ปชป. เปิดวอร์รูม ติดตาม-เฝ้าระวัง รับแจ้งเหตุน้ำท่วม

ประชาธิปัตย์ 25 ส.ค. – “ประชาธิปัตย์” เปิดวอร์รูม ติดตาม เฝ้าระวัง รับแจ้งเหตุสถานการณ์น้ำท่วม ผ่านโซเชียลมีเดีย “สมบัติ – นราพัฒน์” พร้อมเคียงข้าง สุขทุกข์ไม่ทิ้งกัน


นายสมบัติ ยะสินธุ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดูแลภาคเหนือ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค ดูแล กทม. และนายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ตามภารกิจ และ น.ส.เจนจิรา รัตนเพียร รองโฆษกพรรค ได้ร่วมกันแถลงข่าวเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมภาคเหนือ ในการสนับสนุนของ มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช

นายสมบัติ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ ได้เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนืออย่างใกล้ชิด และทำหน้าที่เป็นส่วนกลางคอยสนับสนุนเพื่อแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้าช่วยเหลือให้ทันท่วงที โดยให้อาสาของพรรคในทุกพื้นที่ทำหน้าที่แจ้งข่าวและแจ้งประสานขอความช่วยเหลือมายังพรรค ซึ่งขณะนี้พบว่ามี 4 จังหวัดกำลังประสบอุทกภัยอย่างหนัก โดยในวันอังคาร (28 ส.ค.) นี้ ตนในฐานะที่เป็นรองหัวหน้าพรรค ดูแลภาคเหนือ จะได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย นายนราพัฒน์ แก้วทอง รองหัวหน้าพรรค ตามภารกิจ จะลงพื้นที่จังหวัดน่าน และทำงานร่วมกับอาสาของพรรค


“พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้นิ่งดูดาย เราได้ติดตามสถานการณ์ภาคเหนือมาโดยตลอด พวกเรายังเป็นที่พึ่ง และทำงานเกาะติดใกล้ชิดพื้นที่อยู่อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองในการทำหน้าที่ดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน” รองหัวหน้าพรรคดูแลภาคเหนือ กล่าว

นายนราพัฒน์ ได้กล่าวเสริมว่า ในขณะนี้มวลน้ำได้อยู่ทางตอนบนของภาคเหนือตอนบน และในอีกระยะจะเข้าสู่พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ทางพรรคได้ทำงานร่วมกับมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช เพื่อติดตามสถานการณ์ และจัดสรรถุงยังชีพเข้าช่วยเหลือในเบื้องต้น ขณะเดียวกันจะพบว่าขณะนี้ในพื้นที่อุทกภัยจะมีความสับสน ทำให้การติดต่อหน่วยงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้ทางพรรคได้รับการติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนว่ายังไม่มีหน่วยงานเข้าดูแลช่วยเหลืออย่างทั่วถึง ดังนั้นพรรคประชาธิปัตย์ โดย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน จึงได้มอบหมายให้ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่งอยู่ในการดูแลของ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ กทม. เป็นตัวขับเคลื่อน พร้อมกับมีการจัดทำแพลตฟอร์มเพื่อรับแจ้งความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ซึ่งสามารถส่งข้อความมาได้ที่ https://form.democrat.or.th/flooding2567 เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ โดยมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ทั้ง สส. และอดีต สส. ของพรรค ตลอดจนเครือข่ายของพรรค ประธานสาขาของพรรค และอาสาของพรรค ได้เข้าไปดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนอย่างใกล้ชิดต่อไป

ด้าน นายสุชัชวีร์ กล่าวว่า สถานการณ์วันนี้มีกลิ่นคล้ายกับน้ำท่วม ปี 54 ที่เริ่มต้นในลักษณะเดียวกัน คือมีฝนตกหนักทางตอนเหนือของประเทศ และมวลน้ำทั้งหมดไหลลงสู่อ่าวไทย แต่วันนี้ก่อนที่มวลน้ำจะเข้าสู่ภาคกลาง และอาจเป็นกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์จึงได้เปิดระบบติดตามวิกฤติน้ำท่วม ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจ เพราะจะพบว่าปัญหาน้ำท่วมคนจะช่วยตอนน้ำขึ้น แต่ความจริงแล้วหลังจากน้ำลด ปัญหาจะหนักกว่าเยอะ เนื่องจากบ้านเรือนเสียหาย ประชาชนทำมาหากินลำบาก เราจึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลประชาชน โดยท่านสามารถเข้ามาในระบบของพรรค ท่านเดือดร้อนตรงไหน เราจะรวบรวมเพื่อส่งให้พรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่เข้าไปดูแลและทำหน้าที่ประสานหน่วยงานที่รับผิดชอบ เราจะขอเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการดูแล เยียวยา ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้


“หากฝนตกมากกว่าที่พยากรณ์ และมีพายุซ้ำเติม จะทำให้แม่น้ำเจ้าพระยารับเละ ถ้าเกิดจะประทังก็จะไปตายที่อยุธยา กลายเป็นว่าคนอยุธยาต้องไปรับเคราะห์แทนคนกรุงเทพฯ มันก็ไม่แฟร์ วันนี้ถ้าตัดไฟตั้งแต่ต้นลม จัดการน้ำให้ได้ตั้งแต่ภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนกลางให้เรียบร้อย มาถึงตรงนี้ก็จะบรรเทาลงไปได้ แต่วันนี้จะเห็นว่าการรับมือสถานการณ์ตั้งแต่ เชียงราย มาถึงน่าน ยังไม่ดีเท่าที่ควร เพราะชาวบ้านได้รับความเสียหายหนัก และยังไม่มีการประเมินข้อเท็จจริง เพราะการมาบอกว่าไม่เหมือนกัน ไหนตัวเลข การประเมินบอกว่าเอาอยู่ ไหนตัวเลข ที่จริงแล้วเรื่องน้ำก็คือเรื่องคณิตศาสตร์ ถ้าวันนี้เราพอบอกได้ว่ามีมวลน้ำอยู่แค่ไหน การจัดการของกระทรวงเกษตรฯ ทำอย่างไร เราพอจะประเมินได้ แต่วันนี้บอกจริงๆ ว่า เราเสียวนะ แล้วเราก็กลัวด้วย ยิ่งกว่านั้น ปี 54 สถานการณ์โลกร้อน น้ำทะเลหนุนยังไม่เท่าปีนี้ ผมห่วงเหลือเกิน ปีนี้เพิ่งเดือนสิงหา ยังไม่กันยา แต่ที่น่ากลัวคือตุลาคม ซึ่งเป็นจุดสำคัญ ถ้าน้ำทะเลหนุนแม่น้ำเจ้าพระยา ผมว่าสถานการณ์นี้เราประมาทไม่ได้” นายสุชัชวีร์ กล่าว

น.ส.เจนจิรา ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสถานการณ์อุทกภัยส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบทั่วทุกภาคกว่า 50,000 ครัวเรือน ที่ผ่านมา พรรคไม่ได้นิ่งนอนใจ และมีการพูดคุยในกรรมการบริหารพรรค และ สส. โดย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรค จึงกำชับให้รองหัวหน้าพรรค และ สส. ของพรรค ได้ส่งทีมงานลงพื้นที่ช่วยประสานความช่วยเหลือจากทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช ในเรื่องเครื่องอุปโภค บริโภค และถุงยังชีพ พร้อมประเมินสถานการณ์รายงานในทุกระยะ และพรรคประชาธิปัตย์ ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ประสบภัย และส่งแรงใจให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ผ่านพ้นวิกฤติอุทกภัยในครั้งนี้ไปได้ด้วยดี .-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 4 แสน

18 ก.ค. – เปิดแชต “สีกากอล์ฟ” หลอกยืมเงิน “อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร” 400,000 บาท อ้างป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัด และแลกหลักฐานกรณีอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร มีความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จ.พิจิตร หลงกลเล่ห์เหลี่ยมของสีกากอล์ฟ โดยเมื่อปี 2559 อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร ส่งข้อความไปหาสีกากอล์ฟ ว่ามีเรื่องสำคัญของบ้านเมืองจะปรึกษา และหว่านล้อมว่าสีกากอล์ฟเป็นบุคคลสำคัญยิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงการปกครองส่วนหนึ่งใน จ.พิจิตร ไปในทิศทางที่ดีขึ้น หากให้ความร่วมมือจะมีผู้ใหญ่ใจดีที่พร้อมจะดูแลสีกากอล์ฟและลูก แล้วทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ติดต่อกลับ จากนั้นสีกากอล์ฟตอบกลับข้อความ ทำให้อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร เปิดเผยเป้าหมายทันทีว่าต้องการดำเนินการกับพระราชสิทธิเวที ในขณะนั้น (อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร และอดีตเจ้าอาวาสวัดท่าหลวง จ.พิจิตร ที่เพิ่งสึกไป) ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริต เสพเมถุน และประพฤติตนไม่เหมาะสม อาจเชื่อมโยงมาถึงสีกากอล์ฟ พร้อมเสนอเงิน 1 ล้านบาท แต่สีกากอล์ฟชวนอดีต ผอ.สำนักพุทธฯ พิจิตร คุยเรื่องทั่วไป โดยเฉพาะอ้างว่ามีอาการป่วย ต้องใช้เงินผ่าตัดประมาณ 400,000 บาท […]

“ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ

17 ก.ค. – “ทักษิณ” ซัดผู้นำกัมพูชาไร้จริยธรรม แต่คนไทยกลับเชื่อ งงทำไมคนไทยไม่รักกัน ตอกพรรคที่เพิ่งหลุดร่วมรัฐบาลไป เป็นเขมรหรือไทย หลังติง “ลูกอิ๊งค์” ขายชาติ บอกปัจจุบันการเมืองไม่มีเสถียรภาพเหมือนสมัยรัฐบาล “คึกฤทธิ์” นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ “ปลดล็อกอนาคตประเทศไทย สู้วิกฤติโลก พลิกเกมเศรษฐกิจไทย” และ “พลิกเกมเศรษฐกิจไทย สู่อนาคต” จัดโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม พร้อมครม. อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุชาติ ตันเจริญ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ […]

แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด

อุบลราชธานี 17 ก.ค.-แม่ทัพภาค 2 เยี่ยมให้กำลังใจทหารได้รับบาดเจ็บเหยียบกับระเบิด ซึ่งอาการโดยรวมดีขึ้น ที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ มณฑลทหารบกที่ 22 อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจกับทหารสังกัดกรมทหารราบที่ 6 ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเหยียบกับระเบิดทั้ง 3 นาย ซึ่งมีอาการโดยรวมดีขึ้น สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 นายประกอบด้วย ส.อ.ปฏิพัทธ์ ศรีลาศักดิ์ มีบาดแผลฟกซ้ำบริเวณหน้าอกจากการถูกแรงอัดระเบิด ตอนแรกมีอาการเจ็บหน้า แต่ปัจจุบันดีขึ้น พลทหารณัฐวุฒิ ศรีเข้ม มีบาดแผลฟกซ้ำที่หน้าอกจากการอัดของระเบิด แน่นหน้าอก แต่ช่วยเหลือตัวเองได้ พลทหารธนพัฒน์ หุยวัน ต้องตัดขาซ้ายใต้เข่าจากแรงระเบิด มีอาการปวดแผล แต่กินอาหารได้ตามปกติ หลังเยี่ยมพูดคุยให้กำลังใจ แม่ทัพก็เดินทางกลับไป เพื่อไปติดตามสถานการณ์ชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ต่อไป.-711.-สำนักข่าวไทย

จนท. เข้าพบพระพรหมบัณฑิต ขอตรวจสอบบัญชีเงินวัดประยูรฯ

กทม. 17 ก.ค. – ตำรวจ ปปป. ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯ บุกวัดประยุรวงศาวาส เข้าตรวจสอบบัญชีเงินวัด เบื้องต้น  ยืนยันไม่ใช่การบุกค้นกุฏิ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาส พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.), พ.ต.อ.สถาปนา จุณณวัตต์ ผู้กำกับการกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธแห่งชาติแห่งชาติ เดินทางเข้าพบพระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร เพื่อพูดคุยและขอข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารการเงินภายในวัด หลังอดีตเจ้าคุณประสิทธิ์ อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาส เข้าไปพัวพันกับสีกากอล์ฟ และตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคำให้การของพยาน ที่พบเงินถูกพับในลักษณะถูกนำออกมาจากตู้บริจาคในบ้านของสีกากอล์ฟ ซึ่งการตรวจสอบในวันนี้จะเน้นเรื่องเส้นทางการเงินของวัดทั้งหมด ที่ต้องสงสัยว่าอาจมีบางส่วนถูกยักยอก หลังการตรวจสอบ ผู้กำกับการ 6 บก.ปปป. กล่าวว่า ไม่สามารถที่จะเปิดเผยข้อมูลได้ ผู้บังคับบัญชาจะเป็นผู้ชี้แจง หลังจากนี้จะนำข้อมูลต่างๆ กลับไปเรียนให้ผู้บังคับบัญชาได้ทราบ แต่ยืนยันว่า วันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาขอข้อมูลเท่านั้น ด้านเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติระบุว่า เป็นเพียงการบูรณาการของหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และในการตรวจสอบเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับ พระพรหมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารแต่อย่างใด มีรายงานเพิ่มเติมว่าเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 หน่วยงาน ได้นำกำลังส่วนหนึ่งเข้าไปตรวจสอบที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย หรือ […]

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน”

วัดบ้านไร่ 19 ก.ค.-“ทักษิณ” ลั่นไม่มีอีกแล้ว ใช้สัมพันธ์ส่วนตัวคุย “ฮุนเซน” หวั่นโดนอัดเทปซ้ำรอย ชี้หากพิสูจน์ได้ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดใหม่ต้องประท้วงตามกติกา ซัดหากเล่นนอกบทต้องดำเนินการ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ทหารพรานถูกเหยียบทุ่นระเบิด ที่ช่องบก อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ที่มีกระแสข่าวว่ากว่า 80% จากการตรวจสอบเป็นระเบิดใหม่ว่า ทั้งสองฝ่ายต้องพูดคุยกัน ถ้าไม่คุยกันอยู่อย่างนี้ไม่เป็นผลดี และขณะนี้อยู่ระหว่างการวิเคราะห์ว่าเป็นระเบิดใหม่หรือเก่า ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า แต่ล่าสุดกระแสข่าวจากภาคสองยืนยันว่ากว่า 80% เป็นระเบิดใหม่ นายทักษิณ กล่าวว่าก็ต้องว่ากันไป ก็ต้องประท้วงตามกติกา และประท้วงเสร็จก็ต้องมาคุยกันทั้งสองฝ่าย ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ฝั่งกัมพูชามักเล่นนอกเกมบ่อยๆ เราต้องรับมืออย่างไร นายทักษิณ ระบุว่าก็ว่ากันไปตามสิ่งที่ควรจะเป็น ถ้าเขาทำอะไรที่นอกกติกา เราก็ต้องดำเนินการ เมื่อถามว่าถ้าพิสูจน์ได้แล้วเป็นเรื่องจริง จะร้ององค์กรโลกหรือไม่ เนื่องจากมีสนธิสัญญาออตตาวา ว่าด้วยเรื่องทุ่นระเบิด นายทักษิณ ระบุว่าที่จริงแล้ว เรามีสนธิสัญญาหลายฉบับ แต่ไม่ได้หยิบขึ้นมาใช้ เมื่อถามย้ำว่าหลังจากนี้จะไม่เจรจาโดยใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวแล้วใช่หรือไม่ นายทักษิณ ยืนยันด้วยเสียงหนักแน่นว่าไม่มีอีกแล้ว เพราะกลัวโดนอัดเทปเหมือนกัน.-313.-สำนักข่าวไทย

ศบ.ทก. เรียกถกด่วนพรุ่งนี้ นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น

กทม. 19 ก.ค.-ศบ.ทก.เรียกถกด่วน 20 ก.ค. หารือ กต. นำหลักฐานฟ้องยูเอ็น กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา พร้อมส่งทหารช่าง ปูพรมเก็บกู้วัตถุระเบิดช่องบก พื้นที่อธิปไตยไทย 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) เตรียมนัด ศบ.ทก.ประชุมในวันที่ 20 ก.ค.นี้ เวลา14.00 น. กำหนดแนวทางการดำเนินการ กรณีกำลังพลจากหน่วยร้อย ร.6021 ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนรักษาความสงบในพื้นที่ช่องบกและประสบเหตุเหยียบกับระเบิด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ซึ่งจากหลักฐานพลว่าเป็นการวางกับระเบิดใหม่นั้น เบื้องต้น พล.อ.ณัฐพล ได้สั่งการกองทัพภาคที่2 เก็บข้อมูลหลักฐานทั้งหมด พร้อมให้แถลงข่าว และรายงานผลเป็นลายลักษณ์อักษรมาให้ทราบ เนื่องจากต้องเก็บทุกอย่างเป็นหลักฐาน เพื่อส่งให้กระทรวงการต่างประเทศต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้ (20 ก.ค.) จะมีกระทรวงการต่างประเทศเข้ามาร่วมประชุม ศบ.ทก.ด้วย เพื่อมาให้คำแนะนำว่าขั้นตอนต่อไปในการดำเนินการ ควรจะทำอย่างไร ร่วมถึงตรวจสอบข้อมูลหลักฐานของแต่ละฝ่ายว่าตรงกันหรือไม่ เมื่อได้ข้อสรุปแล้วจะแถลงเป็นทางการ ในการประชุม ศบ.ทก. 21 ก.ค.นี้ […]

สำนักพุทธฯ สั่งเข้มทุกวัด เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส.

19 ก.ค.-สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ เร่งจัดการบัญชีรายรับ-รายจ่าย ยึดตามมติ มส. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ออกหนังสือเวียน กำชับไปยังทุกวัดทั่วประเทศ ให้เร่งดำเนินการจัดทำบัญชีเงินฝาก รายรับ-รายจ่าย และงบดุลของวัด ให้ถูกต้องและเป็นระบบ ตามมติมหาเถรสมาคม ที่มีผลบังคับใช้แล้ว โดยการเปิดบัญชีและการเบิกถอนเงินฝากธนาคารของวัด จะต้องเปิดกับธนาคารที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเขตจังหวัดเดียวกับวัด และระบุชื่อบัญชีเงินฝากเป็นชื่อวัดเท่านั้น โดยมีรายชื่อผู้มีอำนาจถอนเงินอย่างน้อย 3 คน ซึ่งในการถอนเงินต้องมีผู้ลงนามจำนวน 2 ใน 3 และมีเจ้าอาวาสลงนามด้วยทุกครั้ง โดยใช้ใบถอนเงินของธนาคารและสมุดบัญชีเท่านั้น ในส่วนของบัญชีรายรับ-รายจ่าย ให้รายงานบัญชีของวัดทุกบัญชี สรุปเป็นรายเดือน จำนวน 12 เดือน ส่งสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ ภายในวันที่ 20 มกราคมของปีถัดไป โดยสำเนาเอกสารไว้ที่วัดด้วยทุกฉบับ นอกจากนี้ทุกวัดควรพิจารณาใช้ระบบบริจาคอิเล็กทรอนิกส์ (e-Donation) ร่วมด้วย เพื่อแสดงข้อมูลบริจาคที่ครบถ้วน และให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ ติดตามอย่างเคร่งครัด โดยสำนักพระพุทธศาสนาฯ จะกำกับดูแล หรือประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบบัญชี และรายงานการตรวจสอบให้มหาเถรสมาคมทราบ.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่

กทม. 19 ก.ค. – รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สยบข่าวลือพาดพิงพระชั้นผู้ใหญ่ ระบุข้อมูลคดีใหม่ เป็นพระในพื้นที่ต่างจังหวัด และไม่เกี่ยวกับคดี “กอล์ฟ” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า เพิ่งรับทราบจากสื่อมวลชนเกี่ยวกับกระแสข่าวลือพาดพิงถึงพระชั้นผู้ใหญ่บางรูป ซึ่งไม่ต้องการให้มีการเผยแพร่ข่าวลือจนสร้างความเสียหาย โดยยืนยันว่าที่เคยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีพระชั้นผู้ใหญ่มีความเกี่ยวข้องสีกาอีก แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟ เป็นพระที่มีสมณศักดิ์สูงกว่าพระในคดีกอล์ฟ แต่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด ไม่ใช่ในกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยสงฆ์ โดยไม่เกี่ยวข้องกับคดีกอล์ฟ และยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ได้หลักฐานชัดเจนก่อน ส่วนการตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา เพื่อรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระโดยเฉพาะ ขณะนี้ มีประชาชนแจ้งเบาะแสมาแล้วหลายร้อยสาย ซึ่งเจ้าหน้าที่กำลังคัดแยกข้อมูล จึงยังไม่สามารถตอบได้ว่า จะมีเรื่องที่เกี่ยวกับกอล์ฟอีกหรือไม่.-412-สำนักข่าวไทย