“ทนายเดชา” ชี้คดีแตงโมวุ่นวายเหตุมีการแนะนำคนบนเรือ

กรุงเทพฯ 21 มี.ค. – “ทนายเดชา” ชี้คดีแตงโมที่วุ่นวายถึงทุกวันนี้ เพราะมีนักกฎหมาย ทนายความ ให้คำแนะนำคนบนเรือทั้ง 5 คน หลังเกิดเหตุ ขณะที่แพทย์ด้านนิติเวช และนักอาชญาวิทยา ระบุแม้ตำรวจทำงานในคดีนี้เยอะ แต่ประชาชนไม่เชื่อมั่น


บริษัท อสมท จำกัด มหาชน ร่วมกับมหาวิทยาลัยรังสิต จัดงานเสวนา “ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม กรณีคดีแตงโม นิดา จมน้ำเสียชีวิต” ที่มหาวิทยาลัยรังสิต รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อย และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต กล่าวว่า ตามหลักสากล ความโปร่งใสจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีหน่วยงานภายนอกร่วมตรวจสอบ ในคดีนี้ทราบว่าตำรวจทำงานเยอะ แต่ไม่มีความเชื่อมั่นจากประชาชน

ส่วนผลการชันสูตรของสถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ก็ตรงกับผลชันสูตรรอบ 2 ซึ่งทราบจากคณะทำงานชันสูตรรอบ 2 ว่า ทีมนิติเวชชุดแรกที่ผ่าศพ มีความเชี่ยวชาญมาก เพียงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้น


นอกจากนี้ได้นำกรณีคดีแตงโม คุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนไทย ซึ่งเป็นตำรวจที่สหรัฐอเมริกา ถ้าเป็นสหรัฐอเมริกา กรณีที่แซนอ้างว่าแตงโมจับขาตัวเองขณะปัสสาวะ ตำรวจจะตรวจลายนิ้วมือที่ขาแซนว่าจริงตามที่อ้างหรือไม่ และจะแยกสอบสวนทั้ง 5 คนทันที หรือตามถึงที่บ้านตั้งแต่วันเกิดเหตุ ถ้าไม่ยอมอยู่ และไม่ให้ความร่วมมือ แสดงว่ามีความผิดปกติ พฤติกรรมของคนบนเรือแตกต่างจากคนปกติทั่วไป ตำรวจก็สงสัยเหมือนที่ประชาชนสงสัย เพียงแต่ต้องอาศัยหลักฐาน ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้ตำรวจมีหลักฐาน

ขณะที่ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวถึงการส่งศพชันสูตรที่สถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ทั้งที่ตอนแรกจะส่งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ว่า การส่งศพชันสูตรพลิกศพ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน แต่ลึก ๆ ไม่รู้เพราะอะไร ถึงเปลี่ยนที่ชันสูตรพลิกศพ ปกติการชันสูตรศพ จะเริ่มจากแพทย์ที่ร่วมตรวจที่เกิดเหตุเห็นว่าเป็นการเสียชีวิตผิดปกติ ก็จะส่งชันสูตรพลิกศพ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการชันสูตรรอบแรกหรือรอบที่ 2 ญาติมีส่วนที่จะเลือกสถานที่ผ่าชันสูตรศพได้ ส่วนประเด็นเลือดบนเรือ แล้วระยะเวลาที่ยึดเรือตรวจสอบจะมีผลให้เลือดจางจนตรวจไม่เจอหรือไม่นั่น ถ้ามีการรบกวน เช่นการล้าง ทำความสะอาดเรือ ก็ยังตรวจหาเลือดเจอได้ หากตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงมือตรวจในช่วงเวลาที่ยึดเรือไว้

รศ.นพ.วีระศักดิ์ ยังชี้แจงกรณีนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความที่ออกรายการในยูทูป ว่ามีก้อนเลือดที่ขาขวาที่ระบุเป็นการฆาตกรรม ว่าในคณะทำงาน มีการพูดคุยกันในเชิงวิชาการถึงบาดแผลที่เป็นแผลก่อนเสียชีวิต และแผลหลังเสียชีวิตจะแตกต่างกัน โดยแผลที่เกิดก่อนเสียชีวิต เลือดจะไหลออกเข้าเซลล์ชิ้นเนื้อ ทำให้มีเม็ดเลือดในเซลล์ชิ้นเนื้อ แต่ถ้าเป็นแผลที่เกิดหลังเสียชีวิต จะไม่มีเม็ดเลือดในเซลล์ชิ้นเนื้อ มีการพูดคุยเชิงวิชาการแค่นี้ แต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องลิ่มเลือดที่บาดแผลว่ามีการพบหรือไม่ ซึ่งในประเด็นนี้ได้โทรศัพท์ขอโทษ “พญ.คุณหญิงพรทิพย์” ที่มีการสื่อสารผิดในการพูดคุยกับทนายรณรงค์ แล้ว ส่วนกรณีลิ้นจุกปากนั้น การจมน้ำไม่ได้เกี่ยวข้องกับลิ้นจุกปาก แต่ที่ลิ้นจุกปากเพราะเกิดจากการเน่าของศพ


ด้านนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ และทนายความมารดาแตงโม กล่าวว่า คดีนี้ยุ่งยาก เพราะมีนักกฎหมายเข้าไปเกี่ยวข้องตั้งแต่แรก มีแหล่งข่าวเชิงลึกระบุว่า ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ มีนักกฎหมายแนะนำกลุ่มคนที่อยู่บนเรือว่าอย่าเพิ่งพบพนักงานสอบสวน แต่ให้พบทนายความก่อน ทำให้คำพูดของผู้ต้องหา ย่อมต้องเปลี่ยนไป ซึ่งข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของทั้ง 5 คน ตำรวจมีทั้งหมด จึงรู้ว่ามีการนัดหมายทนาย 3 กลุ่ม กลุ่มแรกปั๊มเชลล์ กลุ่ม 2 ที่ราชบุรี กลุ่ม 3 ที่ร้านอาหารสุขุมวิท เหตุที่ไปหาทนายก่อน และไปหาทนายหลายคน เพราะไม่อยากติดคุก ซึ่งคดีนี้ถ้าคนบนเรือไม่ได้ไปหาทนายก่อน คดีน่าจะจบไปแล้ว ซึ่งจริง ๆ คดีประมาททำให้ผู้อื่นตาย ถ้ามีการเยียวยา รับสารภาพ แม้ศาลสั่งจำคุก แต่รอการลงโทษ การไปหาทนายความหลังการเกิดเหตุ ทำให้คนคิดต่อไปได้ว่ามีความน่าสงสัย และทำให้คดียุ่งยากถึงทุกวันนี้

ส่วนกรณีที่ตำรวจเปลี่ยนที่ชันสูตรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาเป็นสถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ได้สอบถามจากตำรวจแล้วทราบว่า พ.ร.บ.เกี่ยวกับการใช้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์นั้น การผ่าศพครั้งแรก พนักงานสอบสวนต้องร้องขอ ถ้าผ่าซ้ำต้องร้องขออีก ซึ่งค่อนข้างลำบาก ดังนั้นเมื่อเริ่มต้นเป็นคดีอาญา อยู่ในอำนาจตำรวจ จึงให้อยู่ในหน่วยสังกัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ต้องทำเรื่องขออนุญาตให้หน่วยงานภายนอกช่วยชันสูตรให้ยุ่งยาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของตำรวจ

คดีตอนนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมใกล้เสร็จแล้ว อีก 2-3 วันใกล้เสร็จ อย่างช้าสุดก็สิ้นเดือนนี้ โดยพยานหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนจะมีมากกว่านั้น หรือมีผู้ต้องหาเพิ่มหรือไม่ ให้รอฟังการแถลงปิดคดีจากตำรวจ ทั้งนี้ ทราบว่าจะมีทนาย ซึ่งเป็นทนายที่มีชื่อเสียง สังคมรู้จักจะมารับเป็นทนายให้คนบนเรือ. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดังเปิดใช้ชื่อวัดรับบริจาค แต่วัดเบิกไม่ได้

บช.ก. 6 ส.ค. – “บิ๊กเต่า” ชี้พิรุธหมอดูชื่อดัง เปิดรับบริจาค ใช้บัญชีชื่อวัด แต่หมอดูเบิกได้คนเดียว ตามกฎหมายทำไม่ได้ ต้องนำบัญชีมาตรวจสอบเส้นเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกรณีที่มีหมอดูชื่อดังได้เปิดรับบริจาคเงินโดยใช้บัญชี ชื่อวัดพระบาทน้ำพุ แต่คนที่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้คือหมอดูคนดังกล่าว ทำให้ประชาชนเกิดข้อสงสัยว่า ทำไมเปิดรับบริจาคใช้ชื่อวัดแต่วัดถอนเงินไม่ได้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตอนนี้มีผู้เสียหายได้มาร้องขอความเป็นธรรมที่ กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เรื่องหมอดูคนดังกล่าว และได้มีการพูดคุยกับผู้กำกับกอง 1 ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มีการอ้างว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาส อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และจะต้องมีการเช็คว่านำเงินไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และเจ้าอาวาสนำเงินไปใช้อะไร เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีนี้จะเข้าข่ายคดีฉ้อโกงหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่า คิดว่าน่าจะเข้าข่ายคดีฉ้อโกง แต่ก็ต้องตรวจสอบดูว่าเงินที่รับบริจาคมาเอาไปให้เจ้าอาวาสจริงหรือไม่ และถ้าเอาไปให้จริง เจ้าอาวาสนำเงินไปใช้จ่ายอะไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามอีกว่ากรณีที่หมอดูคนดังกล่าว นำชื่อวัดมารับบริจาคเงินแต่หมอดูคนดังกล่าวกับเบิกเงินได้คนเดียว ทั้งที่ชื่อในบัญชีที่รับบริจาคเป็นชื่อวัดกระทำได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ บอกว่าทำไม่ได้ ถ้าใช้ชื่อบัญชีรับบริจาคเป็นชื่อวัดก็ต้องนำเงินไปให้วัดแล้วคนที่เบิกได้ก็ต้องเป็นวัดเท่านั้น เพราะเป็นเงินวัด เดี๋ยวจะต้องมีการนำบัญชีดังกล่าวมาตรวจสอบว่าเงินที่เข้าในบัญชีเท่าไหร่และวัดได้เท่าไหร่ และการรับบริจาคในลักษณะนี้ ต้องมีกรรมการวัดในการตรวจสอบบัญชี ให้ละเอียด ไม่ใช่อยากรับบริจาคก็จะทำได้เลย. -415-สำนักข่าวไทย

บุกค้นบริษัท ยึดโดรน-อุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น

กทม. 6 ส.ค.-ตำรวจกองปราบ ร่วมกับ กสทช. บุกค้นบริษัทใน จ.สมุทรปราการ ยึดโดรน และอุปกรณ์ตัดสัญญาณรวมกว่า 200 ชิ้น ตำรวจกองบังคับการปราบปราม ร่วมกับเจ้าหน้าที่ กสทช. และพนักงานสืบสวนจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังพบขัอมูลว่ามีบริษัทแห่งนี้ผลิตอุปกรณ์ และมีอากาศยานไร้คนขับโดรนไว้จำนวนมาก ต่อมาเมื่อแสดงหมายเพื่อขอตรวจค้น นายกฤษนันท์ ได้แสดงตัวเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าว เป็นผู้นำตรวจค้น จากการตรวจค้นพบอากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน 29 เครื่อง, กระเป๋าตรวจจับสัญญาณ 38 อัน, ปืนรบกวนสัญญาณ 129 กระบอก, เครื่องรบกวนสัญญาณ 16 เครื่อง, รถตู้สำหรับตรวจจับและรบกวนสัญญาณ 1 คัน และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีก 50 รายการ โดยของกลางทั้งหมดจะถูกนำไปเก็บไว้ที่กองบังคับการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อนำไปตรวจสอบความถี่ และเอกสารที่เกี่ยวข้อง สำหรับบริษัทดังกล่าว ตำรวจให้ข้อมูลว่า มีเจ้าของโรงงานเป็นคนสัญชาติสิงคโปร์ และมีกรรมการเป็นชาวไทยร่วมด้วย ประกอบกิจการผลิตอุปกรณ์ และอากาศยานไร้คนขับโดรน.-สำนักข่าวไทย

มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงิน

กทม 5 ส.ค.-มหาดไทย เตรียมชง ครม. เด้ง 2 อธิบดีสายน้ำเงินอีก “ขจรเกียรติ” ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ผงาดคุมที่ดิน “เชษฐา” คุม ปภ. โยก “ภาสกร” นั่งผู้ว่าฯ ระยอง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงมหาดไทย เตรียมเสนอให้ ครม.พิจารณาเห็นชอบรวม 5 ตำแหน่ง ประกอบด้วย นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน เป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา เป็นอธิบดีกรมที่ดิน นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เป็นผู้ว่าฯ ระยอง และนายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าฯ ระยอง เป็นผู้ว่าฯ เพชรบุรี.-319.-สำนักข่าวไทย

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

ข่าวแนะนำ

แม่ทัพภาค 2 เชื่อผลประชุม GBC เป็นทิศทางที่ดี

7 ส.ค. – มทภ.2 ขอรอผลอย่างเป็นทางการหลังประชุม GBC เชื่อจะไปในทิศทางที่ดี เมิน “ฮุนเซน” ขอไทยงดใช้ F-16 ร้องนานาชาติ หยุดขายเครื่องบินรบให้ไทย ส่วนกรณีสายลับเขมร รอเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ให้สัมภาษณ์ภายหลังรับมอบอุปกรณ์โดรนโลเคเตอร์ เครื่องจับพิกัดตัวโดรน รวม 30 เครื่อง มูลกว่า 8 ล้านบาท เครื่องนุ่งห่ม รวมถึงของใช้ที่จำเป็นเพื่อนำไปมอบให้ทหารแนวหน้า จากมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้จะได้ข้อสรุปในการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) สถานการณ์ต่อไปจะเป็นอย่างไร พลโท บุญสิน บอกว่ารอการชี้แจงอย่างเป็นทางการ เชื่อว่าจะดีขึ้น ย้ำว่า ในข้อเสนอ 8 เรื่อง 6 ประเด็น ตนให้ความสำคัญ ทหารไทย ณ ปัจจุบันนี้อยู่ตรงไหนก็ให้อยู่ตรงนั้น คำนึงถึงเรื่องนี้เป็นหลัก เน้นย้ำให้ทหารหน้าแนวตั้งอยู่ในความไม่ประมาท และตรึงกำลังไว้ตลอด เรื่องแผ่นดินไม่สามารถคุมได้ด้วยเครื่องมือ ต้องใช้คนเฝ้า เมื่อเปรียบเทียบกับท่าทีของกัมพูชาแล้ว เราจะต้องประกบไว้แบบนี้ […]

พล.อ.ณัฐพล เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย

มาเลเซีย 7 ส.ค.-พล.อ.ณัฐพล รมช.กห. เข้าเยี่ยมคำนับนายกฯ มาเลเซีย ก่อนถก GBC ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ บ่ายนี้ เมื่อเช้าวันนี้ (7 ส.ค. 68) พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เข้าเยี่ยมคำนับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ซึ่งเป็นประธานอาเซียนในขณะนี้และเป็นเจ้าภาพของสถานที่การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(General Border Committee: GBC) ไทย – กัมพูชา สมัยวิสามัญ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาเข้าร่วมด้วย ซึ่งเป็นโอกาสแรกที่ฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พบกันในระดับรัฐมนตรีก่อนที่จะเข้าร่วมประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่จะมีขึ้นในช่วงบ่ายของวันนี้ Deputy Minister of Defence pays courtesy call on Malaysian Prime Minister before Extraordinary Session of Thailand […]

“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด จับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาส

กทม. 7 ส.ค.-“บิ๊กเต่า” ลุยค้น 3 จุด บุกจับอดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร – อดีตเจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ก๊วนกิ๊กเก่า “สีกากอล์ฟ” หลังพบทุจริตยักยอกเงินวัด เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 7 ส.ค. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปาตแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาฯ ป.ป.ท. นำกำลังตำรวจ บก.ปปป. และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เปิดปฏิบัติการ “กอล์ฟทีม EP.1” บุกค้นเป้าหมาย 3 จุด ใน จ.สุราษฎร์ธานี จ.พิจิตร และ จ.สมุทรสงคราม เพื่อจับกุมอดีตพระชั้นผู้ใหญ่ และ คนใกล้ชิด ที่เคยพัวพันสัมพันธ์ฉาวสีกากอล์ฟ หลังพบกระทำผิดทุจริตยักยอกเงินวัดมาใช้ดูแลสีกา เป้าหมายจุดแรกที่เข้าตรวจค้นเป็นสถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักของนายทิวากร ดีไพร หรือ […]

มท.1 เด้งฟ้าผ่า ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี

เมืองทองธานี 7 ส.ค.-รมว.มหาดไทย สั่งเด้งฟ้าผ่า “ผู้ว่าฯ อุบลราชธานี” ก่อนประชุมมอบนโยบายกระทรวงมหาดไทย เหตุมีปัญหาเบิกจ่ายงบประมาณดูแลประชาชนได้รับผลกระทบชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยก่อนการประชุมมอบนโยบายสำคัญของกระทรวงมหาดไทย ว่า ได้มีการสั่งย้าย ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้มาช่วยราชการที่กระทรวงมหาดไทย หลังมีปัญหาเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีการเบิกงบทดรองราชการจ่ายเพียง 55,600 บาท จากที่รัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้ 100 ล้านบาท ส่วนจะย้ายชั่วคราว หรือถาวรน้้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากัน เมื่อถามว่า จะรอผลสอบก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เดี๋ยวค่อยว่ากันในรายละเอียด โดยคำสั่งจะออกในช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม มีการยืนยันจากผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ว่าได้เดินทางมาร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย​ แต่ปฏิเสธที่จะแสดง​ความเห็น​ และไม่ขอให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน.-315.-สำนักข่าวไทย