ปชป. เปิดวอร์รูม ติดตาม-เฝ้าระวัง รับแจ้งเหตุน้ำท่วม

ประชาธิปัตย์ 25 ส.ค. – “ประชาธิปัตย์” เปิดวอร์รูม ติดตาม เฝ้าระวัง รับแจ้งเหตุสถานการณ์น้ำท่วม ผ่านโซเชียลมีเดีย “สมบัติ – นราพัฒน์” พร้อมเคียงข้าง สุขทุกข์ไม่ทิ้งกัน


นายสมบัติ ยะสินธุ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคเหนือ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค ดูแล กทม. และนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ตามภารกิจ และ น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร รองโฆษกพรรค ได้ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ ในการสนับสนุนของ มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช

นายสมบัติ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนืออย่างใกล้ชิด และทำหน้าที่เป็นส่วนกลางคอยสนับสนุนเพื่อแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าช่วยเหลือให้ทันท่วงที โดยให้อาสาของพรรคในทุกพื้นที่ทำหน้าที่แจ้งข่าวและแจ้งประสานขอความช่วยเหลือมายังพรรค ซึ่งขณะนี้พบว่ามี 4 จังหวัดกำลังประสบอุทกภัยอย่างหนัก โดยในวันอังคาร (28 ส.ค.) นี้ ตนในฐานะที่เป็นรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคเหนือ จะได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ตามภารกิจ จะลงพื้นที่จังหวัดน่าน และทำงานร่วมกับอาสาของพรรค


“พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้นิ่งดูดาย เราได้ติดตามสถานการณ์ภาคเหนือมาโดยตลอด พวกเรายังเป็นที่พึ่ง และทำงานเกาะติดใกล้ชิดพื้นที่อยู่อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองในการทำหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน” รองหัวหน้าพรรคดูแลภาคเหนือ กล่าว

นายนราพัฒน์ ได้กล่าวเสริมว่า ในขณะนี้มวลน้ำได้อยู่ทางตอนบนของภาคเหนือตอนบน และในอีกระยะจะเข้าสู่พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ทางพรรคได้ทำงานร่วมกับมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เพื่อติดตามสถานการณ์ และจัดสรรถุงยังชีพเข้าช่วยเหลือในเบื้องต้น ขณะเดียวกันจะพบว่าขณะนี้ในพื้นที่อุทกภัยจะมีความสับสน ทำให้การติดต่อหน่วยงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้ทางพรรคได้รับการติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนว่ายังไม่มีหน่วยงานเข้าดูแลช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ โดย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน จึงได้มอบหมายให้ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งอยู่ในการดูแลของ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ กทม. เป็นตัวขับเคลื่อน พร้อมกับมีการจัดทำแพลตฟอร์มเพื่อรับแจ้งความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งสามารถส่งข้อความมาได้ที่ https://form.democrat.or.th/flooding2567 เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ โดยมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ทั้ง สส. และอดีต สส. ของพรรค ตลอดจนเครือข่ายของพรรค ประธานสาขาของพรรค และอาสาของพรรค ได้เข้าไปดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิดต่อไป

ด้าน นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า สถานการณ์วันนี้มีกลิ่นคล้ายกับน้ำท่วม ปี 54 ที่เริ่มต้นในลักษณะเดียวกัน คือมีฝนตกหนักทางตอนเหนือของประเทศ และมวลน้ำทั้งหมดไหลลงสู่อ่าวไทย แต่วันนี้ก่อนที่มวลน้ำจะเข้าสู่ภาคกลาง และอาจเป็นกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์จึงได้เปิดระบบติดตามวิกฤติน้ำท่วม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ เพราะจะพบว่าปัญหาน้ำท่วมคนจะช่วยตอนน้ำขึ้น แต่ความจริงแล้วหลังจากน้ำลด ปัญหาจะหนักกว่าเยอะ เนื่องจากบ้านเรือนเสียหาย ประชาชนทำมาหากินลำบาก เราจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลประชาชน โดยท่านสามารถเข้ามาในระบบของพรรค ท่านเดือดร้อนตรงไหน เราจะรวบรวมเพื่อส่งให้พรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่เข้าไปดูแลและทำหน้าที่ประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบ เราจะขอเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการดูแล เยียวยา ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้


“หากฝนตกมากกว่าที่พยากรณ์ และมีพายุซ้ำเติม จะทำให้แม่น้ำเจ้าพระยารับเละ ถ้าเกิดจะประทังก็จะไปตายที่อยุธยา กลายเป็นว่าคนอยุธยาต้องไปรับเคราะห์แทนคนกรุงเทพฯ มันก็ไม่แฟร์ วันนี้ถ้าตัดไฟตั้งแต่ต้นลม จัดการน้ำให้ได้ตั้งแต่ภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนกลางให้เรียบร้อย มาถึงตรงนี้ก็จะบรรเทาลงไปได้ แต่วันนี้จะเห็นว่าการรับมือสถานการณ์ตั้งแต่ เชียงราย มาถึงน่าน ยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะชาวบ้านได้รับความเสียหายหนัก และยังไม่มีการประเมินข้อเท็จจริง เพราะการมาบอกว่าไม่เหมือนกัน ไหนตัวเลข การประเมินบอกว่าเอาอยู่ ไหนตัวเลข ที่จริงแล้วเรื่องน้ำก็คือเรื่องคณิตศาสตร์ ถ้าวันนี้เราพอบอกได้ว่ามีมวลน้ำอยู่แค่ไหน การจัดการของกระทรวงเกษตรฯ ทำอย่างไร เราพอจะประเมินได้ แต่วันนี้บอกจริงๆ ว่า เราเสียวนะ แล้วเราก็กลัวด้วย ยิ่งกว่านั้น ปี 54 สถานการณ์โลกร้อน น้ำทะเลหนุนยังไม่เท่าปีนี้ ผมห่วงเหลือเกิน ปีนี้เพิ่งเดือนสิงหา ยังไม่กันยา แต่ที่น่ากลัวคือตุลาคม ซึ่งเป็นจุดสำคัญ ถ้าน้ำทะเลหนุนแม่น้ำเจ้าพระยา ผมว่าสถานการณ์นี้เราประมาทไม่ได้” นายสุชัชวีร์ กล่าว

น.ส.เจนจิรา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์อุทกภัยส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบทั่วทุกภาคกว่า 50,000 ครัวเรือน ที่ผ่านมา พรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีการพูดคุยในกรรมการบริหารพรรค และ สส. โดย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค จึงกำชับให้รองหัวหน้าพรรค และ สส. ของพรรค ได้ส่งทีมงานลงพื้นที่ช่วยประสานความช่วยเหลือจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ในเรื่องเครื่องอุปโภค บริโภค และถุงยังชีพ พร้อมประเมินสถานการณ์รายงานในทุกระยะ และพรรคประชาธิปัตย์ ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบภัย และส่งแรงใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติอุทกภัยในครั้งนี้ไปได้ด้วยดี .-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย