“ทนายเดชา” ชี้คดีแตงโมวุ่นวายเหตุมีการแนะนำคนบนเรือ

กรุงเทพฯ 21 มี.ค. – “ทนายเดชา” ชี้คดีแตงโมที่วุ่นวายถึงทุกวันนี้ เพราะมีนักกฎหมาย ทนายความ ให้คำแนะนำคนบนเรือทั้ง 5 คน หลังเกิดเหตุ ขณะที่แพทย์ด้านนิติเวช และนักอาชญาวิทยา ระบุแม้ตำรวจทำงานในคดีนี้เยอะ แต่ประชาชนไม่เชื่อมั่น


บริษัท อสมท จำกัด มหาชน ร่วมกับมหาวิทยาลัยรังสิต จัดงานเสวนา “ความเชื่อมั่นต่อกระบวนการยุติธรรม กรณีคดีแตงโม นิดา จมน้ำเสียชีวิต” ที่มหาวิทยาลัยรังสิต รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายรักษาความสงบเรียบร้อย และประธานกรรมการคณะอาชญาวิทยาและการบริหารงานยุติธรรม ม.รังสิต กล่าวว่า ตามหลักสากล ความโปร่งใสจะเกิดขึ้นได้ ต้องมีหน่วยงานภายนอกร่วมตรวจสอบ ในคดีนี้ทราบว่าตำรวจทำงานเยอะ แต่ไม่มีความเชื่อมั่นจากประชาชน

ส่วนผลการชันสูตรของสถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ก็ตรงกับผลชันสูตรรอบ 2 ซึ่งทราบจากคณะทำงานชันสูตรรอบ 2 ว่า ทีมนิติเวชชุดแรกที่ผ่าศพ มีความเชี่ยวชาญมาก เพียงแต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือความเชื่อมั่นที่เกิดขึ้น


นอกจากนี้ได้นำกรณีคดีแตงโม คุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับคนไทย ซึ่งเป็นตำรวจที่สหรัฐอเมริกา ถ้าเป็นสหรัฐอเมริกา กรณีที่แซนอ้างว่าแตงโมจับขาตัวเองขณะปัสสาวะ ตำรวจจะตรวจลายนิ้วมือที่ขาแซนว่าจริงตามที่อ้างหรือไม่ และจะแยกสอบสวนทั้ง 5 คนทันที หรือตามถึงที่บ้านตั้งแต่วันเกิดเหตุ ถ้าไม่ยอมอยู่ และไม่ให้ความร่วมมือ แสดงว่ามีความผิดปกติ พฤติกรรมของคนบนเรือแตกต่างจากคนปกติทั่วไป ตำรวจก็สงสัยเหมือนที่ประชาชนสงสัย เพียงแต่ต้องอาศัยหลักฐาน ซึ่งเชื่อว่าตอนนี้ตำรวจมีหลักฐาน

ขณะที่ รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวถึงการส่งศพชันสูตรที่สถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ทั้งที่ตอนแรกจะส่งที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ว่า การส่งศพชันสูตรพลิกศพ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของพนักงานสอบสวน แต่ลึก ๆ ไม่รู้เพราะอะไร ถึงเปลี่ยนที่ชันสูตรพลิกศพ ปกติการชันสูตรศพ จะเริ่มจากแพทย์ที่ร่วมตรวจที่เกิดเหตุเห็นว่าเป็นการเสียชีวิตผิดปกติ ก็จะส่งชันสูตรพลิกศพ ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการชันสูตรรอบแรกหรือรอบที่ 2 ญาติมีส่วนที่จะเลือกสถานที่ผ่าชันสูตรศพได้ ส่วนประเด็นเลือดบนเรือ แล้วระยะเวลาที่ยึดเรือตรวจสอบจะมีผลให้เลือดจางจนตรวจไม่เจอหรือไม่นั่น ถ้ามีการรบกวน เช่นการล้าง ทำความสะอาดเรือ ก็ยังตรวจหาเลือดเจอได้ หากตำรวจพิสูจน์หลักฐานลงมือตรวจในช่วงเวลาที่ยึดเรือไว้

รศ.นพ.วีระศักดิ์ ยังชี้แจงกรณีนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความที่ออกรายการในยูทูป ว่ามีก้อนเลือดที่ขาขวาที่ระบุเป็นการฆาตกรรม ว่าในคณะทำงาน มีการพูดคุยกันในเชิงวิชาการถึงบาดแผลที่เป็นแผลก่อนเสียชีวิต และแผลหลังเสียชีวิตจะแตกต่างกัน โดยแผลที่เกิดก่อนเสียชีวิต เลือดจะไหลออกเข้าเซลล์ชิ้นเนื้อ ทำให้มีเม็ดเลือดในเซลล์ชิ้นเนื้อ แต่ถ้าเป็นแผลที่เกิดหลังเสียชีวิต จะไม่มีเม็ดเลือดในเซลล์ชิ้นเนื้อ มีการพูดคุยเชิงวิชาการแค่นี้ แต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องลิ่มเลือดที่บาดแผลว่ามีการพบหรือไม่ ซึ่งในประเด็นนี้ได้โทรศัพท์ขอโทษ “พญ.คุณหญิงพรทิพย์” ที่มีการสื่อสารผิดในการพูดคุยกับทนายรณรงค์ แล้ว ส่วนกรณีลิ้นจุกปากนั้น การจมน้ำไม่ได้เกี่ยวข้องกับลิ้นจุกปาก แต่ที่ลิ้นจุกปากเพราะเกิดจากการเน่าของศพ


ด้านนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ และทนายความมารดาแตงโม กล่าวว่า คดีนี้ยุ่งยาก เพราะมีนักกฎหมายเข้าไปเกี่ยวข้องตั้งแต่แรก มีแหล่งข่าวเชิงลึกระบุว่า ตั้งแต่หลังเกิดเหตุ มีนักกฎหมายแนะนำกลุ่มคนที่อยู่บนเรือว่าอย่าเพิ่งพบพนักงานสอบสวน แต่ให้พบทนายความก่อน ทำให้คำพูดของผู้ต้องหา ย่อมต้องเปลี่ยนไป ซึ่งข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของทั้ง 5 คน ตำรวจมีทั้งหมด จึงรู้ว่ามีการนัดหมายทนาย 3 กลุ่ม กลุ่มแรกปั๊มเชลล์ กลุ่ม 2 ที่ราชบุรี กลุ่ม 3 ที่ร้านอาหารสุขุมวิท เหตุที่ไปหาทนายก่อน และไปหาทนายหลายคน เพราะไม่อยากติดคุก ซึ่งคดีนี้ถ้าคนบนเรือไม่ได้ไปหาทนายก่อน คดีน่าจะจบไปแล้ว ซึ่งจริง ๆ คดีประมาททำให้ผู้อื่นตาย ถ้ามีการเยียวยา รับสารภาพ แม้ศาลสั่งจำคุก แต่รอการลงโทษ การไปหาทนายความหลังการเกิดเหตุ ทำให้คนคิดต่อไปได้ว่ามีความน่าสงสัย และทำให้คดียุ่งยากถึงทุกวันนี้

ส่วนกรณีที่ตำรวจเปลี่ยนที่ชันสูตรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มาเป็นสถาบันนิติเวช ร.พ.ตำรวจ ได้สอบถามจากตำรวจแล้วทราบว่า พ.ร.บ.เกี่ยวกับการใช้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์นั้น การผ่าศพครั้งแรก พนักงานสอบสวนต้องร้องขอ ถ้าผ่าซ้ำต้องร้องขออีก ซึ่งค่อนข้างลำบาก ดังนั้นเมื่อเริ่มต้นเป็นคดีอาญา อยู่ในอำนาจตำรวจ จึงให้อยู่ในหน่วยสังกัดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่ต้องทำเรื่องขออนุญาตให้หน่วยงานภายนอกช่วยชันสูตรให้ยุ่งยาก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของตำรวจ

คดีตอนนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมใกล้เสร็จแล้ว อีก 2-3 วันใกล้เสร็จ อย่างช้าสุดก็สิ้นเดือนนี้ โดยพยานหลักฐานมากพอที่จะเอาผิดประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนจะมีมากกว่านั้น หรือมีผู้ต้องหาเพิ่มหรือไม่ ให้รอฟังการแถลงปิดคดีจากตำรวจ ทั้งนี้ ทราบว่าจะมีทนาย ซึ่งเป็นทนายที่มีชื่อเสียง สังคมรู้จักจะมารับเป็นทนายให้คนบนเรือ. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

ครอบครัวสุดเศร้า “สารวัตรจ๊อบ” ฮ.ตก

25 พ.ค.- ครอบครัวสุดเศร้า ทราบข่าว “สารวัตรจ๊อบ” เสียชีวิตจากเหตุ ฮ.ตก เผยเพิ่งติดยศว่าที่ พ.ต.ต. ยังทำใจไม่ได้สูญเสียลูกชายคนเดียว เหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 ตกในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะปฏิบัติภารกิจทางอากาศยาน ร่วมภารกิจในพื้นที่ภาคใต้ โดยก่อนเกิดเหตุนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจาก จ.ชุมพร เพื่อกลับหน่วยบินตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างทางจะแวะเติมน้ำมันที่หน่วยบินฯ แต่เกิดอุบัติเหตุก่อน อุบัติเหตุครั้งนี้ มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทีมข่าวเดินทางไปที่ร้านขายยา พบนางบุญสม ชูเลิศ อายุ 59 ปี มารดาของ ว่าที่ พ.ต.ต.ประเทือง ผู้เสียชีวิต ร้องไห้ออกมาด้วยความเศร้าโศกเสียใจ โดยมีญาติรวมถึงเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งคอยปลอบด้วยความเป็นห่วง […]

งดเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักน้ำขุ่นเชี่ยว

เชียงใหม่ 25 พ.ค.- อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักตลอดคืน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก สำนักทรัพยากรน้ำที่ 1 ออกประกาศเตือนภัยเตรียมพร้อม (ระดับสีเหลือง) ที่บ้านหนองหอย ต.โป่งแยง อำเภอแม่ริม ปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 103. มิลลิเมตร ทำให้ทางนายธงชัย นาราษฎร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย ได้มีคำสั่ง งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังเกิดฝนตกหนักสะสม ทำให้น้ำตกแม่สา มีสีขุ่นแดง กระแสน้ำเชี่ยว ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ เช่นเดียวกับที่อุทยานแห่งชาติออบขาน ประกาศปิดการท่องเที่ยว และพักแรมชั่วคราว สถานการณ์แม่น้ำขาน วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบขาน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางอุทยานจะรีบอัปเดตสถานการณ์ให้ทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนลุ่มน้ำขานเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะตั้งแต่บ้านห้วยโท้ง ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตองลงไป เฝ้าระวัง เนื่องจากระดับน้ำที่ผ่านหน้าอุทยานฯ ลงไป มีมวลน้ำจากอำเภอสะเมิง ไหลลงมาเติมต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

จนท.ลงพื้นที่เก็บชิ้นส่วน ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 25 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จุดเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก บริเวณ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เก็บชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน พร้อมกั้นโดยรอบ ป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้อง บรรยากาศจุดเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก พื้นที่หมู่ 1 บ้านหนองกก ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตั้งแต่เกิดเหตุ พร้อมนำโปลิศไลน์มากั้นโดยรอบพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สารวัตรเวร เจ้าของคดี ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมนำทีมชุดพนักงานสอบสวน นำโดรนบินถ่ายภาพมุมสูง เพื่อตรวจสอบว่าชิ้นส่วนของเครื่องบินที่แตกกระจัดกระจายอยู่บริเวณจุดไหนบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ทยอยเก็บชิ้นส่วนที่ตกกระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน มารวบรวมไว้บริเวณเต็นท์อำนวยการจุดที่ตัวเครื่องบินตก และรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ ส่วนเศษชิ้นส่วนเครื่องบินบางส่วนที่รวบรวมได้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด ต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา หรือต้องรอเจ้าหน้าที่บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินมาตรวจอย่างละเอียดก่อน ในส่วนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเสียหายเป็นรู ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บชิ้นส่วนออกไปแล้ว ส่วนชิ้นส่วนหางขนาดใหญ่ที่ตกเฉียดบ้านของชาวบ้านที่อยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร นางใย ชาวบ้านที่ถูกชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเป็นรู เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะเกิดเหตุเครื่องบินตกตนเองพร้อมด้วยหลานอีก 2 คน ไปนั่งอยู่หลังบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินผ่านหลังคาบ้านมา และได้ยินเสียงปะทุ ดังติดต่อกัน 3 ครั้ง ซึ่งเห็นหางเครื่องบินตกลงมาก่อน ก่อนตัวเครื่องบินจะตกลง นอกจากนี้ได้ยินวัตถุชนิดหนึ่งตกลงบนหลังคาบ้าน จึงเข้ามาดูในบ้านพบว่าหลังคาเป็นรู และมีวัสดุตกลงมาอยู่ที่พื้น […]

นึกว่าสงคราม! โจ๋ยกพวกไล่ถล่มปาระเบิด

สมุทรปราการ 25 พ.ค.- แพรกษาเดือด! วัยรุ่นหลายสิบคนยกพวกปาระเบิดกลางถนน กว่า 10 ลูก ถล่มกันจนชาวบ้านผวาต้องหาที่กำบังหนีตาย กล้องวงจรปิดริมถนน ซอยมังกรขันดี ใกล้ตลาดแสงทอง ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จับภาพกลุ่มวัยรุ่น พากันขี่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ท่อเสียงดัง ขับวนไปมาภายในซอยดังกล่าว ก่อนเปิดฉากปาระเบิดปิงปองไม่ต่ำกว่า 15 ลูก ใส่กันกลางถนน จนเกิดเสียงดังสนั่น ชาวบ้านหลายคนต้องวิ่งหาที่หลบภัย ขณะที่รถบางคัน ไม่กล้าขับผ่านต้องรีบวนรถกลับ หวั่นโดนลูกหลง กลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคน นอกจากจะมีระเบิดปิงปองที่เตรียมมาปาถล่มใส่กันแล้ว ยังมีอาวุธมีดตะขอ ติดมือมาไล่ห้ำหั่นกันอย่างกับสงครามกลางเมือง หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเศษชิ้นส่วนระเบิดปิงปองแตกกระจายเกลื่อนถนน ส่วนวัยรุ่นที่ยกพวกตีกัน แยกย้ายกันไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง ตำรวจกระจายกำลังหาข้อมูล จนทราบว่า มีวัยรุ่นกว่า 20 คน ยกพวกไล่ทำร้ายกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง 2 ราย เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะกำลังซื้อข้าวอยู่ตรงตลาดบ่อทอง ได้ยินเสียงระเบิด 3 […]