ประชุมวางแผนแก้ไขวิกฤติ “ปลาหมอคางดำ” เพิ่มเติมบ่ายนี้

กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – อธิบดีกรมประมง เผยจะมีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการระบาดของ “ปลาหมอคางดำ” ที่ รมช.เกษตรฯ เป็นประธานในช่วงบ่ายวันนี้ เพื่อยกระดับมาตรการ รวมถึงกำหนดแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขในจังหวัดที่พบการระบาด 14 จังหวัด ให้ชัดเจน จากนั้นกระทรวงเกษตรฯ จะเสนอ ครม. เห็นชอบต่อไป


นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการระบาดของ “ปลาหมอคางดำ” ซึ่งมีนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธาน ทั้งนี้กระทรวงเกษตรฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาการระบาดของปลาหมอคางดำระดับจังหวัดใน 14 จังหวัดที่พบการระบาดได้แก่ จังหวัดจันทบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี โดยคณะกรรมการแต่ละจังหวัดจัดเตรียมมาตรการป้องกันและแก้ไขการระบาด รวมถึงจัดทำแผนปฏิบัติการที่ชัดเจนและจัดทำงบประมาณ โดยคณะกรรมการระดับจังหวัดจะนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการของกระทรวงเกษตรฯ ในช่วงบ่ายนี้ จากนั้นจะนำเสนอต่อ ครม. พิจารณาตามที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายยกระดับการกำจัดปลาหมอสีคางดำซึ่งเป็นสัตว์น้ำรุกรานต่างถิ่น (Alien Species) ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติเนื่องจากเป็นปัญหาเรื้อรังมาถึง 14 ปี

การระบาดของปลาหมอคางดำที่กินเวลายาวนานส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและกระทบต่อเศรษฐกิจของภาคการประมง จึงมีนโยบายให้สำรวจความเสียหายของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำทุกจังหวัดที่มีการระบาดของปลาหมอสีคางดำเพื่อวางแผนการช่วยเหลือเยียวยา นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบในเชิงความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศแหล่งน้ำจืดและน้ำกร่อยจึงต้องมีการฟื้นฟูแหล่งน้ำและทรัพยากรสัตว์น้ำให้กลับมาสู่สมดุล


สำหรับมาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำของกระทรวงเกษตรฯ ที่มอบหมายให้กรมประมงดำเนินการมี ดังนี้
1) การควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการระบาด
2) การปล่อยปลาผู้ล่า เช่น ปลากะพงขาว ปลาอีกงเพื่อกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ
3) นำปลาหมอคางดำที่กำจัดได้ไปใช้ประโยชน์เช่น ทำอาหารคน อาหารสัตว์
4) สำรวจและเฝ้าระวังการแพร่กระจายปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติตามพื้นที่กันชนต่างๆ
5) ประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักรู้ และการมีส่วนร่วมในการกำจัดปลาหมอคางดำให้กับทุกภาคส่วน

นายบัญชา กล่าวว่า กรมประมงกำลังเร่งดำเนินโครงการวิจัยเรื่อง การเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำซึ่งเป็นการวิจัยเพื่อควบคุมการแพร่ขยายพันธุ์ของปลาหมอคางดำด้วยหลักการทางพันธุศาสตร์ โดยศึกษาสร้างประชากรปลาหมอคางดำพิเศษที่มีชุดโครโมโซม 4 ชุด (4n) จากนั้นจะปล่อยปลาหมอคางดำพิเศษลงสู่แหล่งน้ำเพื่อให้ไปผสมพันธุ์กับปลาหมอคางดำปกติที่มีชุดโครโมโซม 2 ชุด (2n) ลูกปลาหมอคางดำเกิดมาจะมีชุดโครโมโซม 3 ชุด (3n) มีลักษณะเป็นหมันซึ่งไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อได้ คาดว่า จะปล่อยปลาหมอคางดำตัวผู้ที่มีชุดโครโมโซมพิเศษ 4 ชุด (4n) ซึ่งเป็นหมันรุ่นแรกลงสู่แหล่งน้ำได้เดือนธันวาคมนี้ ภายใน 1 ปีกับอีก 3 เดือนจะสามารถปล่อยปลาหมอคางดำที่มีพันธุกรรมหมันลงสู่แหล่งน้ำครอบคลุมทุกพื้นที่ที่มีการระบาดโดยประเมินว่า การควบคุมการเกิดใหม่ของลูกปลาหมอคางดำจะลดลงตามลำดับจนอยู่ในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อแหล่งเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของเกษตรกรและไม่กระทบต่อระบบนิเวศ

นายบัญชากล่าวว่า ข้อสันนิษฐานถึงที่มาของปลาหมอคางดำซึ่งมีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกา ในการเข้ามายังประเทศไทยทำให้เกิดปัญหาเป็นสัตว์น้ำรุกรานต่างถิ่น (Alien Species) มี 2 ทางคือ


  1. การลักลอบนำเข้า
  2. การที่มีภาคเอกชนขออนุญาตนำเข้ามาเพื่อการวิจัยปรับปรุงพันธุ์

ทั้งนี้ภาคเอกชนรายหนึ่งยื่นขออนุญาตนำเข้าปลาหมอคางดำจำนวนหนึ่งในปี 2549 ส่วนเกิดการหลุดรอดออกมาหรือไม่ ไม่แน่ใจเนื่องจากผ่านมา 17 ปีแล้วจึงไม่กล้าปรักปรำ

อธิบดีกรมประมงกล่าวว่า กฎหมายว่าด้วยการประมงในอดีตกับปัจจุบันมีเจตนารมณ์ต่างกัน โดยเมื่อปี 2553 ใช้พ.ร.บ.การประมง พ.ศ. 2490 ในมาตรา 54 กำหนดไว้ว่า ห้ามมิให้ผู้ใดนำสัตว์น้ำเข้าในราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตซึ่งเจตนารมณ์คือ ป้องกันโรคระบาดและสารตกค้างในสัตว์น้ำนำเข้า ยังไม่ได้ของกฎหมายคือเรื่องโรคระบาด และสารตกค้างในสัตว์น้ำที่นำเข้า ยังไม่ได้มีเจตนารมณ์ป้องกันการรุกรานของสัตว์น้ำต่างถิ่น แต่ปัจจุบันใช้พ.ร.ก .การประมง พ.ศ. 2558 ซึ่งให้ความสำคัญต่อการป้องกันสัตว์น้ำต่างถิ่นโดยกำหนดไว้ในมาตรา 65 เพื่อคุ้มครองความหลากหลายทางชีวภาพ

กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ออกประกาศกระทรวงเรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามนำเข้า ส่งออก นำผ่าน หรือเพาะเลี้ยง พ.ศ. 2561 ห้ามนำเข้าปลาหมอคางดำ โดยการขอนำเข้า จะมีคณะกรรมการความหลากหลายชีวภาพพิจารณาก่อน

ส่วนที่มีหลายภาคส่วนเรียกร้องให้ผู้นำเข้าปลาหมอคางดำเพื่อวิจัยปรับปรุงพันธุ์ในประเทศไทย ต่อมาเกิดการแพร่ระบาดเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายทางเศรษฐกิจและระบบนิเวศนั้น ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากพูดไปโดยไม่มีหลักฐานยืนยัน จะเกิดความเสียหาย

รายงานจากคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ เพื่อการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ในราชอาณาจักรไทย ในคณะกรรมาธิการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สภาผู้แทนราษฎรระบุว่า ในปี 2560 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ตรวจสอบเกี่ยวกับการระบาดของปลาหมอคางดำ จากการที่มีผู้ร้องเรียนว่า ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในจังหวัดสมุทรสงครามและเพชรบุรี โดยภาคเอกชนยื่นขออนุญาตนำเข้าจากกรมประมงเมื่อปี 2549 เพื่อนำมาปรับปรุงสายพันธุ์ปลานิล ประเทศต้นทางใช้เวลารวบรวมพันธุ์ปลา 3 ปีจึงนำเข้ามาในไทยเมื่อปลายปี 2553 จำนวน 2,000 ตัว จากคำชี้แจงของกรมประมงซึ่งเป็นผู้ถูกร้องระบุว่า ภาคเอกชนแจ้งว่า ระยะเวลาขนส่งที่นานถึง 32 ชั่วโมงจึงทำให้ปลาบางส่วนตาย เหลือเพียง 600 ตัวซึ่งมีอาการไม่ดี จากนั้นนำปลาที่เหลือไปปล่อยในบ่อระบบปิดที่เตรียมไว้ ต่อมาปรากฏว่า ในสัปดาห์ที่ 1 เหลือปลาที่รอดเพียง 200 ตัว แล้วทยอยตายไปเกือบทั้งหมดภายใน 3 สัปดาห์ ผู้วิจัยเห็นว่า ปลาเริ่มทยอยตายจึงได้ส่งตัวอย่างปลาไปให้กรมประมงด้วยวิธีการดอง 50 ตัว จากนั้นผู้วิจัยจึงตัดสินใจทำลายปลาที่เหลือโดยใช้สารคลอรีนเข้มข้นและฝังกลบซากปลา โรยด้วยปูนขาวเพราะพิจารณาแล้วเห็นว่า การปรับปรุงสายพันธุ์น่าจะไม่ประสบความสำเร็จ แล้วแจ้งให้กรมประมงทราบด้วยวาจา โดยไม่ได้ทำรายงานอย่างเป็นทางการ

ในห้วงเวลานั้นกรมประมงชี้แจงต่อกสม. ว่า สาเหตุการระบาดของปลาหมอคางดำอาจเกิดขึ้นได้ทั้งจากการลักลอบนำเข้าหรือการทำผิดเงื่อนไขอนุญาตนำเข้า โดยการระบาดของปลาชนิดนี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว จึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า แหล่งที่มาหรือสาเหตุการระบาดคืออะไร

ขณะนี้คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำยังคงพยายามหาสาเหตุของการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำเพื่อหาผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อาชีพของเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำและผลกระทบต่อระบบนิเวศ โดยจะเชิญภาคเอกชนที่ขออนุญาตนำเข้ามาชี้แจง รวมถึงนำตัวอย่างปลาหมอคางดำที่ภาคเอกชนดองแล้วส่งมอบให้กรมประมง มาเปรียบเทียบโครงสร้างทางพันธุกรรมกับประชากรปลาหมอสีที่ระบาดในหลายจังหวัดว่า มีแหล่งที่มาร่วมกันหรือไม่

อธิบดีกรมประมงคนปัจจุบันระบุว่า จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ไม่ปรากฏว่า มีการเก็บรักษาปลาหมอคางดำดองไว้ในที่ใด แต่ยืนยันว่า จะให้ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน หากมีวิธีการตรวจสอบใดๆ ที่เป็นไปได้ เพื่อให้เกิดความกระจ่าง

ทั้งนี้สอดคล้องกับที่ร้อยเอกธรรมนัสกล่าวถึงข้อเรียกหลายภาคส่วนเรียกร้องให้ผู้นำเข้าปลาหมอคางดำเพื่อวิจัยปรับปรุงพันธุ์ในประเทศไทย ต่อมาพบการแพร่ระบาดเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายทางเศรษฐกิจและระบบนิเวศซึ่งร้อยเอกธรรมนัสกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่า เป็นเรื่องจริงหรือไม่ หากพูดไปโดยไม่มีหลักฐานยืนยัน จะเกิดความเสียหาย

ปลาหมอสีคางดำ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sarotherodon melanotheron Ruppell, 1852 ชื่อสามัญ Blackchin tilapia ชื่อไทย ปลาหมอสีคางดำหรือปลาหมอคางดำ อยู่ในวงศ์ปลาหมอสี (Family Cichlidae) มีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกาพบตั้งแต่ประเทศมอริเตอเนียไปจนถึงประเทศคาเมอรูน มีรายงานการนำเข้าประเทศสหรัฐอเมริกา รวมถึงอีกหลายประเทศในทวีปเอเซียและทวีปยุโรป

ปลาชนิดนี้มีลักษณะพิเศษคือ ปรับตัวให้ทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้เป็นอย่างดีซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการแย่งชิงแหล่งอยู่อาศัยกับปลาท้องถิ่น มีพฤติกรรมการกินอาหารได้ในวงกว้าง รวมถึงมีอัตราการแพร่พันธุ์ที่รวดเร็วมาก เมื่อปลาหมอคางดำหลุดรอดลงสู่บ่อเลี้ยงสัตว์น้ำหรือแหล่งน้ำใดก็ตาม ส่งผลทำให้ปลาชนิดอื่นๆ ลดจำนวนลงและกลายเป็นชนิดพันธุ์หลักในแหล่งน้ำนั้นแทน

ลักษณะทางชีววิทยาของปลาหมอคางดำ ขนาดที่พบทั่วไปยาวประมาณ 17.5 เซนติเมตร มีขนาดความยาวสูงสุด 28 เซนติเมตร ขนาดแรกเริ่มสืบพันธุ์ เป็นปลาที่ทนต่อความเค็ม สามารถอาศัยในพื้นที่น้ำจืดได้ทั้งในทะเลสาบ แม่น้ำ และลำน้ำสาขา ชอบหากินบริเวณพื้นท้องน้ำในธรรมชาติ กินพืช แพลงก์ตอนพืช แพลงก์ตอนสัตว์ กุ้ง ปู หอย ปลา และไข่ปลาเป็นอาหาร สามารถสืบพันธุ์ได้ทั้งในน้ำเค็มและน้ำจืด พ่อแม่ปลามีการผสมพันธุ์บริเวณน้าตื้นใกล้ชายฝั่ง เป็นปลาประเภทที่พ่อแม่ปลามีการดูแลลูก(parental care) จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ส่งผลต่ออัตรารอดตายที่สูง ระยะเวลาฟักไข่เฉลี่ย 14 วัน สามารถขยายจำนวนประชากรได้เป็นสองเท่าภายในระยะเวลา 1.4 – 4.4 ปี

ปลาหมอคางดำเป็นปลาที่ไม่มีพิษและบริโภคได้จึงส่งเสริมให้เกษตรกรนำปลาหมอคางดำที่กำจัดจากแหล่งน้ำธรรมชาติมาใช้ประโยชน์เช่น แปรรูปเป็นปลาแดดเดียว ปลาป่น หมักทำน้ำปลา หมักทำปุ๋ยชีวภาพ และใช้เป็นปลาเหยื่อหรืออาหารสำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำ ปัจจุบันมีการแปรรูปไปแล้วกว่า 500 ตันทั่วประเทศ โดยกรมประมงและหน่วยงานในพื้นที่จะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ข้อมูลที่ถูกต้องในการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์และหาช่องทางการขายและกระจายสินค้าเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคตเช่น ร้านสะดวกซื้อและ Modern Trade เพื่อสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวประมงทั่วประเทศซึ่งเป็นการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส

ล่าสุดนายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาครกล่าวว่า สำนักงานประมงจังหวัดได้เจรจาให้แพปลาในพื้นที่เป็นจุดรวบรวมรับซื้อปลาหมอคางดำเพื่อกำจัดออกจากแหล่งน้ำตามโครงการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ ที่ส่งผลต่อระบบนิเวศนในแหล่งน้ำของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกรมประมง โดยประมงสมุทรสาครประกาศราคารับซื้อปลาหมอคางดำขั้นต่ำ ณ จุดรับซื้อหรือหน้าแพผู้รวบรวม เริ่มต้นที่ราคา 8 บาทต่อกิโลกรัม แล้วประสานให้ผู้รวบรวมส่งขายโรงงานปลาป่นในพื้นที่เพื่อกำจัด ราคา 10 บาท

สำหรับแพและผู้รวบรวมเข้าร่วมโครงการมี 5 ราย ดังนี้

  1. แพธนูทอง ม.2( ริมคลองพิทยาลงกรณ์) ต. บางหญ้าแพรก อ. เมืองสมุทรสาคร จ. สมุทรสาคร โทร 0804646479
  2. แพนายวิชาญ เหล็กดี ม.2 (ริมคลองพิทยาลงกรณ์) ต. บางหญ้าแพรก อ. เมืองสมุทรสาคร จ. สมุทรสาคร โทร 0877407525
  3. แพนางจารุจันทร์ จารวิไพบูลย์ (แพมิตร) ม.2 (ริมคลองพิทยาลงกรณ์) ต. บางหญ้าแพรก อ. เมืองสมุทรสาคร จ. สมุทรสาคร โทร 0873647298
  4. นายชัยพร กรุดทอง (บอย) 72 หมู่ 6 ต. ยกกระบัตร อ. บ้านแพ้ว จ. สมุทรสาคร (คลองเจ๊ก) โทรศัพท์ 06 2658 5323
  5. นายเฉลิมพล เกิดปั้น หมู่ 5 ต. ยกกระบัตร อ. บ้านแพ้ว จ. สมุทรสาคร ชื่อโทรศัพท์ 087-171-4414

พร้อมกันนี้ยังประกาศเชิญชวนแพอื่นๆ หรือประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการนี้สามารถติดต่อแจ้งความประสงค์ได้ที่สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร ถนนเดิมบาง อำเภอเมือสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร. 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตร.เร่งขยายผลปมอธิการบดี ม.ดัง ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น

สน.บางซื่อ 12 ก.ย. – อธิการบดีมหาวิทยาลัยชื่อดัง กลายเป็นเหยื่อมิจฉาชีพออนไลน์ ถูกหลอกลงทุนเทรดหุ้น สูญเงินกว่า 38 ล้านบาท ตำรวจนครบาลเร่งสอบสวน อายัดเงินทันกว่า 3 ล้านบาท ขยายผลโยงบัญชีม้ากว่า 20 บัญชี จากกรณีอธิการบดีมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ถูกเครือข่ายมิจฉาชีพหลอกลงทุน เสียหายกว่า 38 ล้านบาท พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 2 และ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล เดินทางมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายด้วยตัวเอง ที่สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พล.ต.ต.พัลลภ เปิดเผยว่า จากกรณีดังกล่าว พนักงานธนาคารได้ตรวจพบความผิดปกติการถอนเงินจากบัญชีผู้เสียหาย แล้วโอนเงินไปยังบัญชีอื่น 3 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีนิติบุคคล หรือบริษัท เป็นจำนวนเงินกว่า 1 ล้าน 9 แสนบาท จึงได้อายัดไว้ก่อนและติดต่อจากศูนย์ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบไปยังผู้เสียหาย ก่อนทราบว่าผู้เสียหายได้เอาเงินไปลงทุนเทรดหุ้น พร้อมให้ผู้เสียหายตรวจสอบว่า เงินที่โอนไปลงทุนนั้นสามารถถอนออกจากบัญชีในระบบบริษัทได้หรือไม่ ปรากฏว่าผู้เสียหายไม่สามารถถอนเงินได้ เจ้าหน้าที่จึงแน่ใจว่าถูกเครือข่ายคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง […]

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

“รมต.สุชาติ​” ตั้งสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน-​สีกา

ทำเนียบ 12 ก.ย.- “รมต.สุชาติ​” ตั้งคณะกรรมการสอบ​เจ้าอาวาสวัดโสธรฯ​ ปม​ทรัพย์สิน​-​สีกา​ หลังถูกร้องสะพัดว่อนโซเชียล​ คาด​ไม่เกิน​ 1 สัปดาห์รู้ผล​ ย้ำให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย นายสุชาติ​ ตันเจริญ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเปิดเผยว่า​ มีข้อร้องเรียน ถึงพฤติกรรมของเจ้าอาวาส วัดโสธรวรารามวรวิหาร เกี่ยวกับการประพฤติปฏิบัติไม่ถูกต้อง เข้าข่ายกระทำความผิดพระธรรมวินัย อีกทั้งยังมีข้อมูลเผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยการร้องเรียนเป็นเรื่องทรัพย์สินและเรื่องสีกา ซึ่งเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เป็นเจ้าคณะจังหวัด และเป็นพระสังฆาธิการด้วย ดังนั้นจึงต้องให้ความเป็นธรรม ทั้งกับผู้ร้องและประชาชน รวมถึงตัวเจ้าอาวาสด้วย เพราะหากไม่เป็นความจริงจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ตนจึงได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นประธาน​ ตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ปรากฏ​ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูง​ รวมถึงสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ​ และให้ผู้ตรวจของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าไปเป็นคณะกรรมการด้วย เพราะไม่ทราบว่าในโลกออนไลน์พูดเพื่อความสนุกสนานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าตนก็ได้ยินเรื่องนี้มานาน มีเค้าโครง​ ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และให้ผู้ร้องสบายใจ​ แต่หากเจ้าอาวาสทำผิดก็ต้องแบบว่าไปตามระเบียบกฎหมาย และต้องแจ้งให้สำนักงานพระพุทธศาสนาดำเนินการต่อไป เมื่อถามว่าวางกรอบระยะเวลาการตรวจสอบไว้เท่าใด นายสุชาติ​ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้วาง แต่คาดว่าไม่น่าจะเกิน 1 สัปดาห์ เพราะจังหวัดฉะเชิงเทราเป็นพื้นที่ของตน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ และตนก็เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ประชาชนเลือกมาเป็นผู้แทน […]

นายกฯ โต้ข่าวเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เชื่อปชช.เข้าใจ

เมืองทองธานี 12 ก.ย.- นายกฯ โต้ข่าว เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา บอก ขอเป็นรัฐบาลอย่างเป็นทางการก่อน ชี้ ขั้นตอนยังมีอีกเยอะ เชื่อประชาชนเข้าใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสความชัดเจนในการเปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ทำไมข่าวออกไปอย่างนั้นก็ไม่รู้ ไปบิดเบือน เท่าที่ตนดู พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ก็ยังไม่ได้พูดอะไรชัดเจนขนาดนั้น ต้องคำนึงถึงประชาชนคนไทยเป็นหลักก่อนอยู่แล้ว เมื่อถามถึง กระแสการต่อต้านการเปิดด่าน นายกรัฐมนตรีระบุ ขอให้ตนเข้าไปรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้เรายังไม่สามารถให้นโยบายอะไรได้ และการกระทำต่างๆ ยังถือว่าอยู่ภายใต้รัฐบาลปัจจุบันอยู่ ยังไม่ใช่รัฐบาลของตน เมื่อถามต่อว่า ท่าทีของ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาค 2 และ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ที่คัดค้านการเปิดด่าน เพราะอาจจะเป็นการส่งเสริมบ่อนการพนันและสแกมเมอร์ นายอนุทิน กล่าวว่า เท่าที่ตนทราบไม่ได้อยู่ดี ๆ จะไปเปิดด่านได้เลย เพราะต้องมีการบรรลุข้อตกลงอะไรอีกเยอะแยะ เมื่อปฏิบัติ ซึ่งต้องรอคณะรัฐบาลของตนเข้าปฏิบัติที่อย่างเป็นทางการก่อน ตอนนี้ตนยังไม่สามารถไปสั่งการหรือให้นโยบายอะไรได้ เมื่อถามว่า […]

ข่าวแนะนำ

“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้

สภาอุตสาหกรรมฯ 15 ก.ย.-“อนุทิน” ย้ำนำรายชื่อ ครม.ทูลเกล้าฯ ภายในสัปดาห์นี้ ปัดตอบใครขาดคุณสมบัติบ้าง แต่ยืนยันนิ่งและครบแล้ว เผยหลังถวายสัตย์ฯ พร้อมแถลงนโยบายต่อสภาทันที เพื่อเดินหน้าทำงานโดยเร็ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าในการเตรียมร่างคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา จำเป็นจะต้องเชิญพรรคร่วมรัฐบาลหารือด้วยหรือไม่ ว่า ตอนนี้ได้มีการยกร่างคำแถลงขึ้นมาแล้ว และได้ส่งเนื้อหาในส่วนของกระทรวงที่แต่ละคนรับผิดชอบ ให้พรรคร่วมรัฐบาลพิจารณา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขเพิ่มเติม หรือตัดอะไรที่อาจจะเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงนั้นๆ เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับเขามากที่สุด จะได้เข้ามาทำงานได้ ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า สไตล์คนละพรรคแต่พวกเดียวกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน หัวเราะ แต่ไม่ได้ตอบคำถาม เมื่อถามถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบประวัติของคณะรัฐมนตรี ขณะนี้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้รายงานกลับมาแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ใกล้แล้ว เรียกได้ว่ารายชื่อ 100% แล้ว เหลือเพียงการตรวจสอบประวัติ ซึ่งเป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติก่อนนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยยืนยันว่าจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายภายในสัปดาห์นี้ ส่วนขั้นตอนการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา นายอนุทิน กล่าวว่า เมื่อนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายแล้วก็สุดแล้วแต่ท่าน แต่ทันทีที่โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมาก็จะต้องรอการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ จากนั้นก็จะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ถึงจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมร่างแถลงนโยบายต่อสภาไว้แล้ว ทันทีเมื่อพร้อมก็สามารถให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรนัดหมายวันประชุมได้ทันที ขณะเดียวกัน นายอนุทิน ยังยืนยันด้วยว่า ขณะนี้รายชื่อคณะรัฐมนตรีครบและนิ่งแล้ว ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า […]

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

แบงก์ชาติเตรียมแถลงบ่ายนี้ ปมผลกระทบ “บัญชีม้า”

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)-สมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูลบ่ายวันนี้ กรณีปัญหาผลกระทบประชาชน จากการระงับธุรกรรมเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้า ด้านนักวิเคราะห์ เปรียบเทียบปัญหาไทย-จีน หวังรัฐบาลใหม่เอาจริง ธปท.แจ้งว่า บ่ายวันนี้ เวลา 13.00-14.30 น. ธปท.จะมีการชี้แจงรายละเอียดการระงับธุรกรรมในเส้นทางเงินเพื่อจำกัดความเสียหายจากบัญชีม้าให้แก่สื่อมวลชน ณ ห้องแถลงข่าว อาคาร 2 ธปท. โดยนางดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการสายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน นางสาวอรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. และนายสุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ร่วมกันให้ข้อมูล การชี้แจงดังกล่าว ก็เป็นเรื่องต่อเนื่องจากวานนี้ที่มีการประชุมร่วมกันของหน่วยงานรัฐ-ธปท.-สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมปลดล็อกปัญหา ปรับแนวทางการอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริต หลังจากมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการในการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้กับผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ตามขั้นตอน ทางธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราว […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย