็กหรือในพื้นที่ชนบท
หลักสูตร Active Learning หรือพัฒนาการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน เน้นการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ของผู้เรียนผ่านขั้นตอนสำคัญ 5 ขั้น ได้แก่ การกำหนดเป้าหมาย (Goal Setting) : นักเรียนและครูร่วมกันกำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ การเตรียมการเรียนรู้ (Preparation) : วางแผนการเรียนรู้ร่วมกัน การปฏิบัติ (Action) : ลงมือทำกิจกรรมที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริง การตรวจสอบและปรับปรุง (Supervision and Revision) : วิเคราะห์และปรับปรุงผลลัพธ์ การประเมินผล (Evaluation) : สรุปผลการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น
นายวิษณุเชื่อว่า แนวทางที่จะประสานกับรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้มีการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาระบบของประเทศนั้น รัฐบาลคงทราบอยู่แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร แต่ว่าสิ่งที่ผมสามารถแนะนำช่วยเหลือได้ก็จะทำ อาศัยว่ารู้จักมักคุ้นกันกับคนในรัฐบาล อาจจะแนะนำหรือบอกกล่าวไป แต่บางครั้งอาจจะมีคนที่แนะนำดีแล้วก็ได้ ต้องช่วยกันหลายคนหลายฝ่าย อย่างที่ผมเรียนให้ทราบว่าอาศัยความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคเอกชนเอง นักการศึกษา และนักวิชาการคุรุศาสตร์เอง คงจะต้องให้คำแนะนำต่อกระทรวงศึกษาธิการในเรื่องนี้ และที่สำคัญที่สุดคืออย่าดื้อ คือเขาแนะนำก็นำไปพิจารณา
“รัฐบาลจึงควรเร่งผลักดันแนวทางนี้อย่างจริงจัง เพื่อสร้างการศึกษาไทยที่ยั่งยืนและตอบโจทย์อนาคตของประเทศ ความคาดหวังของสังคมไทย เด็กไทย ต่อขบวนการที่เราจะปฏิรูปการศึกษา เมื่อรัฐบาลตั้งตัวติด ก็จะให้สัญญาอยู่แล้วว่าปีใหม่นี้จะได้เห็นนโยบายแปลกๆ ใหม่ๆ เกิดขึ้น ท่านนายกฯ ก็ไปปาฐกถาเมื่อไม่นานมานี้ว่าวิสัยทัศน์ประเทศต่อไปนี้จะเป็นอย่างไร แต่นั่นเป็นเรื่องในทางเศรษฐกิจ ทางสังคม การศึกษาก็เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่ผมเชื่อว่าถ้ารัฐบาลมีนโยบายชัดเจน และการศึกษาฯ ก็รับสนอง นโยบายนั้นจะเดินหน้าในเรื่องนี้ได้ต่อไป”นายวิษณุกล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย