“หมอพรทิพย์” เผยชันสูตร “แตงโม” รอบ 2 ไม่พบคราบปัสสาวะในแผ่นอนามัย

กรุงเทพฯ 18 มี.ค. – “หมอพรทิพย์” เผยอีกหนึ่งข้อมูลน่าสนใจ ผลผ่าชันสูตรศพ “แตงโม” รอบ 2 ไม่พบคราบปัสสาวะในแผ่นอนามัย ด้านนักเคมีแนะตรวจคราบปัสสาวะเพิ่ม เพื่อพิสูจน์กรณีปัสสาวะท้ายเรือ


ผลผ่าชันสูตรศพรอบ 2 ของ “แตงโม ภัทรธิดา” หลายประเด็นแถลงไปแล้วเมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) แต่มีอีกประเด็นที่สังคมยังสงสัย คือ “แตงโม” นั่งปัสสาวะท้ายเรืออย่างที่คนบนเรือให้การหรือไม่ นอกจากผลตรวจกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งบอกได้ไม่ชัดเจน เพราะไม่เต็มและเน่า เนื่องจากแช่น้ำนาน ยังมีอีกหนึ่งข้อมูลที่น่าสนใจ คือ ผลการตรวจหายูเรียในแผ่นอนามัยที่ “แตงโม” ใส่ในวันเกิดเหตุ ซึ่ง “หมอพรทิพย์” บอกว่า ผลตรวจไม่พบยูเรีย หรือคราบปัสสาวะ

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะอดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เปิดเผยผลการชันสูตรศพ “แตงโม ภัทรธิดา” รอบ 2 ในประเด็นที่สังคมสงสัยว่า “แตงโม” ไปปัสสาวะท้ายเรือตามที่คนบนเรือให้การหรือไม่ ซึ่งเมื่อวานนี้ (17 มี.ค.) ไม่ได้แถลง เนื่องจากมีหลายประเด็นมาก จึงไม่ได้พูดในวงแถลง ซึ่งแพทย์นิติเวชได้ทำการทดสอบที่แผ่นอนามัยที่ “แตงโม” ใส่ในวันเกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบว่ามีคราบปัสสาวะหรือยูเรียหรือไม่ ผลปรากฏว่า ไม่พบคราบปัสสาวะหรือยูเรียติดอยู่ ตนเองจึงชมว่า การชันสูตรครั้งนี้ตอบโจทย์ได้หมดทุกข้อสงสัย รวมทั้งรอยบาดแผลที่ขา มีการเอกซเรย์ซ้ำ พบว่าแผลไม่ได้ลึกถึงกระดูก ซึ่งเป็นแผลที่เกิดขึ้นก่อนเสียชีวิต และไม่ได้เกิดจากใบพัดเรือ แต่แผลจะเกิดก่อนตกน้ำ หรือเกิดแผลระหว่างอยู่ในน้ำ ตรงนี้สำคัญ พนักงานสอบสวนควรมาคุยกับแพทย์ทั้ง 2 หน่วย คือ หน่วยผ่าศพทั้งรอบแรก รอบ 2 และแพทย์ที่ไปตรวจจุดเกิดเหตุ เพื่อจะได้ตอบข้อสงสัยและสรุปประเด็นให้ได้ว่า บาดแผลเกิดจากอะไร


ด้าน “อาจารย์อ๊อด” รองศาสตราจารย์ วีรชัย พุทธวงศ์ ภาควิชาเคมี ม.เกษตรศาสตร์ ให้ข้อมูลว่า คราบปัสสาวะสามารถตรวจพบได้ ด้วยวิธีนำตัวอย่างที่สงสัยว่าจะมีคราบปัสสาวะติดอยู่ เช่น ชุดชั้นใน หรือแผ่นอนามัย ไปสกัดหาโปรตีน หรือยูเรีย หรือดีเอ็นเอของผู้เสียชีวิต นอกจากนี้ยังสามารถตรวจหาคราบปัสสาวะได้จากพื้นที่บนเรือ หรืออีกจุดหนึ่งที่จะตรวจได้ คือ ภายในตัวผู้เสียชีวิต ซึ่งผลการตรวจพบว่ากระเพาะปัสสาวะเริ่มเน่า ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน การเก็บตัวอย่างกรณีนี้ ถือว่ายากลำบาก เพราะเป็นการจมน้ำ ทำให้แผ่นอนามัย กางเกงใน หรือบอดี้สูท โดนกระแสน้ำพัดพาสารเคมีหลุดไปได้ แต่อาจจะไม่หลุดไปทั้งหมด ซึ่งนักนิติวิทยาศาสตร์อาจต้องสกัดตัวอย่าง เช่น บอดี้สูทที่อยู่ใกล้อวัยวะเพศ มาตรวจสอบคราบปัสสาวะอย่างละเอียด หากพยายามจนถึงที่สุดยังไม่สามารถตรวจพบคราบปัสสาวะได้ ก็ต้องยกประโยชน์ให้กับข้อเท็จจริงจากปากของพยานในเรือที่เห็น “แตงโม” เป็นคนสุดท้าย คือ “แซน” ว่า “แตงโม” ปัสสาวะท้ายเรือจริง

“อาจารย์อ๊อด” ยังยกตัวอย่างคดี “ผู้พันตึ๋ง” ที่ใช้เทคนิคตรวจพบคราบเลือดบนพรม จนนำไปสู่การค้นหาคราบเลือดในท่อระบายน้ำ กลายเป็นคดีฆาตกรรมอำพรางจริง และสิ่งที่ควรติดตามก่อนการหาคราบปัสสาวะ ก็คือ คราบเลือดที่อาจอยู่บนเรือ เพื่อตอบสมมติฐานที่ว่า บาดแผลเกิดก่อนการจมน้ำเสียชีวิตหรือไม่ และหากไม่มีคราบเลือดบนเรือเลย มูลเหตุจูงใจในเรื่องฆาตกรรมแฝงก็จะหายไป ประเด็นต่อมา หากพยานบอกว่า “แตงโม” ไปปัสสาวะ ก็ต้องตรวจหาหลักฐานอื่น เช่น ลายนิ้วมือ “แตงโม” ที่จับท้ายเรือ ว่ามีจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าไม่เจอก็ไม่มีหลักฐานยืนยันว่า “แตงโม” ปัสสาวะจริง

ท้ายที่สุด “อาจารย์อ๊อด” เชื่อว่า เครื่องจับเท็จจะช่วยได้ เพราะถ้าโกหก หัวใจจะเต้นเร็ว ความดันจะขึ้น และบอกว่า ถ้าตนเป็นหัวหน้าคณะสอบสวน จะนำ “แซน” เข้าเครื่องจับเท็จ และซักกรณีว่า “แตงโม” ปัสสาวะท้ายเรือจริงหรือไม่ ถ้าโกหกเครื่องจับเท็จจะบอกทันที และยกตัวอย่างคดี “หม่อมลูกปลา” ว่า เครื่องจับเท็จก็ถูกนำมาใช้ได้ผลเช่นเดียวกัน พร้อมตั้งข้อสังเกตคดีนี้ ถ้าเป็นปกติ หลังเพื่อนตกน้ำ ทุกคนต้องอยู่รอจนเหตุการณ์ยุติที่สถานีตำรวจ ไม่ใช่ไปเตรียมการนัดแนะกันเช่นนั้น มีการนำเรือไปเก็บทำลายหลักฐาน จึงน่าจะมีการโกหกกันอยู่ สิ่งสุดท้ายที่จะยืนยันได้ คือ เครื่องจับเท็จเท่านั้น พร้อมบอกว่า ไม่รู้ว่าคราบปัสสาวะที่บริเวณช่องคลอด นิติเวชจะส่งตรวจหรือไม่ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เนื้อเยื่อในท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ น่าจะตรวจได้ว่ายังมีคราบของโปรตีน หรือไข่ขาว อธิบายได้ว่าผ่านการปัสสาวะมาจริง แต่ไม่รู้ปัสสาวะช่วงไหน คดีนี้มีพิรุธมหาศาล เครื่องจับเท็จจะช่วยได้ ซึ่งถ้าสาวไปไม่ถึงประเด็นฆาตกรรม ก็อาจจะเหลือเพียงประเด็นเดียว คือ อุบัติเหตุ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกแล้ว หลัง “บิ๊กเต่า” เข้าเจรจา

26 ส.ค. – “หลวงพ่ออลงกต” ยอมสึกเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมาย หลัง “บิ๊กเต่า” ร่วมสอบปากคำคดียักยอกเงินบริจาควัดพระบาทน้ำพุ ภายหลัง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เข้าร่วมสอบปากคำ พระอลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ และ หมอบี ล่าสุด มีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต ยินยอมจะขอลาสิกขาจากเพศบรรพชิตแล้ว เพื่อนำเข้าสู่ขั้นตอนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยอดีตพระอลงกต ถูกจับกุมเมื่อช่วงตี 1 ที่ผ่านมา ตามหมายจับศาลคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ในข้อหายักยอกเงินบริจาคของวัดพระบาทน้ำพุ เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และฟอกเงิน.-สำนักข่าวไทย

ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ด้าน “แพทองธาร” หวังกลับมาทำงาน

ทำเนียบ 26 ส.ค.- ครม.ให้กำลังใจนายกฯ ขอ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี ด้าน “แพทองธาร” หวังได้กลับมาทำงาน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้ (26 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เป็นครั้งแรก ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ได้เข้าร่วมประชุมตั้งแต่ต้นจนจบ ด้วยสีหน้าสดใส โดยระหว่างการพิจารณาวาระสำคัญ เช่น การพิจารณารายชื่อนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่น 69 ประจำปีการศึกษา 2569 ซึ่งนายกรัฐมนตรี ในฐานะที่เคยเรียนหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร สำหรับผู้บริหารแห่งอนาคต (วปอ.บอ.) หรือ มินิ วปอ. ได้สอบถามและให้ความคิดเห็นในรายชื่อของนักศึกษาบางคน ทั้งนี้ ก่อนปิดการประชุม ครม. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ประชุมฯ ได้เป็นตัวแทนรัฐมนตรีทุกคนกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี และขอให้วันที่ 29 ส.ค.นี้ ได้รับข่าวดี นอกจากนี้ ข้าราชการที่เข้าร่วมประชุม […]

“ณัฐพล” สั่งแจ้งเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อลวดหนาม

ทำเนียบ 26 ส.ค.- “ณัฐพล” ฮึ่ม สั่งกองทัพ-ปชช.แจ้งความเอาผิดกัมพูชา ทำร้ายร่างกาย-รื้อรั้วลวดหนามที่บ้านหนองจาน ด้าน กต. ทำหนังสือประท้วง ย้ำ เป็นอธิปไตยของไทย เตรียมนำปัญหาทั้งหมดคุยวง GBC ก.ย.นี้ ย้ำหน่วยพื้นที่ยิงตอบโต้ได้ทันที ตามกฎการใช้กำลัง พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ของไทย บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูงจังหวัดสระแก้ว ว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จะมาพบกับประชาชนที่บริเวณพื้นที่บ้านหนองจาน ทำให้เจ้าหน้าที่นำรั้วลวดหนามมาวางเพิ่มเติม เพราะกังวลว่าชาวกัมพูชาจะมารบกวน จึงทำให้ชาวกัมพูชาตั้งใจจะมารื้อในส่วนที่เป็นรั้วเพิ่มเติม ไม่ใช่ส่วนที่วางไว้ตั้งแต่เดิม จึงได้ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ไปว่า เป็นการปักในพื้นที่ประเทศไทย จะมาทำอย่างนี้ไม่ได้เพราะผิดกฎหมาย และจะต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายอาญา ซึ่งกองทัพภาคที่หนึ่งหรือกองกำลังบูรพาก็สามารถดำเนินการ แจ้งความข้อหาทำลายทรัพย์สินของทางราชการได้ ซึ่งตนเองได้ย้ำว่าจะต้องไม่มีภาพแบบเมื่อวานเกิดขึ้นอีก เพราะเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ พลเอกณัฐพล ยอมรับว่าการนำชาวบ้านมากดดันทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากมากขึ้น จึงมอบหมายให้ทำหนังสือประท้วงผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพราะเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ที่ไม่สามารถมาทำเช่นนี้ได้ ส่วนการปฏิบัติการ จะใช้มาตรการเดียวกับการปราบปรามการชุมนุมหรือไม่ พลเอกณัฐพล กล่าวว่า การปฏิบัติการจะเป็นไปตามขั้นตอน ซึ่งขั้นแรกได้ใช้ เครื่องแอลแรท (LRAD) ไปแล้ว เราต้องเตรียมกำลังเพิ่มเติม โดยจะพิจารณาใช้กำลังตำรวจ เพราะหากใช้กำลังทหารจะรุนแรงเกินไป […]

คุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง

สระแก้ว 26 ส.ค.- ฝ่ายความมั่นคงคุมเข้มชายแดนบ้านหนองจาน-เตือนเลี่ยงพื้นที่เสี่ยง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานประกาศปิด 2 วัน (26-27 ส.ค.) เพื่อความปลอดภัย สถานการณ์บริเวณบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนกัมพูชา และเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดเมื่อวานนี้ ล่าสุดสถานการณ์เริ่มคลี่คลายลง ขณะที่โรงเรียนบ้านหนองจานได้ประกาศปิดเรียน 2 วัน ในวันที่ 26-27 สิงหาคมนี้ เพื่อความปลอดภัย ด้านฝ่ายความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ดำเนินมาตรการรักษาความสงบเรียบร้อยและปฏิบัติการตามขั้นตอน เพื่อยืนยันการรักษาอธิปไตยของไทย และความปลอดภัยของประชาชน ขอความร่วมมือประชาชนงดเว้นการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุในช่วงนี้ เพื่อป้องกันความเสี่ยง ขณะที่ทางฝั่งกัมพูชายังคงมีชาวบ้านนอนเฝ้าอยู่บริเวณรั้วตลอดทั้งคืน แต่ยังไม่มีการก่อความวุ่นวายใดๆ