กรุงเทพฯ 4 ก.ค. – “พัชรวาท” เร่งจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อควบคุมมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ตามความเห็นชอบของที่ประชุมประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียน ย้ำเฝ้าระวังเข้มช่วงเดือนก.ค. – ก.ย. ซึ่งปกติเป็นช่วงพีก แต่ปี 67 คาดภูมิภาคอาเซียนตอนใต้จะมีฝนมากกว่าค่าปกติ แต่ยังมีความเสี่ยงเกิดจุดความร้อนและหมอกควันในพื้นที่แห้งแล้ง
พลตำรวจเอกพัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการระดับรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมภูมิภาคอาเซียนตอนใต้ 6 ประเทศ ภายใต้ข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 25 ได้แก่ เนการาบรูไนดารุซาลาม สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประเทศมาเลเซีย สาธารณรัฐสิงคโปร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยติมอร์-เลสเต และประเทศไทย โดยปีนี้จัดขึ้นที่ประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “หยุดไฟในป่า รักษาพรุ เป็นภูมิภาคปลอดหมอกควัน” “Stop Forest Fires, Preserve Peatlands for Haze Free ASEAN”
ในที่ประชุมศูนย์เชี่ยวชาญด้านอุตุนิยมวิทยาเฉพาะทางอาเซียน (ASMC) รายงานผลคาดการณ์สถานการณ์หมอกควันข้ามแดนโดยว่า ในช่วงเดือนกรกฎาคม – กันยายนซึ่งปกติเป็นช่วงที่เกิดปัญหาหมอกควันข้ามแดนในภูมิภาคอาเซียนตอนใต้มากที่สุด แต่ในปี 2567 จะมีปริมาณฝนมากกว่าปกติ แต่ยังมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาหมอกควันข้ามแดนในบางช่วงเวลา เนื่องจากอาจเกิดจุดความร้อนและหมอกควันในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟโดยเฉพาะในช่วงสภาวะอากาศแห้งแล้ง
พลตำรวจเอกพัชรวาทกล่าวชื่นชมความร่วมมือและความทุ่มเทของทุกประเทศที่ได้ให้คำมั่นร่วมกันว่า จะเฝ้าระวังและเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบ เฝ้าระวัง และป้องกันการเกิดไฟ เพื่อลดปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยเฉพาะความมุ่งมั่นในการร่วมกันดำเนินการตามข้อตกลงอาเซียน เรื่อง มลพิษจากหมอกควันข้ามแดน รวมถึงการพัฒนาเครื่องมือและกลไกต่างๆ ได้แก่ การขยายการปฏิบัติการของ ASMC เพื่อการรายงานพื้นที่เผาไหม้ การใช้งานระบบคาดการณ์ความเสี่ยงการเกิดไฟจากไฟป่าหรือไฟที่เกิดจากการเผาพืช (FDRS) การจัดตั้งเครือข่ายฝึกอบรมด้านการจัดการไฟและหมอกควันในภูมิภาคอาเซียนตอนล่าง (RHTN)
ที่สำคัญประเทศไทยกำลังเร่งจัดตั้งศูนย์ประสานงานอาเซียนเพื่อควบคุมมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน (ACC THPC) ซึ่งทุกประเทศเห็นชอบร่วมกันตั้งแต่การประชุมประเทศภาคีต่อข้อตกลงอาเซียน เรื่อง มลพิษจากหมอกควันข้ามแดน ครั้งที่ 18 เมื่อเดือนสิงหาคม 2566 โดยอยู่ระหว่างการเตรียมลงนามในข้อตกลงเพื่อให้สามารถจัดการกับต้นตอของปัญหาหมอกควันข้ามแดนได้อย่างครอบคลุมและนำไปสู่การลดการเกิดหมอกควันข้ามแดนให้เหลือน้อยที่สุด
ในช่วงเฝ้าระวังระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2567 ทุกประเทศได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับปัญหาหมอกควันในอาเซียนตอนใต้ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยและสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นได้
สำหรับประเทศไทย คณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืนที่มีพลตำรวจเอกพัชรวาทเป็นประธานได้สั่งการให้หน่วยงานต่างๆ ภายในประเทศเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมจัดการปัญหาการเกิดไฟในพื้นที่ป่าพรุและจุดความร้อนที่เกิดขึ้นในพื้นที่เกษตรอย่างเข้มงวด เพื่อบรรเทาความสูญเสียและความเสียหายจากไฟในพื้นที่พรุที่และพื้นที่เกษตรจะเกิดขึ้นในประเทศและอาจส่งผลกระทบต่อประเทศเพื่อนบ้าน
ทั้งนี้ประเทศไทยมุ่งมั่นในการยกระดับความร่วมมือกับประเทศสมาชิกอาเซียนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมและแสวงหาความร่วมมือทุกรูปแบบในทุกระดับ เพื่อขับเคลื่อนให้อาเซียนเป็นภูมิภาคปลอดหมอกควัน. 512 – สำนักข่าวไทย