รองปลัดทส. ชี้มีมูลเพียงพอกล่าวโทษผิดวินัยร้ายแรงต่อ “อธิบดีรัชฎา”

กรุงเทพฯ 1 ก.พ. – รองปลัดกระทรวงทส. เผย เตรียมสรุปผลการสอบสวนวินัยร้ายแรงกรณี “อธิบดีรัชฎา” ถูกกล่าวหาเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา โดยจะเสนอปลัดกระทรวงในวันที่ 4 ก.พ. นี้ ชี้มีมูลเพียงพอที่จะกล่าวโทษว่า กระทำผิดวินัยร้ายแรงจริง หากผู้ถูกกล่าวโทษไม่สามารถชี้แจงหรือโต้แย้งหลักฐานได้ จะถูกลงโทษขั้นสูงสุดคือ ให้ออกหรือไล่ออกจากราชการ


นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชที่ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับเรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาแลกกับการแต่งตั้งโยกย้าย เปิดเผยว่า ยังคงเหลือพยานบางส่วนที่เชิญมาให้ข้อมูล ขณะนี้สอบสวนพยานแล้วรวมกว่า 50 คน ประกอบด้วย กลุ่มแรกคือ กลุ่มของนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) รวม 17 คน กลุ่มที่ 2 คือ พยานตามรายชื่อบนซองเงิน และกลุ่มที่ 3 คือ ผู้อำนวยการสำนักรวม 21 สำนักและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่ง ที่อ้างอิงจากพยานกลุ่มที่ 1 และ 2 รวมพยานที่เข้าให้ข้อมูลแล้วกว่า 50 คน

ทั้งนี้คณะกรรมการเตรียมสรุปผลการสอบสวนเพื่อรายงานต่อนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทส. และนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทส. ซึ่งกำหนดระยะเวลาการสอบสวนไว้ให้เสร็จภายในวันที่ 4 กุมภาพันธ์เพื่อสั่งการต่อไป


นายเถลิงศักดิ์ยืนยันว่า จากการประมวลข้อมูลและหลักฐานที่ได้จากพยานทั้งหมด มีมูลเพียงพอที่จะกล่าวโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงต่อ “อธิบดีรัชฎา” เมื่อแจ้งข้อกล่าวโทษแล้ว คณะกรรมการจะให้ระยะเวลาผู้ถูกกล่าวโทษรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อชี้แจงโต้แย้งข้อกล่าวโทษ โดยในการสอบสวนทางวินัยอย่างร้ายแรงที่กระทรวงเคยดำเนินการมา ขั้นตอนการให้ผู้ถูกกล่าวโทษมาชี้แจงประมาณ 1-2 สัปดาห์ ถ้าไม่สามารถโต้แย้งข้อกล่าวโทษได้ กระทรวงทส. จะสั่งลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงซึ่งโทษสูงสุดคือ ให้ออกหรือไล่ออกจากราชการ

พร้อมย้ำว่า การสอบสวนเรื่องดังกล่าว รัฐมนตรีว่าการและปลัดกระทรวงให้ความสำคัญซึ่งกำชับให้คณะกรรมการสอบสวนรวบรวมหลักฐานและคำให้การของพยานเพื่อสรุกข้อกล่าวโทษอย่างรอบคอบรัดกุม พร้อมให้ดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อกอบกู้ศรัทธาของประชาชนที่มีต่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยา

คนไข้เผยรับยาส่งต่อให้นายหน้า ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

มีคนไข้ รพ.ทหารผ่านศึก เพียง 50 คน จากกว่า 100 คน ตอบรับเข้าให้ข้อมูลตำรวจ คดีขบวนการทุจริตยาและเวชภัณฑ์ ขณะที่หนึ่งในคนไข้ เผยเข้ารักษาเพื่อยาส่งต่อให้นายหน้ารับซื้อยา ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท

จับครบ 10 คนแล้ว แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บ

จับครบตามหมายจับ 10 คน แก๊งยิงนักศึกษาอุเทนถวายบาดเจ็บก่อนวันบลูเดย์ ทั้งหมดยังปากแข็งให้การภาคเสธ ตำรวจพบพฤติการณ์วางแผนครึ่งเดือน ถอดเสื้อมือยิง มีรอยแผลเป็นฟันเฟือง 4 อัน

จับแล้ว! มือยิง นศ.อุเทนก่อนวันบลูเดย์ พบทำเป็นขบวนการ

จับแล้ว! กลุ่มมือยิง นศ.อุเทนฯ ก่อนวันบลูเดย์ พบพฤติการณ์ทำงานเป็นทีม มีคนชี้เป้าให้ยิง มีคนพาแยกย้ายหลบหนี เร่งล่าอีก 1 คาดได้ตัวเร็วๆนี้

ข่าวแนะนำ

คนไทยเจ็บ 4 เหตุเครื่องบินรบเกาหลีใต้ทิ้งระเบิดพลาดขณะซ้อมรบ

โฆษก กต. เผยเหตุเครื่องบินรบเกาหลีใต้ทิ้งระเบิดพลาดในการซ้อมรบร่วมระหว่างเกาหลีใต้-สหรัฐ มีคนไทยได้รับบาดเจ็บ 4 ราย เตรียมเข้าผ่าตัด 1 คน พรุ่งนี้ (7 มี.ค.68) ส่วนอีก 3 คน บาดเจ็บเล็กน้อย

ล่าคนร้ายขว้างไปป์บอมบ์ถล่มป้อมรถไฟยะลา เจ็บ 6

คนร้ายป่วน จ.ยะลา 2 รอบ ขว้างไปป์บอมบ์ ชาวบ้านเจ็บระนาว ก่อนวางระเบิดซ้ำหน้าวัดขณะจัดงานบวช ผู้การยะลา สั่งยกระดับมาตรการดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่ขั้นสูงสุด ไล่ล่าคนร้าย

คุมตัว 2 แม่ลูก ทำแผนฆ่าสามีใหม่ ลูกชายรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ตำรวจคุมตัวสองแม่ลูกทำแผนฆ่าสามีใหม่ สารภาพรัดคอปลิดชีพ ก่อนนำศพไปทิ้งอำพราง ส่วนแรงจูงใจก่อเหตุ ลูกชายยอมรับแค้นพ่อเลี้ยงทำร้ายแม่

ยกหูคุยนายกฯ มาเลเซีย ร่วมแก้น้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก

นายกฯ ยกหูจากเยอรมนีคุย “นายกฯ มาเลเซีย” เตรียมความพร้อมร่วมมือแก้ปัญหาน้ำท่วมลุ่มแม่น้ำโก-ลก ผลักดันโครงการก่อสร้างถนนเชื่อมด่านสะเดาแห่งใหม่-ด่านบูกิตกายูฮิตัม คาดเสร็จภายใน ต.ค.นี้