บก.ป. รวบชายควงปืนลูกซองยิงถล่มบ้านกลางเมืองโคราช

กรุงเทพฯ 18 ก.ค. – รวบชายวัย 55 ปี ใช้ปืนลูกซองยิงใส่บ้านหลังหนึ่ง กลางเมืองโคราช อ้างคิดว่าเจ้าของบ้านหลอกเอาเงินตนเองไปกว่า 3 ล้านบาท


เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม และตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา ร่วมกันจับกุม นายประพัฒน์ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนครราชสีมา ที่ 261/2565 ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ทำให้เสียทรัพย์, ทำให้ผู้อื่นตกใจกลัว, ยิงปืนโดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต”

จับกุมได้บริเวณซอยพุทธมณฑลสาย 2 แขวงศาลาธรรมศพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดของกลาง ได้แก่ 1. อาวุธปืนอีกจำนวน 4 กระบอก 2. เครื่องกระสุนปืนลูกซอง จำนวนกว่า 20 นัด 3. ลูกกระสุนปืนขนาด .38 จำนวนกว่า 30 นัด 4. เสื้อเกราะจำนวน 1 ตัว


พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 10.30 น. คนร้ายใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่บ้านหลังหนึ่ง ในซอยมิตรภาพ 4 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา จากนั้นได้หลบหนีไป โดยบ้านหลังที่ถูกอาวุธปืนยิงใส่นั้น ไม่มีผู้พักอาศัยอยู่ จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ แต่อย่างไรก็ตามจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่งผลให้ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียง เกิดความกลัว หวาดผวา เกรงว่าคนร้ายจะกลับมาก่อเหตุอีก ซึ่งอาจจะเกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่บ้านใกล้เคียงได้ ชาวบ้านจึงร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุให้ได้โดยเร็ว

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านของญาติ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แขวงศาลาธรรมศพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม และ ชุดสืบสวน สภ.เมืองนครราชสีมา จึงได้ร่วมกันวางแผนเข้าทำการตรวจค้นจับกุม

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน เข้าทำการตรวจค้นบ้านที่นายประพัฒน์ พักอาศัยอยู่ โดยมีชุดปฏิบัติการพิเศษหนุมานกองปราบ นำทีมเข้าตรวจค้น โดยขณะจับกุมนายประพัฒน์ ยอมรับว่าเป็นผู้ไปก่อเหตุยิงปืนลูกซองใส่บ้านกลางเมืองโคราชจริง จากนั้นจึงได้พาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจค้นบ้านพัก พบอาวุธปืนอีกจำนวน 4 กระบอก รวมถึงปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุด้วย ทั้งนี้ยังได้ตรวจยึดเครื่องกระสุนปืนลูกซอง จำนวนกว่า 20 นัด, ลูกกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวนกว่า 30 นัด, เสื้อเกราะจำนวน 1 ตัว และได้ตรวจยึดเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุไว้เป็นพยานหลักฐานในคดีด้วย


หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้นำตัวนายประพัฒน์ พร้อมของกลางที่ตรวจยึดส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครราชสีมา เพื่อดำเนินตามกฎหมายต่อไป

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ให้การว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองไปก่อเหตุยิงใส่บ้านเรือนประชาชนกลางเมืองโคราช เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมาจริง โดยมีสาเหตุมาจาก ตนเองเข้าใจว่าเจ้าของบ้านหลังที่ตนเองยิงปืนใส่นั้นได้มาก่อเหตุหลอกลวงเอาเงินของตนไปกว่า 3 ล้านบาท ซี่งนายประพัฒน์ ได้ไปเฝ้าดูที่บ้านหลังนี้มาประมาณ 2-3 ครั้งแล้ว แต่ไม่เคยพบเจ้าของบ้าน และด้วยความโกรธแค้นที่ถูกหลอกลวงจึงหยิบปืนที่อยู่หลังรถยนต์ มายิงใส่เข้าไปในบ้านจำนวน 1 นัด เพื่อเป็นการเตือนเจ้าของบ้าน โดยไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายให้มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ หรืออันตรายแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ