กรุงเทพฯ 2 มิ.ย. – อธิบดีกรมอุทยานฯ ประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งติดตามตัวขบวนการค้าไม้มีค่าข้ามชาติที่ก่อเหตุอุกอาจ บุกสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ จ. ร้อยเอ็ด ใช้อาวุธปืนปล้นไม้พะยูงของกลาง ตำรวจจับกุมขบวนการปล้นไม้ได้ 12 คนจาก 16 คน ล่าสุดพบหัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยจึงจับกุมแล้ว อธิบดีกรมอุทยานฯ ย้ำจะร่วมกับตำรวจติดตามจับกุมทั้งขบวนการและขยายผลไปยังคดีอื่นๆ ต่อไป
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีขบวนการค้าไม้มีค่าข้ามชาติซึ่งกระทำอุกอาจปล้นไม้พะยูงของกลาง โดยเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมานั้น มีกลุ่มบุคคลสวมหมวกปิดบังใบหน้าพร้อมอาวุธครบมือประมาณ 30 คน ใช้รถบรรทุกหกล้อติดเครน 1 คันและรถบรรทุกสิบล้อ 1 คันบุกเข้าไปในพื้นที่สวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด บังคับควบคุมตัวหัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์และเจ้าหน้าที่รวม 6 คน โดยใช้อาวุธปืนข่มขู่และทำการปล้นไม้พะยูงของกลาง 7 ท่อน ปริมาตรประมาณ 7 ลูกบาศก์เมตร
อธิบดีกรมอุทยานฯ จึงประสานขอรับการสนับสนุนจากพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ติดตามจับกุม พร้อมทั้งได้สั่งการให้หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (พญาเสือ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามคดีดังกล่าว และมีคำสั่งให้นายวิสัน กุดแถลง หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ มาปฏิบัติราชการที่สำนักป้องกัน ปราบปราม และควบคุมไฟป่า พร้อมกับแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงในกรณีดังกล่าว
ต่อมา หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า ได้สืบสวนข้อมูลเชิงลึกพบว่า ก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว มีบุคคลในพื้นที่มีประวัติอาชญากรรมเป็นผู้ต้องหาคดีลักลอบตัดไม้พะยูงและยาเสพติด พยายามติดต่อกับเจ้าหน้าที่หลายครั้งเพื่อขอซื้อไม้พะยูงโดยเสนอราคาซื้อไม้ของกลางเป็นจำนวนเงิน 1,500,000 บาท และได้ตรวจสอบข้อมูลพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในทางลับอีกทางหนึ่ง ซึ่งได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการติดตามตัวคนร้ายร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบตามเส้นทางต่าง ๆ เพื่อหาเบาะแสของกลุ่มคนร้ายและเส้นทางการขนย้ายไม้ของกลางออกจากพื้นที่เกิดเหตุ พบยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ ประกอบด้วย รถหกล้อเครน (รถเฮี๊ยบ) รถยนต์บรรทุกสิบล้อ รถยนต์กระบะ และรถยนต์เอนกประสงค์ ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดได้บันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ ของกลุ่มคนร้ายได้อย่างชัดเจนและพบข้อมูลว่ามีการนำไม้พะยูงไปซุกซ่อนอยู่ในโรงงานแปรรูปไม้ในพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร อุดรธานี หนองคาย และยโสธร
เจ้าหน้าที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ ได้สืบสวนติดตามเบาะแสเพื่อหาตัวคนร้ายและไม้พะยูงของกลาง ต่อมาได้ขอหมายจับจากศาลจังหวัดมุกดาหาร จำนวน 16 หมาย เพื่อจับกุมผู้กระทำผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการปล้นไม้พะยูงของกลางดังกล่าว โดยในห้วงระหว่างวันที่ 11 – 24 พฤษภาคม 2566 สามารถจับกุมตัวผู้กระทำผิดได้แล้ว จำนวน 12 ราย และยังอยู่ระหว่างติดตามตัวอีก 4 ราย
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมายจับของศาลจังหวัดมุกดาหาร เข้าจับคุมตัวนายวิสัน กุดแถลง หัวหน้าสวนพฤกษศาสตร์ดงมะอี่ ซึ่งมีหลักฐานมัดตัวว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้าไม้พะยูง ส่งสถานีตำรวจภูธรหนองสูงใต้ จังหวัดมุกดาหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
สำหรับคดีที่สำคัญอีกหนึ่งคดี คือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา กรณีนายสุวรรณ เหมือนทอง เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งชนะ ถูกยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการป้องกันและปราบปรามขบวนการลักลอบนำรถยนต์ข้ามชายแดนไทย-ลาว ในท้องที่บ้านหนองชาด หมู่ 4 ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี จากการสืบสวนพบว่านายกต สีทามั่น อายุ 51 ปี ชาวอำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้ร่วมกระทำผิด โดยนายกตฯ ได้แจ้งการสำรวจถือครองที่ดินในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์ไว้ ดังนั้นเมื่อมีการกระทำผิดเกิดขึ้น กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะได้เพิกถอนการครอบครองพื้นที่สำรวจถือครองดังกล่าวต่อไป
นายอรรถพลกล่าวว่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สืบสวนสอบสวนจนสามารถจับกุม ขบวนการค้าไม้มีค่าข้ามชาติ เป็นการทลายแก๊งค้าไม้มีค่าผิดกฎหมายรายใหญ่ ซึ่งจะได้ขยายความร่วมมือเพื่อดำเนินการจับกุมปราบปรามขบวนการกระทำผิดกฎหมายอีกหลายคดี ตลอดจนคดีสำคัญที่มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะจนเสียชีวิต ซึ่งผู้กระทำผิดมีทั้งชาวไทยและชาวลาว 8 คน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการหยุดยั้งไม่ให้กลุ่มคนต่างประเทศเข้ามาตัดไม้มีค่าในประเทศไทย จึงขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การนำของพล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ให้การช่วยเหลือสนับสนุนการปฏิบัติงาน จนสามารถจับกุมขบวนการค้าไม้มีค่าข้ามชาติ ซึ่งจะได้ขยายผลไปยังคดีอื่นๆ ต่อไปในอนาคต.-สำนักข่าวไทย