แพทย์นิติเวชชี้ผ่าศพรอบ 2 มีโอกาสได้ข้อมูลใหม่

สธ. 15 มี.ค.- แพทย์นิติเวช ชี้การผ่าศพรอบ 2 มีโอกาสได้รับข้อมูลใหม่ แต่จะนำมาใช้ทางคดีขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าพนักงาน ทั้งนี้ ส่วนใหญ่สาเหตุการตายไม่เปลี่ยน แต่มุ่งหาพฤติการณ์แห่งการตาย ว่าเกิดจากการฆ่าตัวตาย หรือถูกคนทำให้ตาย หรือจากอุบัติเหตุ


รศ.นพ.วิสูตร ฟองศิริไพบูลย์ รองเลขาธิการแพทยสภา ในฐานะแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช กล่าวว่า ในการชันสูตรศพเป็นไปตามกระบวนกฎหมาย ป.วิอาญา มาตรา 148-156 ซึ่งต้องทำโดยเจ้าพนักงาน ร่วมกับแพทย์นิติเวช เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากกรณีการตายที่ผิดธรรมชาติ 5 สาเหตุ ได้แก่ การฆ่าตัวตาย, การถูกผู้อื่นทำให้ตาย, การถูกสัตว์ทำให้ตาย, อุบัติเหตุ, การตายโดยไม่ปรากฏเหตุ จากนั้นก็จะมีการแจ้งกับญาติ ในกรณีที่เป็นการตายระหว่างการถูกควบคุมตัว หรือการกระทำจากเจ้าหน้าที่ ต้องมีทั้งเจ้าพนักงาน แพทย์ อัยการ พนักงานฝ่ายปกครอง ร่วมชันสูตร ซึ่งในกระบวนการชันสูตรศพ ตามกฎหมายกำหนดระยะเวลาในการตรวจสอบสามารถทำได้ถึง 67 วัน แต่ส่วนใหญ่ใช้เวลาประมาณ 30 วันเท่าก็แล้วเสร็จสิ้น โดยการเก็บข้อมูลหลักฐานเป็นดุลยพินิจนิติเวช ว่าข้อมูลที่ได้รับสามารถตอบสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตายได้หรือไม่ หากไม่มีอะไรติดใจ ก็สามารถออกเอกสาร และส่งศพคืนญาติ

รศ.นพ.วิสูตร กล่าวว่า แต่หากญาติมีข้อสงสัย สามารถร้องขอผ่าศพรอบ 2 ได้ แต่ต้องได้รับคำยินยอมจากแพทย์ที่ทำการชันสูตร โดยเงื่อนไขต้องทำในสถาบันของรัฐ หลักฐานในการผ่าศพที่เกิดขึ้นภายหลังรอบที่ 1 หรือ 2 หรือ 3 จะสามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานใหม่ได้หรือไม่ ต้องขึ้นอยู่กับคำยินยอมของเจ้าหน้าที่พนักงาน ว่าจะใช้หลักฐานที่พบใหม่นี้ไปประกอบหรือไม่ การผ่าศพเพื่อหาหลักฐานหรือข้อมูลใหม่ๆ เกิดขึ้นได้ โดยไม่ได้มีการกำหนดว่า หลักฐานแค่ไหนถึงเป็นการสิ้นสุด เพราะเป็นของดุลยพินิจ โดยแพทย์นิติเวชจะหาหลักฐานข้อมูลตามภววิสัยและพยานหลักฐานที่ได้รับเท่าที่มี ไม่ว่าสภาพศพจะเน่า หรือจะสดใหม่ นิติเวชก็จะต้องทำหน้าที่ในการหลักฐานเท่าที่ได้รับ ซึ่งการผ่าพิสูจน์รอบใหม่ ในอดีตก็มีที่ได้หลักฐานเพิ่มเติม เพราะเป็นการผ่าแบบแยกธาตุ ที่ทีความละเอียดมากขึ้น โดยอาจนำข้อมูลเดิมมาใช้ประกอบ


รศ.นพ.วิสูตร กล่าวว่า ส่วนใหญ่ของการผ่าพิสูจน์ศพในครั้งถัดไป ไม่ได้มุ่งสาเหตุการตาย แต่มุ่งหาพฤติการณ์แห่งการตาย ทั้งการฆ่าตัวตาย หรือถูกคน ทหำให้ตาย หรือจากอุบัติเหตุ เนื่องจากสาเหตุการตายมักมีความชัดเจนตั้งแต่เบื้องต้น เช่น การจมน้ำเสียชีวิต ชันสูตร พบโคลนหลอดลม หรือพบไม้น้ำ ซากพืชในลำคอ หรือปอด แสดงว่ามีการสูดเข้าไปขณะมีชีวิต พร้อมกล่าวว่า จากคดีดังที่ปราฏ แม้มีการชี้นำประเด็นโดยนักสืบโซเชียลหรือผู้หวังดี แต่ก็ไม่มีผลกับการข้อเท็จจริงจากหลักฐานการตายแน่นอน เพียงแต่ช่วยแค่ให้ฉุกคิด และละเอียดมากขึ้นเท่านั้น ไม่ได้มีผลชี้นำ

ทั้งนี้ในอดีต กรณีคดีดัง “ห้างทอง” มีการผ่าศพพิสูจน์มากถึง 3 ครั้ง และในแต่ละครั้งก็ห่างกันหลายปี บางช่วงห่างถึง 5 ปี โดยศพก็ถูกแช่แข็งไว้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นศ.ซิ่งเก๋งชนเสาไฟล้ม 12 ต้น ทับรถ 3 คัน โค้งถนนกาญจนาภิเษก

นักศึกษาซิ่งเก๋งชนเสาไฟฟ้าล้ม 12 ต้น ทับรถที่วิ่งผ่านไปมาเสียหาย 3 คัน บริเวณโค้งถนนกาญจนาภิเษก ตัดเพชรเกษม ประชาชน 150 ครัวเรือนเดือดร้อนไฟดับ การไฟฟ้านครหลวงเร่งซ่อมแซม คาดเย็นนี้กลับมาใช้การได้ตามปกติ

นายหน้าลอยแพ 250 แรงงานไทย ไร้ตั๋วบินทำงานต่างประเทศ

ฝันสลาย แรงงานไทย 250 ชีวิต เหมารถมาสนามบินเก้อ หวังได้ไปทำงานในต่างประเทศ สุดท้ายไม่มีตั๋วบิน รวมตัวแจ้งความตำรวจ หวั่นถูกหลอกสูญเงินกว่า 12 ล้านบาท

สั่งปิดกิจการโรงงานลอบขนขยะอิเล็กทรอนิกส์

“เอกนัฏ” ลุยจับโรงงานลักลอบขนย้ายขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกยึดอายัดจากปราจีนบุรี มามหาชัย จ.สมุทรสาคร พบเป็นเครือข่ายเดียวกับ 2 โรงงานที่ถูกสั่งปิดก่อนหน้านี้ ขยายผลตามจับจนเจอขยะอิเล็กทรอนิกส์ลอตใหม่อีกกว่า 1,200 ตัน สั่งปิดกิจการทันที

ข่าวแนะนำ

ประธาน Google Cloud ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก พบนายกฯ

ประธาน Google Cloud ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เข้าพบนายกรัฐมนตรี ยืนยันความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และการป้องกันภัยจาก online scams

“เม้งการยาง” ยันไม่ทราบขวดที่ให้ “แบงค์ เลสเตอร์” กิน เป็นเจลหล่อลื่น

“เม้งการยาง” พบตำรวจไซเบอร์ เผยไม่ทราบว่าขวดที่ให้ “แบงค์ เลสเตอร์” กิน เป็นเจลหล่อลื่น หลังถ่ายรายการยังให้เงินน้องไป 2,000 บาท ด้าน “เมลาย รัชดา” เผยจะเลิกคอนเทนต์ขยะ และเลิกจัดทริปน้ำไม่อาบ

ดิจิทัลวอลเล็ตเฟส3

“ประเสริฐ” มั่นใจดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เสร็จทัน มี.ค.นี้ ได้บริษัททำแอปแล้ว

“ประเสริฐ” รมว.ดีอี มั่นใจดิจิทัลวอลเล็ต เฟส 3 เสร็จทัน มี.ค.นี้ หลัง “ทักษิณ” ประกาศซ้ำ เผยล่าสุดได้บริษัทจัดทำแอปพลิเคชันแล้ว ทดลองระบบ 1 เดือน แย้ม มี.ค. รอบสุดท้าย

น้ำค้างแข็งดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์อุณหภูมิลดฮวบ เหลือ 0 องศาฯ

เหนือเย็นยะเยือกต่อเนื่อง ดอยอินทนนท์อุณหภูมิลดฮวบ เหลือ 0 องศาเซลเซียส อุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ เกิดน้ำค้างแข็งเป็นครั้งที่ 4 ของปี 2568 และเป็นครั้งที่ 12 ของหน้าหนาว