การประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม โดยมีวาระสำคัญที่สำคัญคือการพิจารณาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เริ่มขึ้นในเวลา 09.30น.
โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ได้แจ้งเปิดประชุม พร้อมกล่าวต่อสมาชิก ว่า วันนี้ (13 ก.ค.) ตนทำหน้าที่การประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งแรก ยืนยันว่าตนจะทำหน้าที่อย่างเป็นกลาง และทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประโยชน์ประชาชน ประเทศชาติ เกียรติและศักดิ์ศรีของฝ่ายนิติบัญญัติ อย่างไรก็ตามการปฏิบัติหน้าที่ของตนอาจขาดตกบกพร่องไปบ้าง ตนพร้อมรับความคิดเห็นติชมของสมาชิกตลอดเวลา ซึ่งการประชุมจะมีประสิทธิภาพตามที่ประชาชนคาดหวังไว้ได้ ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายของรัฐสภา
ประธานรัฐสภา ยังระบุย้ำถึงกรอบเวลาอภิปรายจากที่ได้มีการหารือกับตัวแทนวุฒิสภา และตัวแทนพรรคการเมืองทั้ง 18 พรรคการเมืองว่า หลังมีการเสนอชื่อบุคคลที่สมควรเป็นนายกฯแล้ว จะมีการเปิดให้อภิปรายคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ คือ ส.ว.ได้เวลา 2 ชั่วโมง ส.ส.ได้เวลา 4 ชั่วโมง โดยจะให้อภิปรายเป็นรายพรรคการเมือง ทั้ง 18 พรรคการเมือง แบ่งเป็น 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล จะได้เวลาอภิปรายไม่เกิน 2 ชั่วโมง และการอภิปรายคาดว่าจะแล้วเสร็จก่อนเวลา17.00น. จากนั้นจะมีการโหวตนายกฯต่อไป
ต่อมาในเวลา 10.00 น. ได้เริ่มเข้าสู่วาระการเสนอชื่อบุคคลที่สมควรเป็นนายกฯ ตามมาตรา272 โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะสมาชิกรัฐสภา ได้ลุกขึ้นเป็นตัวแทน 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 160 โดยมีผู้รับรองถูกต้อง 302 เสียง จากนั้นนายวันมูหะมัดนอร์ ได้เปิดให้สมาชิกแสดงตนผ่านการเสียบบัตร
ภาพ ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช