“หมอพรทิพย์” เผยชันสูตร “แตงโม” รอบ 2 ไม่พบคราบปัสสาวะในแผ่นอนามัย

กรุงเทพฯ 18 มี.ค. – “หมอพรทิพย์” เผยอีกหนึ่งข้อมูลน่าสนใจ ผลผ่าชันสูตรศพ “แตงโม” รอบ 2 ไม่พบคราบปัสสาวะในแผ่นอนามัย ด้านนักเคมีแนะตรวจคราบปัสสาวะเพิ่ม เพื่อพิสูจน์กรณีปัสสาวะท้ายเรือ


ผลผ่าชันสูตรศพรอบ 2 ของ “แตงโม ภัทรธิดา” หลายประเด็นแถลงไปแล้วเมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) แต่มีอีกประเด็นที่สังคมยังสงสัย คือ “แตงโม” นั่งปัสสาวะท้ายเรืออย่างที่คนบนเรือให้การหรือไม่ นอกจากผลตรวจกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งบอกได้ไม่ชัดเจน เพราะไม่เต็มและเน่า เนื่องจากแช่น้ำนาน ยังมีอีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ผลการตรวจหายูเรียในแผ่นอนามัยที่ “แตงโม” ใส่ในวันเกิดเหตุ ซึ่ง “หมอพรทิพย์” บอกว่า ผลตรวจไม่พบยูเรีย หรือคราบปัสสาวะ

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะอดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยผลการชันสูตรศพ “แตงโม ภัทรธิดา” รอบ 2 ในประเด็นที่สังคมสงสัยว่า “แตงโม” ไปปัสสาวะท้ายเรือตามที่คนบนเรือให้การหรือไม่ ซึ่งเมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) ไม่ได้แถลง เนื่องจากมีหลายประเด็นมาก จึงไม่ได้พูดในวงแถลง ซึ่งแพทย์นิติเวชได้ทำการทดสอบที่แผ่นอนามัยที่ “แตงโม” ใส่ในวันเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบว่ามีคราบปัสสาวะหรือยูเรียหรือไม่ ผลปรากฏว่า ไม่พบคราบปัสสาวะหรือยูเรียติดอยู่ ตนเองจึงชมว่า การชันสูตรครั้งนี้ตอบโจทย์ได้หมดทุกข้อสงสัย รวมทั้งรอยบาดแผลที่ขา มีการเอกซเรย์ซ้ำ พบว่าแผลไม่ได้ลึกถึงกระดูก ซึ่งเป็นแผลที่เกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต และไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ แต่แผลจะเกิดก่อนตกน้ำ หรือเกิดแผลระหว่างอยู่ในน้ำ ตรงนี้สำคัญ พนักงานสอบสวนควรมาคุยกับแพทย์ทั้ง 2 หน่วย คือ หน่วยผ่าศพทั้งรอบแรก รอบ 2 และแพทย์ที่ไปตรวจจุดเกิดเหตุ เพื่อจะได้ตอบข้อสงสัยและสรุปประเด็นให้ได้ว่า บาดแผลเกิดจากอะไร


ด้าน “อาจารย์อ๊อด” รองศาสตราจารย์ วีรชัย พุทธวงศ์ ภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า คราบปัสสาวะสามารถตรวจพบได้ ด้วยวิธีนำตัวอย่างที่สงสัยว่าจะมีคราบปัสสาวะติดอยู่ เช่น ชุดชั้นใน หรือแผ่นอนามัย ไปสกัดหาโปรตีน หรือยูเรีย หรือดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังสามารถตรวจหาคราบปัสสาวะได้จากพื้นที่บนเรือ หรืออีกจุดหนึ่งที่จะตรวจได้ คือ ภายในตัวผู้เสียชีวิต ซึ่งผลการตรวจพบว่ากระเพาะปัสสาวะเริ่มเน่า ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน การเก็บตัวอย่างกรณีนี้ ถือว่ายากลำบาก เพราะเป็นการจมน้ำ ทำให้แผ่นอนามัย กางเกงใน หรือบอดี้สูท โดนกระแสน้ำพัดพาสารเคมีหลุดไปได้ แต่อาจจะไม่หลุดไปทั้งหมด ซึ่งนักนิติวิทยาศาสตร์อาจต้องสกัดตัวอย่าง เช่น บอดี้สูทที่อยู่ใกล้อวัยวะเพศ มาตรวจสอบคราบปัสสาวะอย่างละเอียด หากพยายามจนถึงที่สุดยังไม่สามารถตรวจพบคราบปัสสาวะได้ ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับข้อเท็จจริงจากปากของพยานในเรือที่เห็น “แตงโม” เป็นคนสุดท้าย คือ “แซน” ว่า “แตงโม” ปัสสาวะท้ายเรือจริง

“อาจารย์อ๊อด” ยังยกตัวอย่างคดี “ผู้พันตึ๋ง” ที่ใช้เทคนิคตรวจพบคราบเลือดบนพรม จนนำไปสู่การค้นหาคราบเลือดในท่อระบายน้ำ กลายเป็นคดีฆาตกรรมอำพรางจริง และสิ่งที่ควรติดตามก่อนการหาคราบปัสสาวะ ก็คือ คราบเลือดที่อาจอยู่บนเรือ เพื่อตอบสมมติฐานที่ว่า บาดแผลเกิดก่อนการจมน้ำเสียชีวิตหรือไม่ และหากไม่มีคราบเลือดบนเรือเลย มูลเหตุจูงใจในเรื่องฆาตกรรมแฝงก็จะหายไป ประเด็นต่อมา หากพยานบอกว่า “แตงโม” ไปปัสสาวะ ก็ต้องตรวจหาหลักฐานอื่น เช่น ลายนิ้วมือ “แตงโม” ที่จับท้ายเรือ ว่ามีจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่เจอก็ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า “แตงโม” ปัสสาวะจริง

ท้ายที่สุด “อาจารย์อ๊อด” เชื่อว่า เครื่องจับเท็จจะช่วยได้ เพราะถ้าโกหก หัวใจจะเต้นเร็ว ความดันจะขึ้น และบอกว่า ถ้าตนเป็นหัวหน้าคณะสอบสวน จะนำ “แซน” เข้าเครื่องจับเท็จ และซักกรณีว่า “แตงโม” ปัสสาวะท้ายเรือจริงหรือไม่ ถ้าโกหกเครื่องจับเท็จจะบอกทันที และยกตัวอย่างคดี “หม่อมลูกปลา” ว่า เครื่องจับเท็จก็ถูกนำมาใช้ได้ผลเช่นเดียวกัน พร้อมตั้งข้อสังเกตคดีนี้ ถ้าเป็นปกติ หลังเพื่อนตกน้ำ ทุกคนต้องอยู่รอจนเหตุการณ์ยุติที่สถานีตำรวจ ไม่ใช่ไปเตรียมการนัดแนะกันเช่นนั้น มีการนำเรือไปเก็บทำลายหลักฐาน จึงน่าจะมีการโกหกกันอยู่ สิ่งสุดท้ายที่จะยืนยันได้ คือ เครื่องจับเท็จเท่านั้น พร้อมบอกว่า ไม่รู้ว่าคราบปัสสาวะที่บริเวณช่องคลอด นิติเวชจะส่งตรวจหรือไม่ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เนื้อเยื่อในท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ น่าจะตรวจได้ว่ายังมีคราบของโปรตีน หรือไข่ขาว อธิบายได้ว่าผ่านการปัสสาวะมาจริง แต่ไม่รู้ปัสสาวะช่วงไหน คดีนี้มีพิรุธมหาศาล เครื่องจับเท็จจะช่วยได้ ซึ่งถ้าสาวไปไม่ถึงประเด็นฆาตกรรม ก็อาจจะเหลือเพียงประเด็นเดียว คือ อุบัติเหตุ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

แอร์อินเดียบินกลับเดลีแล้ว หลังตรวจไม่เจอระเบิด

ภูเก็ต 13 มิ.ย. – เครื่องบินแอร์อินเดีย พร้อมผู้โดยสาร 155 คน ออกจากสนามบินภูเก็ต กลับเมืองเดลีแล้ว หลังตรวจละเอียดยิบ ไม่พบระเบิดตามจดหมายขู่ สอบเครียด 3 ผู้ต้องสงสัยชาวอินเดีย แต่ต้องปล่อยไป เพราะไร้หลักฐานมัด ยันไม่กระทบการให้บริการท่าอากาศยานฯ เมื่อเวลา 09.30 น. หอบังคับการบินสนามบินภูเก็ต ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์ควบคุมการบิน บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด ว่าลูกเรือสายการบิน AIR INDIA เที่ยวบินที่ AI 379 เส้นทางบิน HKT-ภูเก็ต-DEL (เดลี) ผู้โดยสารจำนวน 156 คน พบข้อความขู่วางระเบิดในแผ่นกระดาษระบุว่า ‘F… you all bomb’ วางไว้ในห้องน้ำ จากนั้นสายการบินได้ประกาศเข้าสู่แผนฉุกเฉิน ให้นักบินนำเครื่องบินมาลงที่สนามบินภูเก็ต โดยทางสนามบินภูเก็ต ได้ประกาศใช้แผนเผชิญเหตุของสนามบิน Airport Contingency Plan และดำเนินการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ EOC เพื่อควบคุมและบริหารจัดการสถานการณ์ตามแผนฯ […]

คดี “ทักษิณ” ชั้น 14 ศาลเรียกพยาน 20 ปาก-นัดไต่สวนอีก 6 นัด ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. – คดี “ทักษิณ” วันนี้ ศาลเตรียมเรียกพยาน 20 ปาก พร้อมนัดไต่สวนอีก 6 นัด ช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ถือเป็นการเริ่มกระบวนการไต่สวนเรื่องการบังคับคดีของอดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

ผู้ว่าฯ สระแก้ว ยืนยันไม่มีการปิดด่านบ้านคลองลึก

สระแก้ว 13 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่สยบข่าวลือปิดด่านคลองลึก หลังชาวไทย-กัมพูชา ตื่นตระหนกแห่ข้ามฝั่ง จนเกิดความวุ่นวายหน้าด่าน ขณะฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่าบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เกิดความวุ่นวายขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 12.30 น. หลังจากมีกระแสข่าวลือในกลุ่มผู้ค้าชาวกัมพูชาและชาวไทย ว่าทางการจะมีคำสั่งปิดด่านชั่วคราวในช่วงบ่าย ระหว่างเวลา 13.00-14.00 น. ทำให้ประชาชนทั้ง 2 ฝั่งเร่งรีบข้ามแดนและสอบถามข้อมูลกันอย่างจ้าละหวั่น โดยข่าวลือดังกล่าวแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว พ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากเดินทางข้ามแดนก่อนถึงช่วงเวลาที่เข้าใจกันว่าจะปิดด่าน ทำให้บรรยากาศหน้าด่านเต็มไปด้วยความตึงเครียดและสับสน ด้านผู้ว่าฯ สระแก้ว ลงพื้นที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าว ยืนยันไม่มีคำสั่งปิดด่าน พร้อมขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก และย้ำชัดว่าเวลาการเปิด-ปิดด่านยังคงเป็นไปตามประกาศเดิมของกองกำลังบูรพา คือเปิด 08.00-16.00 น. ทุกวัน โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือคำสั่งใหม่ ฝั่งปอยเปตเริ่มตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตจากไทยแหล่งข่าวด้านความมั่นคงกัมพูชา เปิดเผยว่า ฝ่ายปกครองในฝั่งปอยเปตได้ดำเนินการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต ที่เชื่อมโยงกับฝั่งไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมข้อมูลและสื่อสารในพื้นที่ชายแดน ฝั่งกัมพูชาปิดด่านบ้านแหลมไม่แจ้งล่วงหน้าส่วนบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 10.45 น. เกิดความวุ่นวาย หลังฝั่งกัมพูชา มีการปิดประตูด่านฝั่ง ต.บึงรัง […]

ผู้รอดชีวิตจากแอร์อินเดียเผยหนีออกทางประตูฉุกเฉินที่เสียหาย

นิวเดลี 13 มิ.ย. – ผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวจากเหตุเครื่องบินแอร์อินเดียตก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 240 คน กล่าวว่า เขาเดินออกมาจากประตูฉุกเฉินที่พังเสียหาย หลังจากเครื่องบินชนเข้ากับหอพักวิทยาลัยแพทย์ในเมืองอาห์เมดาบัด นายราเมศ วิศวาศกุมาร ซึ่งตำรวจระบุว่า เขานั่งอยู่ที่นั่ง 11เอ (11A) ใกล้ประตูฉุกเฉิน และสามารถหนีรอดมาได้ทางช่องทางประตูฉุกเฉินที่ชำรุดเสียหาย เขาถูกบันทึกภาพไว้หลังเหตุเครื่องบินตกเมื่อวันพฤหัสบดี ขณะกำลังเดินกะเผลกๆ อยู่บนถนนในสภาพเสื้อยืดเปื้อนเลือดและมีรอยฟกช้ำบนใบหน้า คลิปภาพชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียผู้นี้ที่เผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์ ถูกนำไปออกอากาศในสถานีข่าวเกือบทั้งหมดของอินเดีย หลังจากเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ลำดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุตกหลังออกเดินทางจากสนามบินได้ไม่นาน นายวิศวาศกุมาร ให้สัมภาษณ์ขณะนอนพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลว่า เขาไม่อยากจะเชื่อว่ารอดชีวิตมาได้อย่างไร และคิดว่าต้องตายแน่ ๆ แต่พอเขาลืมตา เขาก็รู้สึกตัวว่ายังไม่ตาย และพยายามปลดเข็มขัดนิรภัย เพื่อออกจากที่นั่ง และพยายามหนีออกมาจากตัวเครื่องบิน นายวิศวาศกุมาร เล่าว่า เครื่องบินดูเหมือนจะหยุดนิ่งกลางอากาศเป็นเวลา 2-3 วินาที หลังจากที่ขึ้นบินไปในอากาศ และไฟในห้องโดยสารที่เป็นสีเขียวและสีขาวก็สว่างขึ้น เขารู้สึกได้ว่าแรงขับเคลื่อนของเครื่องยนต์เพิ่มขึ้น แต่แล้วเครื่องบินก็ชนเข้ากับหอพักด้วยความเร็ว แพทย์ระบุว่า นายวิศวาศกุมารไม่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงใด ๆ ในขณะที่เขากล่าวว่า เขาเดินออกจากจุดเครื่องบินตก โดยบาดเจ็บจากบาดแผลไฟไหม้ที่แขนซ้ายเท่านั้น นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี […]