กรุงเทพฯ 9 มี.ค. – ศาลฎีกา พิพากษา คดีตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลกสาขา 2 จำคุกจำเลย แต่ให้รอการลงอาญา 1 ปี พร้อมสั่งปรับให้หลาบจำ คนละ 80,000 บาท
ศาลนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา คดีก่อตั้งมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก สาขา 2 World Peace University (WPU ) ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายศุภณัฐ ดอนจันทร์ อายุ 59 ปี อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยสันติภาพโลก สาขา 2 , นายเรวัตร์ ชาตรีวิศิษฏ์ อายุ 70 ปี อดีตนายกสภามหาวิทยาลัยฯ และ นายเอนก หิรัญรักษ์ อายุ 83 ปี อดีตนายกสภากิตติมศักดิ์ประเภทสภาวิชาการ เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษาเอกชนโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันทำให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่ามีหน้าที่ในการจัดการศึกษาระดับปริญญา อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ.2546 มาตรา 9, 10, 104, 121
กรณีเมื่อวันที่ 23 ก.พ.- 21 ก.ค.56 จำเลยทั้งสาม ได้ร่วมกันจัดตั้ง มหาวิทยาลัยสันติภาพโลก 2 ในโครงการวิสุทธานี ซ.ลาดพร้าว 101/3 ถ.ลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กทม. โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจาก รมว.ศึกษาธิการ และร่วมกันจัดการศึกษาระดับปริญญาโดยไม่ได้รับอนุญาต มีการกำหนดหลักสูตรการเรียนการสอน การมอบปริญญาชั้นต่างๆ และตำแหน่งทางวิชาการ ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจว่ามหาวิทยาลัยสันติภาพโลก สาขา 2 มีการจัดตั้งขึ้นโดยถูกต้องทั้งที่ความจริงแล้ว จำเลยทั้งสามไม่ได้รับอนุญาตให้จัดการศึกษาระดับปริญญาตามกฎหมาย
คดีนี้จำเลยทั้งสาม ให้การปฏิเสธ ต่อสู้คดี โดยศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสาม มีความผิด ให้จำคุกจำเลยทั้งสามคนละ 8 เดือน และปรับจำเลยที่ 3 เป็นเงิน 80,000 บาท โดยในส่วนของจำเลยที่ 3 พิเคราะห์แล้วเห็นว่าไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อน ประกอบกับจำเลยที 3 มีอายุมาก และเคยประกอบคุณงามความดีอันเป็นประโยชน์แก่สังคม เห็นสมควรให้รอการลงโทษไว้เป็นเวลา 1 ปี
จากนั้นจำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำเลยที่ 1-2 ฎีกา ยื่นฎีกาให้ลงโทษสถานเบาด้วย ศาลฎีกาตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือแล้ว ศาลฎีกาพิพากษาแก้เป็นว่าให้จำเลยที่ 1 และ 2 ถูกปรับคนละ 80,000 บาท โทษจำคุกของจำเลยที่ 1-2 ให้รอการลงโทษไว้ 1 ปีด้วย เนื่องจาก ศาลเห็นว่า มีพยานปากหนึ่งให้การว่า การรับปริญญาของที่นี่ มีเพียงค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าถ่ายภาพ 2,000 บาทเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าจำเลยทั้ง 2 ไม่ได้แสวงความประโยชน์จากการมอบปริญญาบัตร แม้เป็นความผิดต่อกฎหมายที่ไม่ได้รับใบอนุญาต หรือรับอนุญาตก่อนแต่เห็นได้ว่าพฤติการณ์แห่งคดี ไม่ร้ายแรงนัก โดยจำเลยที่ 1-2 ยังคงมีโทษจำคุกจากคดีอื่นๆ จึงยังถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำ.-สำนักข่าวไทย