ส.ป.ก.โคราช ถูกกรมอุทยานฯ ร้อง ป.ป.ช.กรณีออก ส.ป.ก.4-01 ทับที่เขาใหญ่

นครราชสีมา 18 ก.พ. – กรมอุทยานฯ ร้อง ป.ป.ช. และพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี ให้สอบสวนผู้เกี่ยวข้องกับการออก ส.ป.ก.4-01 ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยเห็นว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีลักษณะเป็นขบวนการแบ่งหน้าที่กันทำ เบื้องต้นกล่าวโทษปฏิรูปที่ดินโคราช ผู้เขียนแผนที่ และผู้ตรวจเอกสารรับรองสิทธิ


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ได้รายงานต่อพล.ต.อ. พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมถึงการที่คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งต่อเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อให้ตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในการรังวัดและกำหนดรูปแปลงส.ป.ก. 4-01 ซึ่งปรากฏในเว็บไซต์ของสำนักจัดการแผนที่และสารบบที่ดิน (สผส.) การฝังหลักหมุด ส.ป.ก. และออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

นอกจากนี้ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ยังร้องขอให้พนักงานสอบสวนสภ. หมูสีสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของพนักงานเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยผู้ถูกกล่าวโทษคือ นายอัครเดช เรียนหิน ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาซึ่งผู้ลงนามในหนังสืออนุญาตให้ใช้ประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-01) นายวัฒวี วิเลิศรัมย์ ผู้เขียนแผนที่ (ส.ป.ก.4-01) และนางปรียาภรณ์ เพิ่มแสงสุขกุล ผู้ตรวจเอกสารรับรองสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 และ/หรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่สนับสนุนให้เกิดการกระทำผิด


ทั้งนี้เป็นการดำเนินการหลังจากที่นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาตินำคณะเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ เข้าตรวจสอบพื้นที่ในหมู่บ้านเหวปลากั้ง ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาซึ่งตรวจพบการบุกรุกแผ้วถางที่ดิน โดยผู้บุกรุกอ้างเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 และพบการฝังหลักหมุดส.ป.ก.4-01 จำนวนมากภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จากการตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับถนนป่าไม้ลำลองซึ่งเป็นแนวเขตอุทยานแห่งชาติ มีสภาพป่าดิบแล้งอุดมสมบูรณ์และพบร่องรอยการใช้ประโยชน์ของสัตว์ป่าเช่น เก้ง ช้าง กระทิง เป็นต้น

คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันรื้อถอนหลักหมุดเขตส.ป.ก. ที่ตรวจพบทั้งสิ้น 27 หมุด เสาหลักเขต 5 ต้น รื้อถอนต้นมะม่วงที่ปลูกเพื่อยึดครองพื้นที่ 20 ต้น และรื้อถอนป้ายประกาศที่แสดงการได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน 1 ป้าย

จากนั้นจัดทำบันทึกการตรวจสอบ/ตรวจยึดเพิ่มเติมเพื่อแจ้งความกล่าวโทษผู้กระทำผิดและร้องขอให้พนักงานสอบสวนสอบสวนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการออกส.ป.ก. 4-01 ดังกล่าว


คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ เห็นว่า พฤติการณ์ของผู้กระทำผิดเป็นการกระทำเป็นขบวนการสนับสนุนเกี่ยวข้องกันและมีการแบ่งหน้าที่กันเพื่อออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 โดยมิชอบในเขตป่าอนุรักษ์ โดยพบว่า มีออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 ทับซ้อนกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่รวม 972-2-79 ไร่ และมีการทับซ้อนในพื้นที่ป่าไม้ตามพ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 อีก 486-1-74 ไร่

สำหรับการตรวจสอบพบการออกเอกสาร ส.ป.ก. 4-01 ซึ่งทับซ้อนเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เกิดขึ้นจากการที่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ออกตระเวนเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2566 พบการบุกรุกพื้นที่และปรับสภาพโดยใช้เครื่องจักร บริเวณนี้ติดถนนแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมถึงพบป้ายแสดงเอกสารส.ป.ก.4-01 พื้นที่บุกรุก 3-3-93 ไร่ แต่ไม่พบบุคคลใดในที่เกิดเหตุจึงแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ. หมูสี ต่อมาเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2566 พบการไถปรับพื้นที่และดันต้นไม้ออก ในที่ดินแปลงเดิม โดยจับกุมนายสหรัฐ ทศกระโทกกับพวกรวม 2 คน รถแทรกเตอร์ 2 คัน พร้อมอุปกรณ์หยอดข้าวโพดและอุปกรณ์พรวนดิน นำส่งสภ.หมูสีดำเนินคดี

ต่อมาเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2566 สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก. นครราชสีมา) ออกประกาศสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา กรณีเฉพาะราย เรื่อง ผลการคัดเลือกและอนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ประเภทแปลงเกษตรกรรม) มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน หากผู้ใดประสงค์คัดค้านให้ยื่นคำร้องที่ส.ป.ก. นครราชสีมา ภายในกำหนด 30 วันนับแต่วันประกาศเป็นต้นไป โดยในหมู่ที่ 10 บ้านเหวปลากั้ง ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เนื้อที่รวมประมาณ 73-0-37 ไร่ ปรากฏรายชื่อรวม 3 ราย 3 แปลง ปรากฏชื่อ ได้แก่

(1) น.ส.กมลรัตน์ คำชมภู (นายอดิลักษณ์ เผ่าจันทึก) เนื้อที่ 20 ไร่

(2) นางเพียงตะวัน เผ่าจันทึก เนื้อที่ 38-0-37 ไร่

(3) นายพนวรรฒห์ ศิริธนธิปชัยกูร (นางนิตยา สังเกตุกิจ) เนื้อที่ 15 ไร่

ทั้งนี้ส.ป.ก. นครราชสีมาแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ตำบลหมูสีปิดประกาศผลการคัดเลือกและอนุญาตฯ นายกิติศักดิ์ พรหมพินิจ ผู้ใหญ่บ้านบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ส่งหนังสือถึงนายอัครเดช เรียนหิน ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาเพื่อขอทราบตำแหน่งแปลงที่ดินและรูปแปลงของทั้ง 3 ราย ตามที่ออกประกาศเนื่องจากรายชื่อตามบัญชีดังกล่าวไม่ใช่ราษฎรในพื้นที่ของตน โดยวันที่ 18 ตุลาคม 2566 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ร่วมกับเจ้าหน้าที่ส.ป.ก. นครราชสีมา กำนันตำบลหมูสี ผู้ใหญ่บ้านบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ร่วมกันตรวจสอบแนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่พบว่า มีการปักหมุดส.ป.ก. เข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติ 5 หมุด ระยะทางประมาณ 300 เมตร

ต่อมาวันที่ 20 ตุลาคม 2566 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทำหนังสือขอให้ส.ป.ก. นครราชสีมารื้อถอนหลักหมุดทั้ง 5 หมุดออกจากเขตอุทยานแห่งชาติ จากนั้นวันที่ 31 ตุลาคม 2566 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทำหนังสือคัดค้านการปักหลักหมุด ส.ป.ก. ในเขตอุทยานแห่งชาติตามประกาศสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา

ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2566 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ตรวจยึดพื้นที่บุกรุก เนื้อที่ประมาณ 1-2-80 ไร่ซึ่งมีการปักหลักหมุดส.ป.ก. เข้ามาในเขตอุทยานแห่งชาติ 5 หมุด ระยะทางยาวประมาณ 300 เมตร โดยไม่พบบุคคลใดในที่เกิดเหตุ แจ้งความไว้ที่สภ. หมูสี

ส.ป.ก. นครราชสีมาออกประกาศสำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เรื่อง ผลการคัดเลือกและอนุญาตให้เกษตรกรเข้าทำประโยชน์ในที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ประเภทแปลงเกษตรกรรม) ในพื้นที่หมู่ 10 บ้านเหวปลากั้งอีกครั้งใน 23 พฤศจิกายน 2566 เนื้อที่รวมประมาณ 72-2-27 ไร่ ปรากฏรายชื่อรวม 5 ราย 5 แปลงได้แก่

(1) น.ส.กมลรัตน์ คำชมภู เนื้อที่ 20-0-11 ไร่

(2) นางเพียงตะวัน เผ่าจันทึก เนื้อที่ 11-0-6 ไร่

(3) นายพนวรรท์ ศิริธนธิป (นิตยา สังเกตุกิจ) เนื้อที่ 15-0-49 ไร่

(4) นายกฤษณะ เล้งวิลาศ เนื้อที่ 10-3-56 ไร่

(5) นายศศิไกรวี กุลจิราช (นางสุกมรัตน์ กุลจิราช) เนื้อที่ 15-2-05 ไร่

จากนั้นวันที่ 26 ธันวาคม 2566 ส.ป.ก. นครราชสีมาแจ้งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ว่า จากการตรวจสอบค่าพิกัดทั้ง 5 หมุดตามที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ทำหนังสือให้รื้อถอนหลักหมุด พบว่า แปลงที่ดินตั้งอยู่ในพื้นที่ดำเนินการปฏิรูปที่ดิน ตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในท้องที่อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนิน และอำเภอปากช่องให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. 2534 โดยแปลงที่ดินตั้งอยู่ในโครงการที่จำแนกฯ ป่าเขาใหญ่

ในวันที่ 23 มกราคม 2567 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ พร้อมด้วยนายสมฤกษ์ ศุภมิตรกฤษณา ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (สบอ. 1) (ปราจีนบุรี) นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และนายกิติศักดิ์ พรหมพินิจ ผู้ใหญ่บ้านบ้านเหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณพื้นที่ที่พบการบุกรุกยึดถือครอบครองพื้นที่ที่มีการฝังหลักหมุดและออกเอกสาร ส.ป.ก. 4-0 1 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยผู้ใหญ่บ้านบ้านยืนยันว่า รายชื่อตามบัญชีคัดเลือกเกษตรกรให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดินซึ่งส.ป.ก. นครราชสีมาได้ออกประกาศ 2 ครั้งคือ ครั้งที่ 1 ช่วงเดือน พฤศจิกายน 2566 จำนวน 3 ราย และครั้งที่ 2 ช่วงเดือนธันวาคม 2566 จำนวน 5 ราย ไม่ใช่ราษฎรที่อยู่ในพื้นที่

ทั้งนี้ผู้ใหญ่บ้านได้รับหนังสือ ส.ป.ก. นครราชสีมา แจ้งให้ปิดประกาศผลการคัดเลือกและอนุญาตฯ มาเพื่อทราบโดยทั่วกัน ปรากฏรายชื่อรวม 3 ราย 3 แปลง เนื้อที่รวมประมาณ 73-0-37 ไร่ แต่ตนเองไม่ทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในตำแหน่งใดจึงได้ส่งหนังสือถึงนายอัครเดช เรียนหิน ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมาเพื่อขอทราบตำแหน่งแปลงที่ดินและรูปแปลงของทั้ง 3 ราย ตลอดจนประสานกับหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงทำให้ทราบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ส่วนการที่มีการออกเอกสารส.ป.ก.4-01 ให้แก่นายพนวรรฒท์ ศิริธนธิปชัยกูรนั้น ไม่ทราบและไม่เคยเข้าร่วมสำรวจพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ของส.ป.ก. นครราชสีมา รวมถึงไม่ได้ลงลายมือชื่อเพื่อรับรองหรือยืนยันรายชื่อเกษตรกรหรือรับรองพื้นที่แต่อย่างใด จาการตรวจสอบย้อนหลังยังพบว่า ส.ป.ก. นครราชสีมาออกเอกสารส.ป.ก.4-01 ให้แก่นายพนวรรฒห์ ศิริธนธิปชัยกูร อยู่บ้านเลขที่ 57 หมู่ที่ 5 ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เนื้อที่ประมาณ 15 ไร่ เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 โดยที่อุทยานแห่งชาติและผู้ใหญ่บ้านไม่ทราบอีกด้วย

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่รายงานต่ออธิบดีกรมอุทยานฯ ถึงเหตุการณ์บุกรุกพื้นที่ ฝังหลักหมุด และออกเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ในท้องที่บ้านเหวปลากั้ง โดยระบุว่า แนวเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จะมีแนวถนนตรวจการณ์เป็นแนวยาวชัดเจน ราษฎรในพื้นที่ทราบดีว่า เป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณพื้นที่ที่พบหลักหมุดส.ป.ก. ฝังอยู่ 10 หมุดโดยขนานตามแนวถนนตรวจการณ์ ถนนดังกล่าวเป็นแนวเขตของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สภาพพื้นที่โดยส่วนใหญ่มีสภาพเป็นป่าดิบแล้งที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ และมีบึงน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่เหมาะสำหรับเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและหากินของสัตว์ป่า โดยเฉพาะช้างป่า เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีสภาพป่าที่ไม่รกทึบจนเกินไป ไม่พบร่องรอยการใช้ประโยชน์ของมนุษย์

สำหรับพื้นที่ที่ถูกบุกรุกซึ่งนายพนวรรฒท์ ศิริธนธิปชัยกูรอ้างว่า มีเอกสารสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าว ตามเอกสาร ส.ป.ก. 4-01 แปลงเลขที่ 9 ระวาง ส.ป.ก. ที่ 5238ll5008 นั้น พบมีการติดป้ายบริเวณทางเข้าแปลงข้อความว่า “ประกาศ ที่ดินแปลงนี้มีเกษตรกรได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามระเบียบ พระราชกฤษฎีกา พระราชบัญญัติปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตรถูกต้องตามกฎหมาย ห้าม ผู้ใดเข้ามาคุกคามสิทธิโดยเด็ดขาด” พร้อมแสดงภาพเอกสาร ส.ป.ก.4-01 ที่ได้รับการอนุญาตจากปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา มีการปรับสภาพพื้นที่ด้วยการไถและดันต้นไม้ออกเพื่อเปิดพื้นที่ทำการเกษตร มีการปลูกต้นมะม่วง 20 ต้น ลักษณะต้นมะม่วงที่พบเป็นต้นไม้ที่เกิดจากกิ่งชำในกระถาง คาดว่า ซื้อมาจากร้านขายต้นไม้ เนื่องจากที่ตุ้มดินมีขุยมะพร้าวหุ้มอยู่และเขียนชนิดพันธุ์ของต้นมะม่วงไว้ที่ไม้ปักหลักของแต่ละต้น นอกจากนี้ยังพบกองมูลและร่องรอยการใช้ประโยชน์ของสัตว์ป่าเช่น ช้าง กระทิง เก้ง เป็นต้น

บริเวณท้ายแปลง พบหลักหมุด ส.ป.ก. 2 หมุด ระยะห่างประมาณ 6 เมตร เมื่อเล็งแนวเขตกลับไปยังหมุดส.ป.ก. บริเวณที่ขนานกับถนนตรวจการณ์ ทำให้คาดการณ์ได้ว่า อาจเป็นการแบ่งแถวเพื่อทำถนนลงในพื้นที่ พร้อมสั่งการให้แจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าของแปลงเพิ่มเติมในความผิดตามพ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ในการทำไม้เนื่องจากมีการดันไม้ป่าในพื้นที่ล้มลงเป็นจำนวนมาก รวมถึงตรวจนับไม้ป่าที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในพื้นที่เพื่อเป็นข้อมูลไว้ด้วย

จากเหตุดังกล่าว ทำให้ในวันที่ 24 มกราคม 2567 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในพื้นที่คดีตรวจยึดจับกุมเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2567 ต่อนายพนวรรฒท์ ศิริธนธิปชัยกูรกับพวกรวม 5 คน ฐานความผิดตาม มาตรา 19 (2) และ 19 (6) พ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 และฐานความผิดตามมาตรา 11 69 และ 73 วรรค 2(1) พ.ร.บ. ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เนื่องจากในพื้นที่ปรากฏพบการกานต้นไม้ ถูกไถดัน ตัดทอน พบไม้กระถิ่นป่า 23 ท่อนและไม้สีเสียดแก่น 5 ท่อน ปริมาตรไม้รวม 2.289 ลบ.ม.

การตรวจสอบพบการบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และการออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่จึงนำมาสู่การแจ้งความกล่าวโทษผู้บุกรุก รวมถึงการขอให้สอบสวนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของพนักงานเจ้าหน้าที่กรณีออกเอกสารส.ป.ก. 4-01 ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องที่สนับสนุนให้เกิดการกระทำผิดต่อพนักงานสอบสวนและต่อป.ป.ช.- 512 – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่น้ำท่วมหลายชุมชน ปิดน้ำตก 3 แห่ง

เชียงใหม่ 26 พ.ค.-เชียงใหม่ฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง เกรงจะเกิดอันตราย ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ น้ำท่วมหลายชุมชน ระบายน้ำไม่ทัน บางจุดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ฝนตกหนัก ทั่วทั้งจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อคืนที่ผ่านมา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงลำห้วย ทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ เชียงใหม่ สั่งปิดน้ำตก 3 แห่ง ทั้งน้ำตกแม่สา น้ำตกตาดหมอก อำเภอแม่ริม และน้ำตกหมอกฟ้า อำเภอแม่แตง เนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นและมีสีแดงขุ่น กระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก เกรงว่าจะเกิดอันตรายกับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ฝนที่ตกหนักบนดอยสุเทพ และในตัวเมืองเชียงใหม่ ทำให้น้ำป่าบนดอยสุเทพ ไหลหลากลงลำห้วยมาตามทางระบายน้ำและไหลลงลำคลองคูไหว ทำให้เอ่อล้น จนระบายน้ำไม่ทัน เข้าท่วมขังในชุมชนศรีปิงเมือง ชุมชนฟ้าใหม่ ชุมชนกาดก้อม ระดับน้ำท่วมขังสูง 30-50 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ทำให้ประชาชนและร้านค้าได้รับผลกระทบเป็นบริเวณกว้าง ประกอบกับนักเรียนกำลังเดินทางไปเรียน อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางเทสบาลนครเชียงใหม่ กำลังเร่งสูบระบายน้ำอย่างเร่งด่วน.-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 25 พ.ค.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมอุตุนิยมวิทยา เผยบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกัน โดยการปรับปรุงระบบทางระบายน้ำในแปลงเพาะปลูก เพื่อลดผลกระทบและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย .-สำนักข่าวไทย

กว่า 130 ชม. ภารกิจสำเร็จ! กู้ร่างคนงานตกหลุมเสาเข็ม

กทม. 25 พ.ค.- ภารกิจสำเร็จ! ทีมกู้ภัยนำร่าง “นายดาว” คนงานพลัดตกหลุมเสาเข็ม ก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ขึ้นมาด้านบนสำเร็จ หลังใช้เวลาปฏิบัติการกว่า 130 ชั่วโมง ความคืบหน้ากรณีนายศราวุฒิ หรือ นายดาว อายุ 33 ปี ชาวศรีสะเกษ คนงานที่พลัดตกลงไปในหลุมเสาเข็มความลึก 19 เมตร บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 6 และ 8 แขวงมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว หลังจากเมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้คาดพิกัดที่อาจพบร่างผู้เสียชีวิตที่ระดับความลึก 11.5 เมตร ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 24 พ.ค. บริเวณซอยหลานหลวง 8 เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัย USAR และมูลนิธิร่วมกตัญญู ยังคงพยายามเร่งค้นหาเพื่อกู้ร่างนายศราวุฒิ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยมี […]

“บังยา บองหลาคิงส์” รุดจับแม่งูจงอาง ไล่ฉกชาวบ้านวิ่งป่าราบ

สงขลา 25 พ.ค.- ชาวสวนยางสงขลา ผวา! แม่งูจงอางหวงไข่ดุมาก ไล่ฉกเจ้าของสวนวิ่งป่าราบ ต้องหยุดกรีดยาง ร้อนถึง “บังยาบองหลาคิงส์” ราชางูจงอางภาคใต้ ต้องมาช่วยจับ บังยา บองหลาคิงส์ ราชางูจงอางของภาคใต้ ตีรถด่วนจาก จ.กระบี่ มาช่วยจับงูจงอางนอนฟักไข่เฝ้ารังอยู่ในป่าสวนยาง พื้นที่บ้านควนยาง หมู่ 9 ต.สำนักแต้ว อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งเป็นสวนยางของนายปรีชา อายุ 46 ปี ซึ่งตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่กล้าไปกรีดยางเพราะมีแม่งูจงอางมานอนฟักไข่เฝ้ารังติดกับต้นยาง ครั้งแรกที่ไปเจอตอนไปกรีดยางเมื่อ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา เกือบโดนฉกมาแล้วเพราะเข้าไปใกล้รัง จนต้องวิ่งหนีสุดชีวิต หลังจากนั้นก็ไม่กล้าขึ้นไปกรีดยางอีกเลย จนต้องแจ้งขอความช่วยเหลือไปยัง บังยา บองหลาคิงส์ ให้มาช่วยจับ เมื่อทีมงานบังยา บองหลาคิงส์ มาถึงก็ต้องเดินเท้าขึ้นไปที่ป่าสวนยาง ซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านพอสมควร เมื่อไปถึงก็พบแม่งูจงอางตัวนี้นอนอยู่บนรังไม่ไปไหน และดุมากชูคอฉกตลอดเวลาหากเข้าใกล้ บังยาต้องหลอกล่ออยู่สักพักก็อาศัยจังหวะความนิ่งใช้มือเปล่าล็อกคอเอาไว้ได้ เป็นแม่งูสาวน่าจะท้องแรกหรือท้องสอง ยาวเกือบ 3 เมตร และเมื่อรื้อรังดูก็มีไข่อยู่ในรัง 28 ฟองและอีกไม่เกิน 10 […]

ข่าวแนะนำ

รวบเจ้าของหอพักโหดย่านรังสิต ข้อหากรรโชกทรัพย์

ปทุมธานี 28 พ.ค. – ตำรวจปทุมธานี บุกรวบเจ้าของหอพักย่านรังสิต พร้อมครอบครัว ข้อหากรรโชกทรัพย์ หลังมีนักศึกษาแจ้งความร้องทุกข์ว่า เจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกาย ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจปทุมธานี นำหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานี ลงวันที่ 27 พ.ค. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ เข้าจับกุม พ.ต.อ.พูลศักดิ์ อายุ 64 ปี นางพัชรียา อายุ 56 ปี และนางสาวพูลชนก อายุ 28 ปี ที่หอพักใน 7 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากกรณีมีนักศึกษากว่า 20 ราย เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต และเจ้าหน้าที่ สคบ. ว่าเจ้าของหอพักแห่งนี้ทำร้ายร่างกายนักศึกษา ยึดเอกสารหลักฐานทางราชการ ยึดทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เช่าโดยไม่ยอมคืน บางจังหวะการจับกุมจะเห็นได้ว่ามีการโต้เถียงกันและมีการขัดขืน แต่สุดท้ายต้องยอมจำนนต่อหมายจับ พล.ต.ต.ยุทธนา เปิดเผยว่า ตำรวจขอหมายจับจากศาลไป 3 […]

คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสี อบต.เกาะสะท้อน อส.-ครู เจ็บ 4

นราธิวาส 28 พ.ค. – คนร้ายบุกยิงในงานกีฬาสีต้านยาเสพติด อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ทำให้อาสาสมัครรักษาดินแดนบาดเจ็บ 3 คน ครูบาดเจ็บ 1 คน ส่วนเหตุคนร้ายยิงใส่ป้อมหน้า สภ.จะแนะ ตำรวจเสียชีวิต 1 นาย เจ็บ 1 นาย เจ้าหน้าที่เร่งไล่ล่าคนร้าย คนร้ายชุดสีดำเดินถือปืนเข้ามาในลานกีฬาเซปักตะกร้อ งานแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติด อบต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส จากนั้นรัวยิงชุดแรก 4 นัด คนที่ร่วมแข่งขันพากันวิ่งหลบหนี จากนั้นคนร้ายรัวยิงอีก 3 นัด ซึ่งภาพหลุดจากวิถีกล้องไปแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่และหน่วยงานความมั่นคงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บ 4 คน ประกอบด้วย 1.นายสุกรี ครูโรงเรียนบ้านเกาะสะท้อน 2.อาสารักษาดินแดนฮัมดานุดดีน 3.อาสารักษาดินแดนมุสลิม และนายไซนุดดิน ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลตากใบ สอบสวนทราบว่าคนร้าย 6 คน ใช้จักรยานยนต์เป็นพาหนะ 3 คัน ขี่เข้ามาโดยปะปนกับประชาชน และก่อเหตุยิงผู้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาต้านยาเสพติดจนมีผู้บาดเจ็บ หลังเกิดเหตุนายอำเภอตากใบลงพื้นที่เยี่ยมผู้บาดเจ็บ […]

นายกฯ ยกหูคุย “ฮุน มาเนต” คลี่คลายเหตุปะทะชายแดน

รัฐสภา 28 พ.ค.- นายกฯ รับทราบเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา เผยยกหูคุยตรง “นายกฯ ฮุน มาเนต” ให้สถานการณ์คลี่คลายเร็วที่สุด ปัดตอบกรณี “ทักษิณ” ประกาศสงครามกับว้าแดง-สถานการณ์ใต้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางออกจากอาคารรัฐสภา ในเวลา 17.40 น. ถึงสถานการณ์ชายแดนไทยไทย-กัมพูชา บริเวณด่านช่องบก จ.อุบลราชธานี ว่า ได้รับรายงานแล้ว และจะมีการพูดคุยกันของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ส่วนตนเองได้พูดคุยกับกระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีข้อตกลงกันออกมา ขณะเดียวกัน ตนเองก็ได้มีการพูดคุยกับ พลเอกฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาด้วย ไม่มีอะไร ซึ่งมีความเข้าใจตรงกันว่าจะทำให้สถานการณ์คลี่คลายลงโดยเร็วที่สุด และไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อีก ส่วนจะมีการใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวของนายกรัฐมนตรีสองประเทศหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ของตนเองกับนายกฯ กัมพูชา ก็เป็นไปได้ด้วยดี เมื่อถามว่า กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศสงครามกับว้าแดง เพื่อแก้ปัญหายาเสพติด รัฐบาลมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ค่ะ ส่วนเหตุการณ์ความรุนแรงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ในวันนี้ […]

ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคาม หลังพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดน

กองทัพอากาศ 28 พ.ค.- ทอ. ยันไม่มีภัยคุกคามต่อประเทศ หลังตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก พล.อ.ท.ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 13.03 น. กองทัพอากาศได้สั่งการให้เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 เครื่อง จากหน่วยบิน กองบิน 4 ปฏิบัติภารกิจการบินป้องกันทางอากาศ วิ่งขึ้นจากสนามบินตาคลี หลังหน่วยควบคุมอากาศยานและแจ้งเตือน ตรวจพบเครื่องบินต้องสงสัยใกล้ชายแดนไทย บริเวณตรงข้ามอำเภอพบพระ จังหวัดตาก เครื่องบินต้องสงสัยลำดังกล่าว เป็นอากาศยานสมรรถนะสูงแบบ YAK-130 มีทิศทางบินมุ่งเข้าสู่เขตแดนไทยในระยะใกล้ กองทัพอากาศ จึงสั่งการบินพิสูจน์ทราบและแสดงท่าทีป้องปราม ตามมาตรการปกติ เพื่อเฝ้าระวังและยืนยันสถานการณ์ จากการติดตามพบว่า เครื่องบินดังกล่าวได้เปลี่ยนทิศทางและออกจากเขตใกล้ชายแดนไทย ในเวลา 13.16 น. โดยไม่แสดงพฤติกรรมรุกราน หรือมีเจตนาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด “กองทัพอากาศ ขอยืนยันว่า เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจปกติในการเฝ้าระวังป้องกันน่านฟ้า ซึ่งกองทัพอากาศดำเนินการอย่างเข้มแข็งและสม่ำเสมอ เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ สร้างความปลอดภัย และความมั่นใจให้แก่ประชาชน” โฆษกกองทัพอากาศ กล่าว ทั้งนี้ […]