“โรม” รับไม่เคยเจอของยาก เท่าแดนพิศวงชั้น 14

รัฐสภา 22 พ.ย.- “โรม” รับ ไม่เคยเจอของยาก เท่าแดนพิศวงชั้น 14 เตรียมซักถาม รมว.ยุติธรรม วันนี้ วาง 3 หลัก ส่งตัว-รักษา-ส่งออก “ทักษิณ” ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ พร้อมมองยังไม่น่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครอง


นายรังสิมันต์ โรม ประธานคณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูป สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึง การเชิญหน่วยงานให้ข้อมูล กรณีนายทักษิณ ชินวัตร ว่าวันนี้เป็นการพิจารณาต่อเนื่องจากรอบที่แล้ว ที่ผ่านมายอมรับว่าข้อมูลหลายส่วนไม่สมบูรณ์ วันนี้เราเชิญบุคคลมาเกือบ 20 คน กว่า 14 หน่วยงาน เรียกเอกสารไปเกือบ 10 ชุด เราก็หวังว่า จะได้รับความร่วมมือที่ดี ให้ได้ข้อมูลสมบูรณ์มากขึ้น เราติดตามทางกรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรม โดยที่ปรึกษากระทรวง ไม่เคยเห็นการออกมาแถลงก่อนเชิญ 1 วัน ซึ่งยอมรับว่าเป็นการแถลงที่ไม่เข้าใจข้อกฎหมาย และไม่เข้าใจหน้าที่ของสภาฯ หรือกรรมาธิการ ตนอยากบอกว่าหากพูดถึงความมั่นคง สำหรับหลักสำคัญ คือความยุติธรรมประเทศ ที่ปราศจากความยุติธรรม มีความเหลื่อมล้ำ มีการใช้อภิสิทธิ์ชน อยู่เหนือกฎหมาย ไม่ปฏิบัติตามกฏหมาย เหมือนประชาชนคนอื่น คิดว่าประเทศแบบนี้เป็นประเทศที่มีความมั่นคงหรือไม่ การที่ประชาชนเสียความเชื่อมั่น สร้างความเสียหายให้ประเทศในระยะยาว

นายรังสิมันต์ ยืนยันว่า เรื่องเหล่านี้ ไม่ได้ซับซ้อนณ วันนี้ เรายังไม่ได้มีการพิจารณาอะไรซับซ้อนกว่าคณะกรรมาธิการชุดอื่น และยืนยันว่ากรรมการความมั่นคงแห่งรัฐ เราไม่ได้เข้าไปทำให้องค์กรอิสระ อย่างป.ป.ช.ปฏิบัติงานไม่ได้ เราไม่ได้เชิญ ป.ป.ช.มาด้วยซ้ำ และหากเราพบกับการกระทำที่ผิดกฎหมาย เราพร้อมให้ความร่วมมือ กับองค์กรอิสระจริงๆ ซึ่งถือเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบการทำงานของหน่วยงานราชการ และรัฐบาล พร้อมยืนยันว่า วันนี้เราพยายามแสวงหาข้อมูลอย่างเต็มที่ ในการทำหน้าที่ของเรา ในฐานะฝ่ายตรวจสอบ แต่ขณะเดียวกัน เราก็เป็นลอว์เมคเกอร์ ฝ่ายนิติบัญญัติ นำข้อมูลนี้ เป็นสารตั้งต้น เพื่อปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมต่อไป


ส่วนรายละเอียดเป้าหมายวันนี้ อยากเน้นย้ำ 3 ช่วง คือ ช่วงแรก การส่งตัวนายทักษิณ ไปโรงพยาบาลตำรวจ สุดท้ายแล้วส่งตัวโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เช่นมีรายละเอียดว่าป่วยจริงหรือไม่ ลำดับถัดมา คือการอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ เป็น 100 กว่าวัน สุดท้ายแล้วเป็นการอยู่โดยชอบหรือไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องวีไอพีหรือไม่ และจากนั้น คือการออก เป็น 3 ส่วนสำคัญ ที่เราจำเป็นต้องวางหลัก และค้นหาข้อเท็จจริงต่อไป

พร้อมยืนยันว่าการทำหน้าที่ในครั้งนี้ และหน่วยงานที่คิดว่าทำหน้าที่โดยสุจริต ก็ขอให้มาชี้แจงให้ครบถ้วน ซึ่งได้ข่าวว่า วันนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ก็จะเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลกับกรรมาธิการด้วย แต่ยังไม่เห็นชื่อลำดับที่ 1 คือ นายทักษิณ แน่นอนว่าเราไม่มีอำนาจ ตามโทษทางกฎหมาย แต่โทษในความเข้าใจ ในความคิดของสังคม เป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ควรละเลย นายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ท่านก็คงมีผลงานหลายเรื่อง ที่สังคมอาจจะชื่นชม แต่ไม่ควรเอาทุกสิ่งที่เคยทำ มาทิ้งไว้ที่นี่

ส่วนการที่เชิญแต่แล้วนายทักษิณไม่มานั้น นายรังสิมันต์ กล่าวว่าวันนี้รัฐมนตรีมา ก็หวังว่า จะได้ข้อมูลมากขึ้นและคงจะพิจารณาต่อไป ว่าข้อมูลเหล่านี้เพียงพอหรือยัง ก่อนจะพิจารณาเดินหน้าต่อหรือไม่ ซึ่งหากเราได้ข้อมูลมาก่อน ก็จะสามารถวางแนวทางได้ ส่วนครั้งต่อไปจะเชิญนายทักษิณ หรือไม่ ก็ต้องดูข้อมูลในวันนี้ แต่หากข้อมูลเป็นเชิงลบต่อนายทักษิณและรัฐบาล เราก็เดินหน้าต่อในการเอาผิดแต่ถ้าเกิดข้อมูลเป็นบวก ทุกอย่างทำถูกกฎหมายไม่มีข้อพิรุธ วาระซ่อนเร้น ก็เป็นเรื่องที่กรรมาธิการไม่มีเหตุผลที่จะดำเนินการต่อไป แต่อย่างไรก็ตามในช่วงเวลาที่ผ่านมา พบว่ามีความน่าสนใจ ของการให้ความร่วมมือของหน่วยงานราชการต่อเนื่อง เราพิจารณามา โดยเชิญหน่วยงานมากว่า 100 หน่วย ตนไม่เคยเจอความยากลำบากมากขนาดนี้ตนเป็น สส.สมัยที่2 ก็ไม่เคยเจอความยากลำบากขนาดนี้ ค่อนข้างท้าทาย ว่าป่วยจริงหรือไม่ทำไมมันยากอย่างนี้ในการเข้าถึงข้อมูล


นายรังสิมันต์ ระบุ ตนคิดว่าต้องพูดโดยตรงกับรัฐมนตรียุติธรรม ว่าท่าทีของกระทรวงไม่ควรเป็นแบบนี้ ซึ่งที่ผ่านมาการเชิญกระทรวงยุติธรรมมาในท่าทีที่ใช้พีดีพีเอ หรือกฎหมายปกป้องส่วนบุคคล กับกรรมาธิการ แต่ในความเป็นจริงกฎหมายเรื่องนี้ ไม่ได้ครอบคลุมรวมไปถึงการทำหน้าที่ของกรรมาธิการ ซึ่งเราสามารถทำได้ แต่พอเมื่อวานก็พยายามย้ำอีกว่า เรามีอำนาจอย่างนั้นอย่างนี้ ตกลงแล้วท่านต้องการที่จะให้ข้อมูลกับเราหรือไม่ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ไม่สุจริต แสดงว่าไม่ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ม. 129 เป็นท่าทีที่ไม่สมควร ที่จะเกิดขึ้นจากหน่วยงานรัฐ และตัวรัฐบาลเอง

ส่วนในวันนี้ คดีอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะพิจารณา ความเห็นว่าจะรับหรือไม่รับ นายรังสิมันต์ มองว่าตนไม่อยากลงรายละเอียดเรื่องนี้ พูดตรงตรง อีกไม่นานแล้ว ก็ต้องรอดู ว่าเป็นอย่างไร แต่คิดว่าสิ่งสำคัญของวันนี้ เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม และอยากให้เรารู้สึกว่าเป็นกระบวนการยุติธรรมของพวกเราทุกคนจริงๆ ถ้าปล่อยให้กระบวนการยุติธรรม เป็นแบบนี้ สิ่งที่เราต้องถามตัวเรา คือ เรารู้สึกสบายใจหรือไม่ ที่บางคนได้รับการปฏิบัติอย่างอภิสิทธิ์ชน ต่อกระบวนการยุติธรรม หมายถึงวันหนึ่งเราอาจจะเข้าไปส่วนหนึ่งที่อาจถูกดำเนินการ ที่อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้คำถามคือ เราจะรู้สึกปลอดภัย หรือแฟร์ หรือไม่ และอยากฝากไปถึงข้าราชการทั้งหมด ว่าถ้าเรื่องนี้มีมูลความผิดจริง เช่นแกล้งป่วย ป่วยทิพย์ มีการใช้อำนาจไม่ชอบ อยากให้พึงละรึก ว่าที่ผ่านมามีคนจำนวนมาก พยายามช่วยคุณ…สักคนหนึ่ง และถูกดำเนินคดีติดคุกไปตั้งเยอะ อย่าไปคิดว่าการที่เราทำทุกอย่าง เพื่อบางคน สุดท้ายเราจะจะพ้น และไม่ติดคุก อยากให้ข้าราชการน้ำดีทุกคนบรรดาเหล่านาตาชาทั้งหลาย ที่รู้สึกว่าเรื่องนี้ ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ก็สามารถส่งเรื่องมาที่คณะกรรมาธิการ เราพร้อมที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบต่อไป ในฐานะกรรมาธิการ และหวังว่าข้อมูลเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์ ทำให้เรา และกระบวนการยุติธรรม ของเราดีกว่านี้

ส่วนที่นายทักษิณถูกฟ้องเรื่องนี้ในศาลรัฐธรรมนูญในลักษณะล้มล้างการปกครองเข้าข่ายหรือไม่ นายโรม กล่าวว่านิยามของการล้มล้างการปกครอง น่าจะต้องตีความให้แคบกว่านี้ ซึ่งต้องนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง และระบบการเมืองการปกครอง จริงๆ เรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับทักษิณมาก่อน แต่เกิดขึ้นกับพวกเราพรรคก้าวไกล และหลายๆกรณี การนิยาม และตีความ ในช่วงเวลาที่ผ่านมา พูดตรงตรง มีปัญหาในทางข้อกฎหมายมาก ส่วนตัวไม่ได้เห็นว่ากรณีของชั้น 14 หรืออะไรก็แล้วแต่ ไม่ได้ตีความไปถึงการเปลี่ยนการปกครองไปอีกแบบหนึ่ง ไม่น่าตีความเป็นแบบนั้น แต่ชั้น 14 ก็เขย่ากระบวนการยุติธรรม และทำลายความเชื่อมั่นของระบบยุติธรรม ของประเทศเราอย่างมาก

ส่วนที่คำร้องถูกหยิบยกเกี่ยวกับสมเด็จฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรี นายรังสิมันต์ กล่าวว่าไม่น่าจะเกี่ยว เพราะว่าประเทศไทย มีสายสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ เยอะแยะ มากมาย ในเรื่องของสมเด็จฮุนเซน เข้าใจว่าเจอกันล่าสุด ไม่น่าจะเจอกันในฐานะตัวแทนแห่งรัฐ แต่เป็นเรื่องสายสัมพันธ์ส่วนตัว เราก็วิจารณ์กันไปว่าเหมาะสมอย่างไร ตนคิดว่าสังคมไทยจะต้องตั้งหลัก เพราะเรื่องสำคัญในวันนี้คือเรื่องของกระบวนการยุติธรรม แน่นอนเราอาจจะไม่พอใจนายทักษิณหลายเรื่อง อย่างตนก็มีข้อวิพากษ์วิจารณ์หลายเรื่อง แต่เราคงไม่ถึงขั้นเอาทุกเรื่องมาผูกโยง และปนกัน ตนคิดว่าต้องแยกแยะพิจารณาตามข้อเท็จจริง วันนี้ตนทำหน้าที่ในฐานะประธานกรรมาธิการความมั่นคง ยืนยัน กับท่านทั้งหลายในที่นี้ว่า เรื่องนี้ เราตรวจสอบเฉพาะเรื่องกระบวนการยุติธรรม หากมีการดำเนินการทำตามกฏหมาย ตามข้อเท็จจริง ซึ่งฝ่ายรัฐบาล และผู้มีอำนาจเกี่ยวข้อง วันนี้ตนต้องการสปิริทจากทุกคนขอให้ช่วยกันแสดงสปิริทออกมา เอาข้อมูลมาให้กรรมาธิการ เรื่องกฎหมายมีความท้าทายหลายอย่าง ประเทศของเราวันนี้ เราต้องการคนที่มีจิตวิญญาณ อดทนไม่ได้ต่อระบบยุติธรรมที่กำลังเป็นแบบนี้ ดังนั้นขอให้ช่วยกันช่วยส่งข้อมูลมาให้เราและเราจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุด

ตนทราบดีว่า เรื่องนี้เป็นแดนพิศวง จะพยายามทำเรื่องนี้คลี่คลายให้ได้มากที่สุด อย่างน้อยเราจะใช้โอกาสนี้ ทำให้กระบวนการยุติธรรมมันดีกว่าที่ผ่านมา.312 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ